จากกรณีรายการโหนกระแส วันที่ 18 เม.ย. ได้เผยว่ามีคนใจบุญ มอบเงินจำนวน 1 แสนช่วยเหลือ “น้องบีม” เด็กพิการซึ่งถูกทนายตัวแสบโกงเงินจำนวน 5 ล้าน ในขณะที่สภาทนายความให้ความหวังว่าจะจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือแต่ก็เงียบหายไป แม้ภายหลังโฆษกสภาทนายความจะออกมาเปิดใจว่ากองทุนดังกล่าวไม่มีแล้ว เนื่องจากมีการช่วยเหลือส่วนตัวไปแล้ว

ซึ่งหลังจากที่เทปดังกล่าวออนแอร์ออกไป รายการโหนกระแสก็โดนกระแสดราม่าหาว่าจัดฉากสร้างภาพหรือเปล่า คนบริจาคเงินไม่มีจริง มโนขึ้นมาเอง พยายามสร้างชื่อเสียงกับรายการเอง โหนกระแส วันที่ 24 เม.ย. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดำเนินรายการในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 จึงได้เปิดตัวทอมผู้ใจบุญ “บิ๊บ กิจจาณัฏฐ์ ชัยยศบูรณะ” ผู้มอบเงิน 1 แสนช่วยเหลือน้องบีม รวมไปถึง “คุณพรทิพย์ แก้วผ่อง” แม่น้องบีม และ “น้องบีม ภัทรดา แก้วผ่อง” มาร่วมพูดคุยกันในรายการ

คุณช่วยยืนยันว่าคุณเป็นคนบริจาค?
บิ๊บ : “ผมเป็นคนเข้ามาบริจาคเองจริงๆ”

ทำไมตอนนั้นไม่เปิดเผยชื่อตัวเอง?
บิ๊บ : “ผมคิดว่าการทำบุญไม่จำเป็นต้องเสนอภาพออกไป ผมแค่อยากช่วยเขาเฉยๆ เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องสร้างภาพออกมา”

ผมพยายามให้ทีมงานติดต่อคุณให้มาออกรายการทำข่าวโปรโมตแต่วันนั้นคุณไม่ยอม แล้วเพราะอะไรวันนี้ถึงยอมมาออก?
บิ๊บ : “ตอนแรกผมเห็นน้องเขาน่าสงสาร เลยติดต่อทีมงานว่าอยากจะช่วย สุดท้ายทางทีมงานก็เลยบอกว่าให้มาออกหน่อยเถอะเพราะคนคิดว่ารายการสร้างภาพ หาว่าไม่ได้แจกจริง ไม่ได้ให้กันจริงๆ วันนี้ก็จะมายืนยันว่าแจกจริง ทางรายการจะได้ไม่เสียหายเพราะผมเป็นคนที่มาแจกเอง 1 แสนบาทให้น้องบีม”

ไหนๆ คุณบิ๊บมาออกแล้ว ขออนุญาตพูดถึงตัวตน คุณเป็นใครมาจากไหนทำไมอยู่ดีๆ มีเพจบอกว่าปลดหนี้ฟ้าผ่า?
บิ๊บ : “จริงๆ ผมมีโครงการแจกอยู่แล้ว ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำธุรกิจ ที่บ้านทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก ผมก็เริ่มมาสร้างธุรกิจเอง มีทำธุรกิจหลายตัว เสร็จแล้วพอทำธุรกิจตัวใหม่ ผมได้มีโครงการต่างๆ ออกมาคือโครงการปลดหนี้ฟ้าผ่า ปลดหนี้ฟรีๆ ไม่มีเงื่อนไข”

มันคืออะไร ต้องทำยังไง มีหลักเกณฑ์ยังไง?
บิ๊บ : “คือปกติผมมีการแจกเงินอยู่แล้วในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผม เนื่องด้วยตอนแรกมีคนมาขอเงินในเฟซบุ๊ก”

คุณรวยขนาดใครเป็นหนี้ต้องยื่นมือไปให้เขา คุณรวยขนาดนั้นเลยเหรอ?
บิ๊บ : “คือปกติบริษัทมีงบการตลาดอยู่แล้ว คือปกติในค่าใช้จ่ายในการจ้างดารา ผมก็ประหยัดมาทั้งหมด เพื่อเจียดเงินในส่วนที่ผมประหยัดปกติผมไม่ใช้คนฟุ่มเฟือย ผมก็เอาเงินส่วนนี้มาแจกเงินทั่วไป ปกติจ้างดาราจ้างอะไรหลายๆ อย่างเป็นแสนๆ แต่ตรงนี้ปลดหนี้ทั้งชีวิตให้คนมีความสุขได้ ผมเลยเอามาใช้จ่ายตรงนี้ด้วย”

คุณมีเพจของคุณเองชื่ออะไร?
บิ๊บ : “บอสบิ๊บทอมพันล้านครับ เป็นเฟซบุ๊กส่วนตัว ช่วยเหลือคนจน คนเป็นหนี้ ตอนแรกผมแจกเฉยๆ ก่อน วิธีการคือเข้ามากดแชร์แค่นั้นเองไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องขายของไม่ต้องซื้อสินค้า”

เพื่ออะไรทำไมต้องกดแชร์แล้วจะแจกเงินเขาทำไม ไม่เข้าใจ?
บิ๊บ : “คือตอนเด็กๆ ครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่ทำธุรกิจมาก่อน พอผมมาทำธุรกิจเสื้อชั้นในทอม ถัดมาทำเครื่องสำอางตัวหนึ่งเป็นเซรั่ม งบการตลาดที่เหลือผมเอามาใช้แจก ผมคิดว่าแทนที่จะเอาไปใช้ในส่วนอื่น ก็เอามาใช้คืนกำไรให้สังคม ตอนเด็กๆ ผมเห็นคนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ คนเราบางทีมีการเป็นหนี้ไม่ตั้งใจ อย่างเราอาจไม่สบาย พ่อแม่ไม่สบาย ก็อาจเอ็กซิเดนท์อะไรต่างๆ เขาก็มาขอเงินผม โอเคผมก็ช่วยเขาไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าแคมเปญนี้ไม่ตอบโจทย์คนเป็นหนี้ ผมเลยคิดว่าต้องปลดหนี้เขาทั้งหมด เลยมีโครงการปลดหนี้ฟ้าผ่าขึ้นมา”

ตอนนี้แจกไปเท่าไหร่แล้ว?
บิ๊บ : “หลายล้านแล้วครับ ตั้งเป้าแจกทั้งหมด 10 ล้านบาท”

ไม่ได้เป็นญาติ แต่เห็นว่าเขาเป็นหนี้ กันงบจากที่จ้างดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ คุณเอางบไปให้คนเป็นหนี้?
บิ๊บ : “ใช่ครับ”

เท่าที่รู้ประวัติมา คุณเป็นลูกหลานเจ้าของสีชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง แต่คุณเองไม่ยอมใช้เงินในครอบครัว ทำไม?
บิ๊บ : “ผมรู้สึกว่าคนเราจะทำธุรกิจและประสบความสำเร็จ และภูมิใจได้ มันน่าจะต้องเริ่มที่ตัวเอง ไม่งั้นก็จะมีคนบอกว่าผมก็เป็นคนรวยอยู่แล้ว ผมก็สำเร็จได้ ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังได้รับคำพูดนี้อยู่ ก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าผมสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวผมเองจริงๆ”

จุดเริ่มต้นไม่ยอมพึ่งพาทางบ้าน มาทำชุดชั้นในทอม?
บิ๊บ : “คือตอนแรกผมเห็นทอมใส่สเตย์แล้วอึดอัด ผมก็อยากเปลี่ยนชีวิตเขา ให้เขามีความสุขขึ้น ด้วยการทำเสื้อในทอมตัวนี้ จริงๆ ก่อนทำเสื้อในทอมผมทำธุรกิจหลายอย่างมาตั้งแต่ 19 ตั้งแต่ปี 1 เข้ามหาวิทยาลัย ล้มลุกคลุกคลานมาหลายอย่าง”

ขายดีมั้ย?
บิ๊บ : “ขายดีครับ ตอนนี้เป็นอันดับหนึ่งในเทศไทย ชื่อว่า Secant ทอมต้องรู้จักครับ ตัวนึงก็ 450 บาท ไม่แพง คนอ้วนๆ ก็ทำให้แบนได้โดยไม่ต้องรัด”

คุณมีประวัติแปลกๆ เป็นลูกคนรวย มีสตางค์ แต่วันหนึ่งไปเร่ขายของจนถูกวิ่งไล่จับ?
บิ๊บ : “ผมเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ เพราะฉะนั้นจุดเริ่มต้นการขายเสื้อใน ผมก็ไปเริ่มต้นขายแบกะดินตามตลาดนัด เทศกิจวิ่งไล่ ผมก็วิ่งหนีเทศกิจ ก็แบกหมาไว้ข้างหนึ่ง แจกโบชัวร์เอง เริ่มจากศูนย์เลย ขายแบกะดินเอง”

คุณจะทำเพื่ออะไร?
บิ๊บ : “ผมอยากประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง และอยากรู้ว่าเริ่มต้นจากศูนย์เป็นอย่างไร จะได้เข้าใจว่าคนที่ลำบาก ไม่มีเลย เป็นอย่างไร”

คุณเป็นทอม มีอุปสรรคในการใช้ชีวิต?
บิ๊บ : “ผมมองว่าไม่มี แล้วแต่คนจะมอง บางคนบอกเราเด็ก มีอุปสรรคในการใช้ชีวิต บางคนบอกเราแก่ไป ไม่มีการศึกษา เราเป็นนั่นเป็นนี่ ผมว่าทอมก็เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นข้ออ้าง เราจะเป็นอะไรก็ได้ จะเป็นคนตัวเตี้ย ตัวสูง ตัวอ้วน ตัวใหญ่ การศึกษมีไม่มี ผมว่าไม่ใช่ข้ออ้าง ในการทำให้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ”

แต่กรณีคุณเป็นทอมแล้วมาทำธุรกิจ?
บิ๊บ : “ผมมองว่าก็ไม่ต่างกับผู้หญิงที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ตอนแรกทุกอย่างก็มีอุปสรรคหมด อยู่ที่เราจะแก้ไขอุปสรรคนั้นยังไง เรามองกันที่เนื้องานและผลลัพธ์ของงานนั้น ว่าจะเป็นยังไง เราเป็นอะไรก็เป็นได้หมด แต่อย่าทำให้เดือดร้อนใครก็แค่นั้นเอง การที่ผมเป็นทอม อาจไม่ถูกใจใครหลายๆ คน ไม่ถูกต้องในสายตาใครหลายๆ คนแต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน การที่ผมเป็นอะไรก็ตาม ถ้าผมคิดว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนผมก็ทำ ผมคิดว่าผมเป็นทอมไม่ได้เดือดร้อนใคร ใครๆ ก็สามารถทำธุรกิจได้ มีหลายคนเหมือนกันที่เขาไม่ได้ดูถูกแค่ทอมหรอก แต่เขาดูถูกคนที่แตกต่าง ถ้าเราแตกต่างจากเขาก็ดูถูกเราและหาทางบี้เราจนได้ สมมติเราหน้าตาขี้เหร่ แต่ไปอยู่ในกลุ่มคนหน้าตาดี ก็อาจเป็นอุปสรรค แต่ถ้าเรามองว่าดาราหน้าตาไม่ดีหลายๆ คนก็ยังดังได้ ผมก็เป็นทอมคนหนึ่งที่มองว่าการเป็นสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคในชีวิตเรา ผมเลยอยากบอกคนอื่นว่าไม่ต้องห่วงผม และให้ดูตัวเองด้วยว่าสิ่งที่บอกว่าเป็นอุปสรรคชีวิตมันใช่จริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นข้ออ้างมาทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ ผมมองแค่นี้”

ทำไมมีฉายาว่าทอมพันล้าน?
บิ๊บ : “คือผมทำธุรกิจในเรื่องเสื้อในทอมประสบความสำเร็จ”

คุณขายเสื้อในทอมเป็นพันล้านเหรอ?
บิ๊บ : “เสื้อในทอมผมขายไปทั่วเอเชีย มีข่าวที่ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ตลาดทอมนี่ใหญ่แต่คนอาจไม่เห็น”

การที่คุณมาทำปลดหนี้ฟ้าผ่า หลักเกณฑ์ของคุณคือยังไง?
บิ๊บ : “ทำถูกกติกาครับ คือกดติดตาม กดแชร์เฟซบุ๊ก และส่งเรื่องของเขาไปในไลน์ เป็นหนี้อะไร เป็นหนี้เท่าไหร่ อยู่จังหวัดไหน ผมจะไปปลดหนี้ฟรีให้หน้าบ้าน ถึงจังหวัด ไปมาสามที่แล้วครับ เขาก็ทำตามกติกา”

มีมั้ยที่เขาบอกว่าฉันเดือดร้อนกว่าคนนี้ ทำไมไม่ช่วย?
บิ๊บ : “มีครับ หลักเกณฑ์ของผมคือให้คนที่ทำถูกกติกาก่อน แล้วกดแชร์ให้บ่อยๆ”

คุณมีหลักของคุณ?
บิ๊บ : “ใช่ครับ ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ผมก็อยากช่วยทุกคนแต่เป็นไปไม่ได้ ผมช่วยได้ก็ดีกว่าไม่ช่วยเลย กติกาแค่กดแชร์ มันง่ายมากๆ แล้วส่งเข้ามาในไลน์ว่าคนไหนมีหนี้จริงหรือเปล่า มีคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ”

ถ้าลำบากเขาขอจำนวนเงิน 1 ล้านจ่ายมั้ย?
บิ๊บ : “จ่ายครับ ล่าสุดไปปลดหนี้ตลาดหัวมุม 1 แสนบาท คือเขียนมาเท่าไหร่ก็เขียนมา ผมจะไปปลดหนี้ให้ บางคน 1 หมื่นเป็นทุกข์มาก บางคน 1 แสนเป็นทุกข์มาก ผมจะดูความเป็นทุกข์มากและดูคนที่ทำตามกติกา”

ไม่กลัวมิจฉาชีพสวมรอย?
บิ๊บ : “มีทีมงานเข้าไปเช็กครับว่าเป็นหนี้จริงหรือเปล่า อย่างที่บอกจะมีคณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจสอบได้ ชัดเจน”

มีคนด่าคุณสร้างภาพ?
บิ๊บ : “มีครับ แต่ไม่เยอะมาก เขาบอกว่าแจกจริงหรือเปล่า ส่วนใหญ่หาว่าแจกไม่จริง ผมก็บอกว่าแจกจริงไม่จริงก็ให้ไปดูที่สลิปโอน บางทีก็ยื่นเงินสดให้เห็นเลยว่าปลดจริงๆ”

คุณสร้างภาพหรือเปล่ากับการที่มาทำแบบนี้ ต้องการให้คนรู้จักคุณหรือเปล่า?
บิ๊บ : “ผมว่าทุกคนมีจุดมุ่งหมายในการทำอะไรสักอย่าง ถ้าจุดมุ่งหมายของผมคนอื่นมองว่าสร้างภาพ มันทำให้คนอื่นได้ผลประโยชน์ ได้ปลดหนี้ให้ชีวิตเขาดีขึ้น ก็ดีกว่าไปสร้างภาพแล้วไม่มีใครได้ผลประโยชน์อะไรเลย”

คืนให้สังคม?
บิ๊บ : “ครับ อย่างน้อยการสร้างภาพตรงนี้มันมีคนที่ได้ด้วย ก็เป็นการเริ่มต้นให้สังคมอยากจะทำสิ่งดีๆ เหมือนที่ผมทำ”

จะมีต่อไปมั้ย?
บิ๊บ : “มีต่อไปครับ เราจะแจกทุกวันอาทิตย์ รอคนส่งเรื่องมา แล้วจะไปส่งให้ทั่วประเทศไทย ไปดูในเฟซบุ๊กได้เลย”

คุณแม่น้องบีมอยากพูดอะไรกับเขา?
แม่น้องบีม : “ขอบคุณเขามากค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนในประเทศไทยเป็นแบบนี้ เราไม่ได้รู้จักไม่ได้อะไรเขาเลย เขาแค่เห็นข่าวเรากับลูก แล้วก็มาช่วยเรา เงินก็ไม่ได้น้อยๆ เงินเป็นแสน”

เงินแสนเอาไปทำอะไร?
แม่น้องบีม : “เอาไปใช้หนี้แล้วค่ะ”

น้องบีมแฮปปี้มั้ย?
บีม : “ดีใจค่ะ”

ไม่ต้องมีกองทุนอะไรเนอะ?
บีม : “(หัวเราะ) ค่ะ”

คุณบิ๊บ ผมตกใจจริงๆ ที่ขายเสื้อในทอมเป็นพันล้าน?
บิ๊บ : “ครับ แต่ก็มีเซรั่มฮานนาบิอีก เป็นเซรั่มทาหน้า ความจริงมีอีกหลายอย่างที่จะทำในอนาคตข้างหน้า มีโครงการต่างๆ”

การให้เงินช่วยเหลือคนสักคนเป็นแค่ปลายทาง สุดท้ายใช้เงินหมดไปก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่จะทำให้ดีต่อไปได้ อยากให้หาอะไรให้เขาทำ มีอะไรให้เขาทำบ้างมั้ย?
บิ๊บ : “ผมคิดไว้ตั้งแต่วันนั้นแล้วครับว่าการที่เราเป็นหนี้ บางทีเราใช้หนี้หมดไปแต่รายรับเราไม่ได้เพิ่มขึ้นเราต้องสร้างรายได้ให้มากขึ้น ผมก็คิดว่าเราจะมีโครงการดีๆ ให้กับทั้งสองท่านได้ทำกัน เห็นบอกว่าตอนแรกต้องไปตากแดด ตากลมร้อน ขายมะลิ เดี๋ยวนี้มีอะไรที่สามารถทำอยู่ที่บ้านได้และได้เงินจริงๆ เดี๋ยวผมจะค่อยๆ สอนคุณแม่เอง”

คุณจะให้เขาทำอะไร?
บิ๊บ : “ผมจะพาคุณแม่สอนวิธีการเปิดหน้าร้านออนไลน์ โดยไม่ต้องไปเปิดร้านข้างถนนอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้คนดูมือถือมากกว่าทีวีอีก แสดงว่าเขาสามารถช้อปปิ้งในมือถือ ผมจะสอนคุณแม่และน้องบีมที่ทำไม่เป็นเลย จนทำให้เก่งและไม่ต้องออกไปตรากตรำเหนื่อยข้างนอกอีก”

ต้องเข้าคอร์สมั้ย?
บิ๊บ : “ความจริงเป็นโครงการของผมที่ผมจะปลดล็อกความจน ผมทำอยู่แล้ว เดี๋ยวจะเอาคุณแม่และน้องไปทำตรงนี้เป็นคู่แรกเลย ผมจะออกค่าใช้จ่ายในการทำให้คุณแม่ฟรี อย่างเช่นออกค่าสินค้าให้ ให้แพ็กเกจมูลค่า 1 แสนบาทเพิ่มให้คุณแม่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”

เหมือนเอาฮานนาบิให้เขา 1 แสนและสอนให้เขา?
บิ๊บ : “ครับ เอาไปทั้งหมด แล้วก็จะจัดให้ เอาไปต่อเงิน ไม่ต้องกลัวครับ ผมสอนจากคนที่เล่นมือถือไม่เป็นเลย จนมีรายได้ อันนี้ง่ายๆ สบายๆ แน่นอน ผมจับมือสอนเอง”

คุณบิ๊บ โครงการที่ตั้งแต่ละโครงการ ไม่ว่าเรื่องปลดหนี้ฟ้าผ่า ปลดล็อกความจน ทำไมต้องมีโครงการเหล่านี้ออกมา เพื่ออะไร?
บิ๊บ : “คือโครงการปลดหนี้ฟ้าผ่า ผมรู้สึกว่าคนเราไม่ตั้งใจเป็นหนี้หรอก บางทีเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้จากอุบัติเหตุต่างๆ จากชีวิตที่มันเกิดขึ้นมา บางคนแก้หนี้ตัวเอง 3 ปี 5 ปี ถ้ามีโครงการดีๆ แบบนี้และคืนความสุขให้เขาได้ ผมก็อยากคืนความสุขให้กับสังคม การเล่นเกมแจกเล็กๆ น้อยๆ มันไม่สามารถปลดหนี้ให้เขาได้ ส่วนโครงการถัดมาพอปลดหนี้ปั๊บ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีปัญหาขึ้นมาและไม่สามารถสร้างรายได้เพิ่มได้ ผมเลยมีโครงการที่สองปลดล็อกความจนขึ้นมา ก็อยากให้มามองว่าสุดท้ายแล้ว ก็ช่วยเหลือให้เขามีรายได้อย่างยั่งยืน เลยเป็นโครงการปลดล็อกความจน”

มีทีมงานเยอะมั้ย?
บิ๊บ : “มีพนักงานที่บริษัท แต่จริงๆ ต้นเรื่องมาจากผมที่อยากจะช่วยให้คนพ้นทุกข์จากสิ่งที่เขามี เพราะรายได้ไม่พอกับรายจ่าย พอเป็นเอ็กซิเดนท์ ทำให้คนไทยเป็นหนี้เยอะ”

โครงการปลดล็อกความจน กติกาคืออะไร?
บิ๊บ : “ปกติสินค้าผมเริ่มต้นจำหน่ายแค่ 3 ชิ้น แต่ถ้าคุณซื้อไป 77 ชิ้น เข้าโครงการปลดล็อกความจนกับผม ถ้าขายไม่หมด ผมคืนเงินให้ ขายหมดคุณจะได้จับเงินแสน ผมจะพาคุณจับเงินแสนโดยใช้โครงการปลดล็อกความจนเข้ามา ขายได้ยังไงจะสอนตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็นเลย บนโลกออนไลน์ จะสอนจนทำเป็น ผมมองว่าคนไทยจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เพียงแค่เขาไม่มีโอกาสเรียนรู้ ผมจะสอนให้เขามีอาชีพ และเข้าโครงการปลดล็อกความจน”

คุณจะได้อะไร?
บิ๊บ : “ถ้าโครงการปลดหนี้ฟ้าผ่าไม่ได้อะไรเลย ผมให้เขาไปฟรีๆ แต่ปลดล็อกความจน ความจริงผมสอนเขามีรายได้ ผมผลิตให้เขาและให้เขาไปจัดจำหน่าย ขายสินค้า เขาจะมีอาชีพไปตลอดชีพของเขา”

เหมือนแชร์ลูกโซ่มั้ย?
บิ๊บ : “ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ครับ แชร์ลูกโซ่คือเอาเงินไปวางไว้และไม่ได้ทำอะไรเลย ของผมเราสอนให้เขาโพสต์ขายในอินเตอร์เน็ตให้เป็น เหมือนตั้งหน้าร้านออนไลน์แค่นั้นเอง ถ้าแชร์ลูกโซ่คือเขาไม่ต้องทำอะไรเลย เอาเงินมาต่อๆ กัน แต่อันนี้สอนให้เขาทำงานให้เป็นด้วย เหมือนขายพวงมาลัย ผมสอนให้เขาขายในอินเตอร์เน็ตยังได้เลย ถ้ารู้วิธีการ คนทั่วไปไม่รู้วิธีการ ลองผิดลองถูกกัน ผมจะสอนวิธีการให้”

ทอมพ่อพระนะ?
บิ๊บ : “ตอนทำเสื้อในทอมก็เป็นพ่อพระของทอมไปแล้ว ตอนนี้ก็อยากขยายสู่สังคมคนทั่วไป ให้ผลประโยชน์คืนกลับไปสู่สังคมไทย ปกติทอมรู้จักผม”

อยากพูดอะไรอีก?
แม่น้องบีม : “ขอบคุณจริงๆ ค่ะ คนไม่ได้รู้จักกัน แต่มาช่วยเหลือกัน”

เคยทำมั้ย?
บีม : “ไม่เคยทำค่ะ”

สุดท้ายอยากพูดอะไร?
บิ๊บ : “สิ่งที่ผมเริ่มทำโครงการนี้ขึ้นมา อยากจะให้โอกาสเริ่มชีวิตใหม่กับคนที่เป็นหนี้ ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ อยากให้คิดว่าตัวเองจะต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยในการหารายได้มากขึ้น แค่ส่งเรื่องเข้ามาครับ อยากให้มองว่าสร้างภาพหรือไม่สร้างภาพมาดูกันเองว่าเขาแจกจริง ได้จริงมั้ย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน