หลวงพี่เปิดใจ โยมถวายเพลผ่านแอป รับพรผ่านวีดีโอคอล เชื่อวัดอยู่ที่ใจ ทำกันเพียบ!

โลกยุคใหม่ ผู้คนทำทุกอย่างบนโลกออนไลน์ได้ แม้แต่กระทั่ง ทำบุญถวายอาหารเพลพระ กลายเป็นเรื่องฮือฮา เมื่อเฟซบุ๊ก พระอิทธิยาวัธย์ สุวีรวราวุฒิ โชติปญฺโญ ได้โพสต์เรื่องราวว่า โยมได้สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ให้พนักงานดิลิเวอร์รีมาส่ง ประเคน พร้อมกับรับพรผ่านVideo Call

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พระอิทธิยาวัธย์ เปิดเผยว่า โยมตั้งใจอยากทำบุญ แต่ติดขัดว่าต้องทำงานในเมือง จึงไม่สะดวกเดินทางมา อนุโมทนารับบุญผ่านวิดีโอคอลก็ทำงานต่อได้ ส่วนอาตมาก็เลยเห็นว่าเป็นรูปแบบใหม่ของการทำบุญ ซึ่งทางพระเองก็ไม่คุ้นเคย ญาติโยมก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ทำบุญในวาระสำคัญต่างๆ แล้วก็เพื่อความสบายใจด้วย จึงโพสต์เล่าสู่กันฟัง ซึ่งความจริงมีมาสักระยะหนึ่งแล้ว

พระอิทธิยาวัธย์ กล่าวอีกว่า พระอาจารย์ตามวัดต่างๆ ในเมืองก็บอกเล่าให้ฟังว่าได้รับเหมือนกันเกือบจะทุกวัด ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเทรนตามยุคสมัย ซึ่งหลายคนมาถกเถียงกันในสื่อโซเชียลว่าจะได้รับบุญไหม หรือถกเถียงกันว่า เดลิเวอร์รี่คนที่นำมาส่งจะแบ่งบุญกับเจ้าของเงินที่โทรสั่งซื้อไปถวายคนละครึ่งหรือไม่

จึงอยากจะบอกว่าบุญตามความหมายสามารถแปลได้ 2 ประการคือ การสละออก กับแปลงว่า “เต็ม “ สละออกคือ เป้าหมายของการทำบุญคือการที่เราได้กลัดเกลาตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง ลดลงหรือไม่ การที่เราใช้แอปพลิเคชั่นสั่งถวายผ่านทางเดลิเวอร์รี่ เป็นจิตที่เจตนาอยากจะทำทาน คือ 1. “ การสละปัจจัยเพื่อที่จะบำรุงพระศาสนา ดังนั้น รูปแบบการถวายเปลี่ยนไป แต่เจตนาไม่เปลี่ยน”

2 .หลังจากที่เขาได้ถวายแล้ว จิตใจของเขาก็อิ่ม ก็เต็มด้วยบุญกุศลเหมือนเดิม ที่สำคัญบุคคลที่ทำหน้าที่ถวายเขาก็ได้ส่วนแห่งบุญด้วย อุปมาเหมือนการที่เราได้จุดเทียน โดยตัวเราเป็นเจ้าของเทียนเมื่อจุดสว่างแล้วก็ไปจุดให้คนอื่นๆต่อ แสงไฟของตัวเองก็ไม่ได้ลดลงหรือหายไป แต่กลับทำให้เทียนเล่มอื่นได้สว่างไปด้วย คนที่มาส่งเองก็จะได้มีส่วนแห่งบุญนั้นด้วย ส่วนที่มีการวีดีโอคอลรับพรนั้น จะเป็นเฉพาะญาติโยมที่รู้จักกัน ก็โทรมารับพรผ่านทางวีดีโอคอล แต่ถ้าไม่รู้จักกันก็ไม่ต้องทำ แต่ผ่านทางคนส่งของเท่านั้น

“มีหลายคนตั้งคำถามว่า เมื่อมีลักษณะนี้เกิดขึ้นในอนาคตคนจะเข้าวัดทำบุญหรือไม่ ส่วนตัวอยากอธิบายว่า เทคนิคหรือรูปแบบเปลี่ยนไป แต่สุดท้ายแล้ววัดที่แท้จริงไม่ใช่เป็นแค่อาคารสถานที่หรือบริเวณเท่านั้น แต่วัดที่แท้จริงคือ วัดที่อยู่ในใจคน สมมุติว่าถ้าจิตใจของคนมีความสงบร่มเย็น สามารถกลัดเกลากิเลสได้ ก็คือ วัดที่แท้จริงที่อยู่ในใจคน จะยั่งยืน

ก็เห็นว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนไป แต่แก่นของธรรมมะยังเหมือนเดิม คือ สละกิเลส กลัดเกลาตนเอง ผ่านรูปแบบการทำบุญไปในรูปแบบต่างๆ ไปตามตามยุคสมัย และเชื่อว่าคนที่ทำบุญหากมีโอกาสมีเวลาก็จะยังเข้าวัดทำบุญด้วยตัวเองเช่นเดิม จะไม่ลดลงแน่นอน อาจจะบ่อยขึ้นด้วย เพราะทำให้รู้สึกว่าใกล้ชิดกับพระสงฆ์มากขึ้น และการที่เขาทำบุญแล้วทำให้สบายใจ จะทำให้เกิดความศรัทธาเพิ่มมากขึ้นด้วย ก็ไม่รู้สึกว่าการที่ทำบุญผ่านเดลิเวอร์รี่แล้วจะทำให้เขาเข้าวัดน้อยลง แต่มองว่าเป็นโอกาส”พระอิทธิยาวัธย์ กล่าว

พระอิทธิยาวัธย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เหมือนกันเกือบทุกวัด สำหรับวัดที่อยู่ในเมือง โดยสิ่งของที่ญาติโยมสั่งทางแอปให้มาส่งถวายพระ ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำปาณะในช่วงบ่ายๆ ประกอบกับบริษัทที่จะส่งเดลิเวอร์รี่ก็ไม่คิดเงินเพิ่ม และราคาไม่จำเป็นต้องแพงก็ส่ง จึงง่ายต่อการทำบุญของญาติโยมไปตามวัดต่างๆ ซึ่งเป็นผลดีทั้ง 2 ฝ่าย คือ ญาติโยมได้ทำบุญ พระก็ดำรงชีวตอยู่ได้ด้วยความศรัทธาของญาติโยม และ ที่สำคัญเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย จากเดิมญาติโยมที่ขายของไม่ค่อยได้ เศรษฐกิจไม่ดี พอแอปพลิเคชั่นสั่งสินค้าในยุคดิจิทัลมาทำให้ร้านค้าต่างๆขายของได้มากขึ้น รายได้ก็ไปกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เกิดการหมุนเวียนได้มากขึ้น เป็นการกระจายรายได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน