คลัง เผย 10.6 ล้านคน อดเยียวยา 5,000 บาท จากตัวเลขลงทะเบียน เราไม่ทิ้งกัน ทั้งหมด 28 ล้านคน ชี้ให้ทบทวนสิทธิ์แค่รอบเดียว

วันที่ 20 เม.ย. นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คลังตรวจสอบตัวเลขผู้ลงทะเบียนมาตรการรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านเว็บไซต์ WWW.เราไม่ทิ้งกัน.COM ครบ 28 ล้านคนแล้ว พบว่าเมื่อตัดคนลงทะเบียนซ้ำ หรือลงทะเบียนมากกว่า 1 ครั้งแล้วเหลือผู้ลงทะเบียนสมบูรณ์ 23.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ผ่านการคัดกรองกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้ว 21.1 ล้านคน ไม่พบในฐานข้อมูล 1.8 ล้านคน เช่น กรอกคำนำหน้าชื่อ ใส่พยัญชนะผิด ซึ่งต้องมาลงทะเบียนใหม่ภายในวันที่ 22 เม.ย.นี้ และอีก 6 แสนคนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำหรับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครอง 21.1 ล้านคน แบ่งเป็นผ่านเกณฑ์ได้รับเงิน 4.2 ล้านคน ซึ่งโอนไปแล้ว 3.2 ล้านคน เหลืออีก 1 ล้านคนจะโอนให้ครบภายในสัปดาห์นี้ อีก 6.3 ล้านคนต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยกรอกข้อมูลแล้ว 4.4 ล้านคน ซึ่งจะรู้ผลว่าได้เงินหรือไม่ภายในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ส่วนที่เหลือ 1.9 ล้านคน ขอให้รีบกรอกข้อมูลเข้ามาโดยเร็ว

และกลุ่มสุดท้ายคือ ที่ไม่ได้สิทธิ์ 10.6 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตร 33 ที่มาลงทะเบียน 9.2 แสนคน เกษตรกร 6 ล้านคน นักศึกษาและนักเรียน 7 แสนคน แม่ค้าออนไลน์ 4 แสนคน ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในข่ายรับเงิน 5,000 บาท แต่มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มที่ไม่ได้สิทธิ์ ระบบส่งเอสเอ็มเอสไปแจ้งแล้ว 4.7 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะส่งให้หมดภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคลังได้เปิดระบบให้ยื่นทบทวนสิทธิ์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เวลา 06.00 น.

นายลวรณ กล่าวอีกว่า การทบทวนสิทธิ์วันแรก ระบบไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จนถึงเวลา 12.00 น. มีผู้ขอทบทวนสิทธิ์ 7.4 แสนคน ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งใจ ระบบดำเนินการไปได้ดี โดยคลังขอให้ผู้ได้รับแจ้งว่าไม่ได้สิทธิ์ กรอกข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งระบบให้กรอกข้อมูลไม่มาก เช่น ข้อมูลส่วนตัว และยืนยันอาชีพที่ทำจริง สถานที่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรที่ติดต่อได้ มี 4-5 ขั้นตอน ไม่ต้องกรอกข้อมูลเยอะ เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ลงทะเบียนอยู่แล้ว

สำหรับขั้นตอนการยื่นทบทวนสิทธิ์ ให้เข้าไปยื่นทบทวนสิทธิ์ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยเข้าไปเลือกที่เมนู “ยื่นทบทวนสิทธิ์” ซึ่งจะต้องกรอกข้อมูลหมายเลขบัตรประจำตัวประชนชน 13 หลัก หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน และวัน เดือน ปีเกิด หลังจากนั้นให้อ่านข้อตกลงและให้ความยินยอมหลังจากนั้นกรอกข้อมูลคำขอยื่นทบทวนสิทธิ โดยต้องระบุข้อมูลอาชีพที่ตรงกับผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ระบุสถานที่ที่เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้ ระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และยืนยันการทำรายการ

กรณีลงทะเบียนด้วยเบอร์มือถือ ให้ยืนยันรายการด้วยรหัส OTP ส่วนกรณีลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์บ้าน ให้ยืนยันรายการด้วยหมายเลขโทรศัพท์บ้านและรหัสไปรษณีย์ โดยหลังจากยื่นทบทวนสิทธิบนเว็บไซด์สำเร็จ บนหน้าจอจะปรากฏข้อความ “ยื่นทบทวนสิทธิสำเร็จ” และสถานะจะเปลี่ยนทันที เป็น “อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลขอทบทวนสิทธิ”

นอกจากนี้ในรายที่ต้องใช้หลักฐานเพิ่มเติม จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปภาพถ่ายตอนขอทบทวนสิทธิ์ 3 ภาพ ประกอบด้วย 1.ภาพผู้ขอรับสิทธิ์ 2.ภาพบัตรประชาชน และ 3.ภาพยืนยันว่าได้ทำอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนจริงกับสถานที่ประกอบการ

นายลวรณ กล่าวว่า กลุ่มทบทวนสิทธิ์ คลังตั้งเป้าหมายตรวจสอบข้อมูลเร็วที่สุดใน 2 สัปดาห์ หรือบางกลุ่มถ้าพิสูจน์ว่าได้รับสิทธิ์จริง ก็จะโอนได้ภายใน 1 สัปดาห์ เช่น กลุ่มที่แจ้งว่าเป็นเกษตรกร แต่จริงๆ ขับแท็กซี่ กลุ่มนี้เดิมกระบวนการคัดกรองตรวจสอบเจอว่าเป็นเกษตรจึงจับพักไว้ก่อน แต่คลังจะปรับวิธีการใหม่ โดยยึดใบประกอบอาชีพยืนยันตัวตนจริง ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ไปดู เพราะมีหลักฐานพิสูจน์ตัวตนอยู่แล้ว เป็นการตัดการลงพื้นที่ไปได้หลายแสนคน บางรายต้องมีการส่งทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ให้ประชาชน การคัดกรองจะเป็นระดับอำเภอลงพื้นที่ไปตรวจสอบสิทธิ์ให้ประชาชน

ทั้งนี้ สำหรับผู้รับสิทธิ์ที่แจ้งว่าประกอบอาชีพอิสระ ขับแท็กซี่ หรืออื่นๆ เพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทไปแล้ว ในอนาคตหากมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอื่นๆ เช่น เกษตรกรโดยตรง ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์อีก เพราะคลังไม่ต้องการให้รับเงินหลายทาง ซ้ำซ้อน ส่วนนักเรียน นักศึกษา ถ้าทำงานไปด้วย มีการประกอบอาชีพจริง ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือด้วย ซึ่งการศึกษา มีได้ทุกระดับ ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ชี้แจง

นายลวรณ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งปัญหาว่ากระทบวนการทบทวนสิทธิ์ติดขัดอะไร เช่น กรอกข้อมูลแล้วไม่พบ หรือไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มในหน้าเว็บไซต์ได้ โดยคลังขอย้ำกว่า กลุ่มที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ จะต้องเป็นกลุ่มที่ได้รับเอสเอ็มเอส และระบบแจ้งว่า ไม่ได้รับสิทธิ์แล้วเท่านั้น ในกลุ่ม 10.6 ล้านราย กลุ่มที่อยู่ระหว่างพิจารณา จะขอยื่นทบทวนสิทธิ์ไม่ได้ ดังนั้น ขอให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการ รอให้ระบบแจ้งผลการตรวจสอบก่อน

คลังยืนยันความจำเป็นที่จะต้องปิดโครงการรับลงทะเบียนเพิ่มในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เพราะถ้าโครงการไม่ปิด จะไม่มีการประมวลผล ซึ่งคลังย้ำว่าจะมีมาตรการอื่นออกมาเพื่อดูแลกลุ่มที่เปราะบาง มาตรการเราไม่ทิ้งกันไม่ใช่มาตรการเดียวของรัฐบาลในการดูแลผลกระทบจากโควิด-29 ในส่วนผู้ที่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท หากผ่านเกณฑ์ก็จะได้เงินทุกคนที่เข้ามาตรการ ไม่มีเป้า จะเป็นกี่ล้านคนรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลทุกคนที่ผ่านเกณฑ์

ทั้งนี้ การยื่นขอทบทวนสิทธิ์ จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย หากผลการตรวจสอบแจ้งว่า ได้สิทธิ์ หรือไม่ได้สิทธิ์ ก็ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่มีการให้ทบทวนสิทธิ์รอบสอง เพราะการทบทวนสิทธิ์ เป็นการพิสูจน์เพื่อสิ้นข้อสงสัยแล้ว มีการลงพื้นที่จริงว่าทำอาชีพอะไรจริง ถ้าทำจริงก็คือความจริง ถ้าลงพื้นที่ไม่เจอตามที่ลงทะเบียนก็ไม่ได้รับสิทธิ์

นายลวรณ กล่าวว่า มาตรการนี้คนที่ทำอาชีพอิสระเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ความยากของมาตรการคือ เราไม่เคยมีฐานข้อมูลของผู้ประกอบอาชีพอิสระเลย เป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไร ทำให้เราไม่สามารถบอกได้ว่าวันนี้เราจะเยียวยากลุ่มนี้และให้ความช่วยเหลือทันทีได้ จึงต้องสร้างฐานข้อมูลที่มีความแม่นยำ และเอาไปใช้ประโยชน์ได้ขึ้นมา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน