อัจฉริยะ ร้อง‘ลุงพล’ปมฟอกเงิน แฉโอนซุกทรัพย์สินไปให้เครือญาติ ‘พระอาจารย์พล’ก็โดนด้วย ฐานสนับสนุนลุงพลก่อสร้างพญานาค
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจ ปทส.ดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน กับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กรณีบุกรุกป่าสงวนฯ ก่อสร้างวังพญานาค และยังขอให้ดำเนินคดีเดียวกันนี้กับนักการเมือง อย่างนายทวี ไกรคุปต์ และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงแม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินรัฐในจ.ราชบุรี พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปวิดิโอ ต่างๆมามอบพนักงานสอบสวน
- อ่าน ด่วน! ตำรวจเชิญตัว ลุงพล สอบปากคำเพิ่ม ปมสร้างวังพญานาครุกป่า
- อ่าน ลุงพล หวั่นเกิดอาเพศ-ทุบทิ้งพญานาค แฉชายปริศนาโทร.อ้างบิ๊กตร. ช่วยวิ่งเต้นคดี
- อ่าน ลุงพล อารมณ์ดีแดนซ์ยับ ยันทนายตั้ม มาช่วยแน่ เตรียมขึ้นภูเหล็กไฟ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาขอให้ทางบก.ปทส. ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่า บุกรุกที่ดินในราชบุรี รวมถึงให้ดำเนินคดีเดียวกันกับแม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งถูกกล่าวหาว่า บุกรุกที่ดินรัฐในราชบุรี ในความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินเพิ่มเติม
และดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินกรณีที่นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนฯ ก่อสร้างวังพญานาค พร้อมอายัดบัญชีของนายไชย์พล เนื่องจากความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนฯ ถือเป็น 1 ในมูลฐานการฟอกเงิน ซึ่งตนมีข้อมูลเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือญาตินายไชย์พล ที่เกี่ยวกับข้องกับการโยกย้ายถ่ายเทเงินในอีกหลายบัญชี ที่ผิดปกติในการทำธุรกรรมทางการเงินจากจ.มุกดาหาร ไปยังญาติของนายไชย์พลที่จ.สกลนคร
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ขอให้ดำเนินคดีกับพระอาจารย์พล ที่สนับสนุนให้นายไชย์พล ก่อสร้างพญานาค เนื่องจากพระอาจารย์พล มีพฤติกรรมในการจัดหาช่างและควบคุมการก่อสร้าง จึงเข้าข่ายในการสนับสนุนให้บุกรุกป่าฯด้วย
ส่วนความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ ตนยังยืนยันว่า ให้คอยจนถึงวันที่ 15 ก.พ.นี้ เนื่องจากตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ผู้กระทำความผิดไม่มีโอกาสได้ต่อสู้คดี
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รองผู้บังคับการ บก.ปทส. ระบุว่า เบื้องต้นรับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนจากนั้นจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.ฟอกเงินตามที่มีการร้องทุกข์หรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายก็จะทำการสอบสวนดำเนินคดีและแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป ซึ่งในกรณีที่มีการร้องทุกข์แบ่งเป็น 2 พื้นที่ ซึ่งมีการมอบหมายให้พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปทส. และพ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5.บก.ปทส.เป็นผู้ดูแลคดีของแต่ละท้องที่ต่อไป