“ผบ.ทอ.” เด้งรับนโยบาย ‘นายกฯ’ ชะลอ จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ ยันไม่พับโครงการ-สานต่อปีหน้า รองรับ F-16 ปลดปี’71 เตรียมกำหนดเงื่อนไข บริษัทคู่ค้า ซื้อผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ

4 ต.ค. 66 – ที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 กองทัพอากาศ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีการจัดทำงบประมาณปี 2567 ของกองทัพอากาศ เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการชะลอการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ที่ไม่จำเป็นว่า

กองทัพอากาศได้รับทราบนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมทั้งได้ชะลอโครงการ การจัดซื้อจัดหาอาวุธ โดยเฉพาะโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ ซึ่งท่านก็รับทราบ และเข้าใจถึงความจำเป็นของกองทัพอากาศ

แต่ในปีนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ซึ่งต้องมาร่วมมือกับทางรัฐบาล กองทัพอากาศก็จะใช้การปรับปรุงเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการซ่อมบำรุง เน้นการจัดหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนอย่างเช่นเรามีแผนที่จะปรับปรุงเครื่องบิน BT67 ที่จะสามารถบรรจุแทงค์น้ำได้ในการดับไฟป่า รวมถึงการสลายหมอกควัน ในส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นโครงการเล็กๆน้อยๆ ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเช่นการซ่อมแซมอากาศยาน

เมื่อถามว่า ต้องพับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ไปเลยหรือไม่ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี ระบุว่า คงพับแขนไม่ได้เพราะเรามีข้อจำกัด ตามรัฐธรรมนูญที่เราต้องปฏิบัติตามความมั่นคงในเรื่องการปกป้องเอกราชอธิปไตย ซึ่งในปี 2571 เป็นต้นไป เราจะเริ่มทยอยปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ F16 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ปีปลดประจำการ

ระหว่างนี้เราพยายามซ่อมบำรุงเพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะฉะนั้นการจัดหาเครื่องบินมาทดแทนต้องใช้ระยะเวลา เช่นการจัดหาเครื่องบินกริฟเพ้นท์ 1 ฝูงได้ ไม่ได้จัดหามาครั้งเดียว เราต้องใช้เวลาถึง 10 ปี ในการฝึกนักบิน เพื่อให้เกิดความพร้อมรบ เพราะฉะนั้นต้องวางแผนล่วงหน้าและอาจจะต้องขอจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนในปีงบประมาณ 2568

สำหรับโครงการอัพเกรดกริฟเพ้นท์ ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 11 เครื่อง ซึ่งเพียงพอกับการปฏิบัติการทางอากาศ








Advertisement

เมื่อถามว่า ได้เตรียมแนวทางเอาไว้อย่างไรในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ในปีงบประมาณ 2568 พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี กล่าวว่า จะต้องคุ้มค่า เกิดประโยชน์กับกองทัพอากาศ โดย นายกฯ มีนโยบาย ในเรื่องของการ ไปซื้อของต่างประเทศมา ในขณะเดียวกันให้ประเทศนั้นเข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ของเราด้วย

ซึ่งกองทัพอากาศก็ให้ความสำคัญ และยึดเป็นนโยบาย ถ้าเราจะเอาเงิน ไปซื้ออาวุธของต่างประเทศ บริษัท ที่เป็นคู่ค้าจะต้องนำเงินกลับเข้าประเทศของเรา ในมูลค่าที่ใกล้เคียงกัน หรือตามสัดส่วนที่จะกำหนดต่อไป อย่างบางประเทศ กำหนด เป็นอัตราตายตัวแต่ในส่วนของเราขณะนี้ยังไม่มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ประชาชนได้ ในอนาคตกองทัพจะอยู่เคียงข้างประชาชนและเข้าใจบทบาทของผู้มาบริหารประเทศก็จะไปด้วยกันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน