จุลพันธ์อัดบิ๊กตู่ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ล้มเหลวทุกด้าน คอมพิวเตอร์ตกรุ่น 8 ปีที่ท่านอยู่สูญหาย ไทยเสียโอกาสทุกด้าน วอนร่วมลงมติไม่ไว้วางใจ ให้ประเทศเดินหน้า

วันที่ 20 ก.ค.2565 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในประเด็นความล้มเหลวด้านการบริหารงานเศรษฐกิจ ท่านปล่อยปละละเลย ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

ท่านเป็นต้นตอทำให้ปัญหาเศรษฐกิจที่มียิ่งขยายวงกว้างรุนแรงทำให้ไทยที่เคยมีศักยภาพในการแข่งขันไม่เหลือ ท่านสร้างความเดือดร้อน ทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยทั้ง 70 ล้านคน การมีท่านเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เป็นการวางกับดักเศรษฐกิจไปถึงอนาคตข้างหน้า ท่านคือตุ้มถ่วงฉุดรั้งประเทศ ฉุดรั้งชีวิตคนไทยให้จมอยู่ในกองทุกข์ มีนายกฯ ที่รู้จักแต่กู้ๆ หากไม่นับเศรษฐีที่รัฐบาลอุ้มชู คนไทยมีแต่จนลงๆ

8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์เป็น 8 ปีที่สูญหาย ไทยสูญเสียโอกาสทุกด้าน พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติทุกด้าน เป็น 8 ปีมหาวิกฤติของคนไทย ทั้งปัญหาหนี้สิน เงินเฟ้อ รายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย เอสเอ็มอีล้มหายตายจาก หลายประเทศที่มีวิกฤติโควิด หลายประเทศสะดุดติดขัดแต่เราล้มไม่เป็นท่า ทำไมความสามารถในการแข่งขันของเราลดต่ำลงทุกปี ทำไมคนไทยลำบากขึ้นทุกวัน เป็นคำถามสำคัญ

ลองถามคนไทย 70 ล้านคน เชื่อว่าทุกคนชี้นิ้วมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาคือวิกฤติผู้นำ ซึ่งผู้นำต้องมีวิชชั่นเพื่อคว้าโอกาส แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีวิชชั่นไม่เท่าทันโลก ไม่ทันปัญหา ท่านเป็นน้ำเต็มแก้ว ใครแนะนำอะไร ข้ารู้ข้าเก่ง พูดน้ำไหลไฟดับแต่ฟังไม่รู้เรื่อง

ท่านคือคอมพิวเตอร์ตกรุ่น ไม่สามารถคำนวณแก้ไขปัญหาใหม่ได้แล้ว ไม่ต่างอะไรกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ จะทิ้งยังมีแต่คนรังเกียจ ต้องคิดว่าหาวิธีกำจัด สังคมเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชัชชาติ เทียบกับคอมพิวเตอร์เพื่อไทยที่มีวิสัยทัศน์ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องเปลี่ยนเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่

นายจุลพันธ์ อภิปรายต่อว่า ท่านสร้างหนี้สาธารณะพุ่งเกือบ 10 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมหนี้ที่ซุกไว้อีก 1 ล้านล้านบาทท่านหาเงินไม่เป็นแต่ใช่เงินมือเติบ นายกฯ ก่อนท่าน 28 คน รวมกัน 80 กว่าปีก่อหนี้ไม่เท่าที่ท่านใช้เวลา 8 ปี ท่านเป็นบุคคลล้มละลายทางความเชื่อถือ ท่านจะกู้เงินอีก 100 ล้านล้านก็ทำได้หากท่านอยู่ต่อ แต่ไม่สามารถกู้ศรัทธาประชาชนได้ ใครก็ตามที่สนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ ท่านต้องรับผิดชอบกับความพังพินาศทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไทย

การที่ท่านแถลงเรื่องแก้ความยากจนได้ 92% เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เพราะ 60% ของคนไทยมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย อีก 33% มีรายได้ประคองรายจ่าย ทุกคนมีสถานะพิงฝา ค่าครองชีพที่สูงกระทบคนยากจนที่สุด

ค่าไฟฟ้าที่ขึ้นราคาโดย พล.อ.ประยุทธ์อยู่บ้านหลวง ไม่ต้องจ่าย ซึ่งปลายปีก่อนปรับค่าเอฟทีขึ้น 10% เป็นความผิดของรัฐบาลที่ให้อภัยไม่ได้ เพราะไฟฟ้าเป็นของรัฐ เป็นสวัสดิการที่รัฐต้องจัดสรร แต่กลับมาเพิ่มภาระให้ประชาชน และไตรมาสสุดท้ายของสิ้นปีนี้ ท่านเตรียมปรับขึ้นค่าไฟขึ้นยูนิตละ 5 บาทกว่า เป็นการสร้างวิกฤติซ้อนวิกฤติ

ท่านต้องหยุดความคิดโง่ๆ นี้ ตนขอฟ้องประชาชน ที่ค่าไฟขึ้นเพราะความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์จากสัญญาการโอนสัมปทานแก๊ซธรรมชาติในอ่าวไทยใช่หรือไม่ เลยเป็นปัญหาในการผลิตไฟฟ้า และนโยบายการปล่อยใบอนุญาตการทำโรงไฟฟ้าอย่างพร่ำเพรื่อ ไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็นถึง 50% ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าความพร้อมฟรีๆ เดือนละ 8 พันล้านบาท นี่เป็นต้นทุนของค่าเอฟที

นายจุลพันธ์ อภิปรายต่อว่า ท่านแก้เงินเฟ้อโดยใช้ สมช.ถามว่าผิดฝาผิดตัวหรือไม่ สภาพัฒน์ไม่ใช้กลับใช้ทหารนำสื่อบอกว่าที่ท่านใช้ทหารมานำเศรษฐกิจ เพราะท่านกลัวว่าปัญหาราคาพลังงาน ราคาอาหารจะขยายผลเป็นวิกฤติการชุมนุม ท่านห่วงตัวเองกลัวม็อบออกมาขับไล่ นอกจากนี้ยังทำให้ไทยเกิดวิกฤติด้านเหลื่อมล้ำความมั่งคั่งสูงที่สุดในโลก พล.อ.ประยุทธ์ไม่แก้แต่ยังเอื้อนายทุนใหญ่

ขอมอบสโลแกนให้ว่า พล.อ.ประยุทธ์หัวใจคือนายทุน และที่ท่านออกมาแถลงเรื่อง 3 แกนพัฒนาประเทศขอเวลาอีก 2 ปี เป็นคำพูดประจานตัวเอง ปลอม กลวง ไม่มีความรู้ ท่านอยู่มา 8 ปีเพิ่งตื่นเหรอหรือความจำเสื่อม งบประมาณผ่านมา 30 ล้านล้านบาทไม่ทำอะไรเลย ใช้งบเพื่อรักษาอำนาจ ไม่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอะไรเลย

ต้นทุนด้านความฉลาดท่านไม่มาก เวลาจะพูดอะไรต้องศึกษาดีๆ อย่าปล่อยไก่ ท่านหมดความน่าเชื่อถือ บอกได้คำเดียวว่าพอเถอะ ประเทศกำลังนับถอยหลังเหมือนศรีลังกา เงินเฟ้อพุ่งสูงเรื่อยๆ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงในเวลาอันสั้นถึง 1 ล้านล้านบาท ที่เหมือนที่สุดคือผู้นำอยู่ในตำแหน่งยาวนาน เสพติดอำนาจ ขี้โมโห แต่ของเขาดีหน่อยที่ไม่ขว้างปาของ โซเชียลตั้งคำถามว่าท่านจะออกไปดีๆ หรือไปแบบศรีลังกา

เสียงฝ่ายค้านของพวกผมอาจไม่เพียงพอถอดถอน พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งได้ แต่กระแสความโกรธแค้นชิงชังของประชาชนสะสมเกือบถึงจุดที่จะระเบิดแล้ว ข้อหาตามญัตติคือบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลวมาจากวิกฤติผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์พรากทุกสิ่งไปจากประชาชน

ท่านเหมือนปีศาจที่ดูดกินชีวิตประชาชน

การที่พล.อ.ประยุทธ์เปรียบประเทศเป็นรถยนต์ที่ผุพัง แสดงว่าท่านทราบว่าการบริหารของท่านทำให้ไทยเสียหายไปมากมาย แต่ท่านกลับมีหน้ามาขอให้คนไทยช่วยกันเข็น ท่านใช้อะไรคิด ท่านขอให้คนในชาติช่วยรับผิดชอบได้อย่างไร ทั้งที่ท่านกินเงินเดือนพวกเขาทุกวัน และท่านไม่ใช่คนที่เขาเลือกมา ท่านปล้นเขามา ทุกคนต้องทนทุกข์ทรมานกับความไร้ความสามารถของท่าน

วันนี้ประชาชนไม่มีอะไรเหลือ แต่เขายังมีความหวังว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน พวกเขาจะได้เลือกตั้งใหม่ และความหวังครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นแล้ว พรรคพท.ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็หวังว่าสมาชิกจะได้เห็นความพังพินาศภายใต้น้ำมือพล.อ.ประยุทธ์ อย่าหวังเพียงอำนาจ เงินทองทรัพยสินเฉพาะหน้า กล้วยอาจจะซื้ออุดมการณ์บางคนได้ ท่านอาจเชื่อว่าเงินซื้อเสียงประชาชนได้ แต่ท่านจะร่ำรวย มีความสุขบนซากปรักพัง บนคราบน้ำตาประชาชนจริงๆ หรือ

ขอให้คิดถึงอนาคตของลูกหลาน ร่วมกันลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน