‘ทวี’ ชี้ถ้ารัฐบาลอยู่ยาว ทำประชาชนยากจน คุณภาพชีวิตแย่ลง ความมั่นคง-มั่งคั่งอยู่แต่ในกลุ่มพวกพ้อง จี้ นายกฯ ยุบสภา

วันที่ 4 มี.ค.65 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผย ในระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่วัดลำภู ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับแก้ไข จะเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ คือมี ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขส่งผลต่อกฎหมาย 2 ฉบับ ตามรัฐธรรมนูญจะแยกบัตรเลือกตั้งเป็นเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 ใบที่เลือกจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ กับบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบเขตที่ทั้งประเทศมีจำนวน 400 เขต หรือ 400 คน

เช่น จ.นราธิวาส มี 5 คน ดังนั้นพรรคการเมืองทุกพรรคจะมีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชี ส.ส.ได้ทุกเขตหรือทุกจังหวัดแบบอัตโนมัติ ส่วนส.ส.เขตนั้นพรรคไหนจะส่งผู้สมัครจำนวนกี่เขตไม่มีการบังคับบางพรรคอาจส่งเต็มจำนวน 400 เขต

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า บางพรรคอาจส่งเพียงบางส่วนในเขตที่เห็นว่ามีโอกาสได้รับเลือกตั้งก็ได้ เห็นว่าคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ เลือกพรรคการเมืองที่ชอบที่มีจำนวน 100 คนนั้น ในการคำนวณสัดส่วนปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้ง ให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับการเลือกตั้งมารวมกันทั้งประเทศ แล้วคำนวณจำนวนคะแนนรวมว่าแต่ละพรรคจะได้จำนวนกี่คน

โดยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีรายชื่อในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง จะได้เรียงตามลำดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อที่จัดลำดับ จะแยกจากคะแนน ส.ส.แบ่งเขตที่มีผลแพ้ชนะในแต่ละเขตเลย

สำหรับส่วนของพรรคประชาชาตินั้น จะบัตร 2 ใบหรือใบเดียวเรามีความพร้อม เพราะตั้งพรรคมา 5 ปี พรรคเราทำการบ้านมาตลอด จึงพยายามจะบอกให้ประชาชนทราบว่า พรรคประชาชาติเรากำลังแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ให้โครงสร้างของประเทศที่สมดุลย์และให้ความสำคัญกับประชาชนต้องมาก่อน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ในการแก้ปัญหาระดับชาติ พรรคประชาชาติเน้นการกระจายอำนาจ กระจายงบประมาณลงไปยังพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามันไม่ใช่การกระจายอำนาจ เป็นการมอบอำนาจให้มายึดครองในส่วนภูมิภาค และมายึดครองในส่วนท้องถิ่น ที่จะมากระจายกลายเป็นครอบงำมากกว่า การแก้ปัญหาแบบนี้ในยุคของคสช. มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด และหนีไม่พ้นถ้าอำนาจอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวจะเกิดการคอร์รัปชั่นมากที่สุด จะไม่มีใครเคารพในสติปัญญา และศักยภาพของประชาชน

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวอีกว่า การแก้กฎหมายการเลือกตั้งน่าจะเสร็จในเดือนพฤษภาคม รัฐบาลประกาศรัฐธรรมนูญเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ เขาจะมีระยะเวลาครบ 4 ปีอยู่ถึงปีหน้า แต่ในทางกฎหมายนายกรัฐมนตรีจะมีบทหนึ่งว่าท่านอยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ ที่จะครบ 8 ปีในเดือนสิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวิกฤตของท่านนายกรัฐมนตรี ท่านจะครอบงำกฎหมายได้ แต่ท่านไม่สามารถมีเหตุผลที่จะไปฝืนเหตุผลบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

“ที่สำคัญอย่างยิ่งไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ว่าท่านจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภา แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับเสร็จ ควรที่จะยุบสภา คือเหมือนปี 2554 พอแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญเสร็จ ปี 2550 และจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็ยุบสภาทันที อันนี้เป็นเรื่องหนึ่งว่านายกฯ จะยุบสภาหรือไม่ ไม่มีกฎหมายห้าม แต่สิ่งที่ท่านอยู่มาเกือบ 8 ปี สิ่งนั้นประชาชนมีคุณภาพไม่ดีขึ้นเลย” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว

ในกรณีที่รัฐบาลอาจอยู่ยาว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ความมั่นคงมั่งคั่งจะอยู่กับนายกฯ และพวกพ้อง แต่ประชาชนมีความยากจน มีความเหลื่อมล้ำและคุณภาพชีวิตที่แย่ลง การศึกษาก็ด้อยลง ดังนั้นเชื่อว่าถ้านายกฯ ยังฟื้นอยู่ท่านก็อาจอยู่ได้ แต่สิ่งที่ประชาชนต้องการคือ “ไม่อยากให้ท่านอยู่” และในทางปฏิบัติเมื่อกฎหมายเสร็จท่านนายกฯ ควรยุบสภา

เช่นเดียวกับประเด็นของการแบ่งผลประโยชน์เพื่อให้รัฐบาลอยู่ต่อได้นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า เข้าใจปัญหาของประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนมาเชื่อ เพราะประชาชนเขาอยู่แบบซื่อๆตรงๆ พรรคการเมืองหลายพรรคพูดว่าเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่จะทำไม่เหมือนกัน

ส่วนพรรคประชาชาติวัดที่คุณภาพชีวิตและความสุข ความเจริญของประชาชน นี่คือความสำเร็จของพรรคประชาชาติ และทุกพรรคมีความมั่นใจในประชาชน และ พรรคประชาชาติ ที่เรามี คือ “ความจริงใจ ที่มอบให้กับประชาชน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน