เลขาฯสมช. ยัน ศบค.ส่วนหน้า ไม่ซ้ำซ้อนแก้โควิด ลั่นเปิดประเทศต้องเร่งฉีดวัคซีน รายละเอียดชัดเจนใน 2 วัน ชี้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ อยู่ที่สถานการณ์

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 พื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.สั่งการให้ตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือศบค.ส่วนหน้า

โดยแต่งตั้งพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นผู้อำนวยการ เพื่อบูรณาการส่วนราชการทั้งหมด เพื่อยุติการแพร่ระบาดและสร้างมาตรการป้องกันให้แข็งแรง ไม่ให้เกิดการระบาดในครั้งต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.ส่วนหน้า หารือกันอย่างไรกรณีนายกฯ สั่งการให้กำลังพลเข้าไปช่วยสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรองรับการเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย. พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกโดยเร่งด่วน คือการเพิ่มขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนรองรับวันที่ 1 พ.ย. และกำหนดประเทศที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ส่วนจะกี่ประเท ขอให้ได้ข้อยุติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ต้องเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยงานด้านสาธารณสุข การท่องเที่ยว ภาคเอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายปกครองที่ต้องเตรียมแผนรองรับกรณีเกิดปัญหา เราจะคิดให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ ยังมีรายละเอียดเรื่องการเดินทางเข้าออกให้สะดวกรัดกุม ไม่เป็นผลต่อการแพร่ระบาด โดยใน 1-2 วันนี้จะให้ได้ข้อยุติในรายละเอียดและจะประกาศให้ทราบต่อไป

เมื่อถามว่าช่วงเปิดประเทศจะพิจารณาใช้กฎหมายปกติ และยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าทำได้ แต่ที่จริงต้องดูรายละเอียดว่าสิ่งที่ออกมาตรการไปจะใช้กฎหมายใดมารองรับ และมีอะไรยังจำเป็นหรือไม่จำเป็น ต้องให้คณะทำงานพิจารณาอย่างรอบคอบ

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้การทำงานของศบค.ส่วนหน้าซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อน เนื่องจากเราลงไปดูพื้นที่เฉพาะ ที่มีความซับซ้อนหลายเรื่องในการแก้ปัญหา ที่สำคัญคือต้องแก้อย่างรวดเร็ว และทุกหน่วยงานต้องได้รับการสนับสนุนอย่างคล่องตัว จึงตั้งศบค.ส่วนหน้าขึ้นมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน