โวยเดือด รถตู้ อัดผู้โดยสาร 15 คน จากศรีสะเกษ-กทม. เผย ไม่มีใครบนรถโอเคแต่จำใจนั่ง ระบุ เห็นใจผู้ร่วมทาง เพราะไม่มีใครรู้ว่าต้องมาเจอแบบนี้

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 ม.ค.2566 นายสันติสุข บุญเติม เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากที่ได้ทักท้วงคนขับรถตู้คันหนึ่ง เนื่องจากรับผู้โดยสารมา 15 คน ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ทำให้คลิปนี้เป็นไวรัลในโลกโซเชียลมีเดีย ชื่นชมว่าเจ้าตัว เป็นตัวแทนหมู่บ้าน กล้าทักท้วงในสิ่งที่ผิด ว่า วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนจะเดินทางกลับไปทำงาน จากบ้านประทาย กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มาลงที่ ปากซอยแบริ่ง กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถทัวร์และรถโดยสารประจำที่ตนเคยนั่งเต็มหมดแล้ว

รถตู้ อัดผู้โดยสาร 15 คน จากศรีสะเกษ-กทม. เผย ไม่มีใครบนรถโอเคแต่จำใจนั่ง

รถตู้ อัดผู้โดยสาร 15 คน จากศรีสะเกษ-กทม. เผย ไม่มีใครบนรถโอเคแต่จำใจนั่ง

นายสันติสุข กล่าวต่อว่า คนแถวบ้านก็เลยแนะนำให้นั่งรถตู้แล้วให้เบอร์คนขับรถคันนี้มา ตนจึงจำเป็นต้องนั่งรถตู้กลับ เพราะจะต้องกลับมาทำงานในวันที่ 4 ม.ค. โดยตนไม่ได้นั่งรถตู้มาประมาณ 10 ปีแล้ว จึงไม่ทราบว่า ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง โดยวันที่เดินทางคนขับรถตู้ได้โทรมาคอนเฟิร์มว่าจะมารับตนที่บ้านในเวลา 16.30 น. ซึ่งเมื่อรถตู้มารับ ตนก็เห็นว่ามีผู้โดยสารนั่งอยู่แล้ว 2 คน ตนเป็นคนที่ 3 จึงตัดสินใจนั่งเบาะแถว 3 ที่เป็นที่นั่งเดี่ยว

นายสันติสุข กล่าวอีกว่า จากนั้นคนขับรถตู้ก็เริ่มขับไปรับผู้โดยสารท่านอื่นบริเวณอำเภอใกล้เคียงเรื่อย ๆ จนกระทั่งที่นั่งเต็มแล้ว คนขับรถก็ไปรับผู้โดยสารคนที่ 10 ขึ้นมานั่งบริเวณเบาะที่อยู่ระหว่างกลางซ้ายขวาซึ่งเป็นเบาะเสริม ตนสงสัยจึงถามผู้โดยสารท่านนั้นว่า “ทราบไหมคะ ว่าจะได้มานั่งเบาะเสริมแบบนี้” ทางผู้โดยสารตอบกลับมาว่า “ไม่ทราบมาก่อนเลย คิดว่าจะได้นั่งที่นั่งปกติ” ตนจึงถามต่อว่า “โอเคหรือไม่” ผู้โดยสารท่านนี้บอกว่า “ก็ต้องจำใจนั่งเพราะพรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว”

นายสันติสุข กล่าวว่า ตอนนั้นตนเริ่มรู้สึกเห็นใจผู้โดยสารท่านอื่น จึงคิดว่าคนขับรถตู้น่าจะไม่ได้รับผู้โดยสารเพิ่มแล้ว แต่ปรากฏว่ายังคงขับรถไปรับผู้โดยสารท่านที่ 11 และ 12 ต่อ ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจ จึงได้หันไปถามคนข้าง ๆ ต่อว่า “ปกติแล้วรถตู้แบบนี้รับคนกี่คน” ผู้โดยสารก็บอกว่า “ไม่ทราบเหมือนกัน แล้วก็รู้สึกไม่โอเคที่เป็นแบบนี้”

นายสันติสุข กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น เวลา 20.00 น. คนขับรถตู้คันดังกล่าวก็ยังคงขับรถไปรับผู้โดยสารคนที่ 13 ต่อ ตนจึงได้โวยวายเหมือนในคลิป พอผู้โดยสารคนที่ 13 ได้ยินเราโวยวายแบบนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ไป เพราะเขาจะต้องนั่งที่เสริม เนื่องจากที่โดยสารเต็มแล้ว จากนั้น เราก็พูดตามในคลิป ในสิ่งที่เราคิด ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คิดแบบเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

นายสันติสุข กล่าวต่อว่า จากการที่เราสอบถามผู้โดยสารท่านอื่นก็ทราบว่าไม่มีผู้โดยสารคนไหนทราบมาก่อนว่าจะต้องมารับผู้โดยสารเยอะขนาดนี้ ส่วนท่านที่ต้องนั่งเบาะเสริม ก็ไม่มีใครยินดีที่จะนั่ง แต่มันจำใจเนื่องจากพรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว และค่าโดยสารที่จ่าย ก็จ่ายในราคา 700-800 บาท เกือบเท่า ๆ กัน

“เราไม่สามารถเห็นผิดเป็นถูกได้ แล้วเห็นใจผู้โดยสารด้วยกันที่จะต้องนั่งเบียดเสียดเป็นระยะเวลากว่า 600 กิโลเมตร เรามองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย และอันตรายต่อทุกคนในรถ ไม่อยากให้คนขับรถเอาเปรียบผู้โดยสารในช่วงเวลาเทศกาลแบบนี้ จึงได้ตัดสินใจทักท้วงขึ้นมา” นายสันติสุข กล่าว

นายสันติสุข กล่าวอีกว่า เมื่อตอนทักไปคนขับรถตู้ก็เลยไม่พอใจ บอกว่าเราปัญหาเยอะ แล้วก็โดนไล่ลงจากรถด้วย ซึ่งตนไม่ลงแน่นอน ตนจะลงทำไมถ้าหากให้ลงเพียงเพราะว่าเห็นต่าง ทางนี้ตนตัดสินใจนั่งรถไปจนถึงปลายทางโดยที่ไม่กล้าหลับ เพราะระแวงว่าคนขับรถจะปล่อยตนลงจากรถตอนไหน จนมาถึงกรุงเทพในช่วงเวลา 09.30 น.

นายสันติสุข กล่าวว่า จากนั้นวันถัดมาก็นำเรื่องแจ้งไปยังคอลเซ็นเตอร์ของกรมการขนส่งทางบก เพราะอยากจะให้มีการปรับปรุงแก้ไข ไม่อยากให้คนขับรถมาเอาเปรียบผู้โดยสาร และไม่อยากให้ผู้โดยสารเห็นเรื่องผิดเป็นถูก เราควรจะช่วยกันตักเตือนให้สังคมมันน่าอยู่มากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน