คนไทยได้เฮ เมื่อ “เจ้าแหลม”ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ สภามวยโลก WBC ทุบเอาชนะฟรานซิสโก้ เอสตราด้า รองอันดับหนึ่งชาวเม็กซิกัน ที่ ซิงเกิ้ลวู้ด ฟอรั้ม นครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเช้าวันที่ 25 ก.พ. ตามเวลาในประเทศไทย ไปแบบคะแนนไม่เอกฉันท์ พร้อมลั่นว่า ต่อจากนี้ “ใครก็ได้ในรุ่น 115 ปอนด์”

สำหรับประวัติของ “เจ้าแหลม”ศรีสะเกษ มีชื่อจริงว่า วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก มีชื่อเล่นว่า “ตั้ม” แต่เพื่อน ๆ นิยมเรียกว่า “แหลม” เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2529 ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ในครอบครัวนักมวย ที่มีปู่, พ่อ และอา ล้วนแต่เป็นนักมวยทั้งสิ้น โดยเป็นลูกชายคนโตในจำนวนลูกชายทั้งหมด 3 คนของนายเจียมศักดิ์ และนางหนูรัตน์ วังเอก ซึ่งลูก ๆ ทุกคนก็ล้วนแต่เป็นนักมวยทั้งหมด ศรีสะเกษจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) จากการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.)

“ศรีสะเกษ” เคยชกมวยไทยมาก่อนตั้งแต่อายุได้ 13 ขวบ ในชื่อ “วรวุฒิ ว.ป.ศรีสะเกษ” และ “วรวุฒิ ศิษย์ทรายทอง” ในสังกัดศิษย์ทรายทอง ที่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะหันมาชกมวยสากลอาชีพในปี พ.ศ. 2552 ด้วยการเดินทางไปชกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยพบกับ อะกิระ ยะเอะงะชิ นักมวยเจ้าถิ่น ซึ่งศรีสะเกษเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 3 จากกำหนดทั้งหมด 8 ยก ซึ่งต่อมายะเอะงะชิ ยังได้เป็นแชมป์โลกในรุ่นมินิมั่มเวท (105 ปอนด์) ของสมาคมมวยโลก (WBA) และแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท (112 ปอนด์) ของสภามวยโลกอีกด้วย

จากนั้น ศรีสะเกษได้เข้าสู่สังกัด นครหลวงโปรโมชั่น ของสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ โดยมีผู้สนับสนุนหลัก คือ ศรีสุข รุ่งวิสัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้รับการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง โดยได้แชมป์ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ของสภามวยโลกเอเชีย (WBC ASIA) มาก่อน ในปี พ.ศ. 2554 จากนั้นจึงป้องกันตำแหน่งไว้ได้ทั้งหมด 3 ครั้ง สลับกับการชกอุ่นเครื่องธรรมดา ทำสถิติชนะน็อกรวด 17 ครั้ง

จนกระทั่ง สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย นักมวยในสังกัดนครหลวงโปรโมชั่น ได้เสียแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ของสภามวยโลก ให้กับ โยตะ ซะโต นักมวยชาวญี่ปุ่นถึงถิ่นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ทางต้นสังกัดจึงได้หมายมั่นให้ศรีสะเกษขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้แทนด้วยสัญญาที่มีไว้ผูกพันกับทางซะโต จึงทำให้ซะโตหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มาเดินทางมาป้องกันตำแหน่งถึงในประเทศไทย ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย สามารถเอาชนะทีเคโอ โยตะ ซะโต ไปได้ในต้นยกที่ 8 เมื่อกรรมการห้ามบนเวทีชาวอิตาเลียนได้ยุติการชก ด้วยเวลา 1.23 นาที หลังจากยกที่ 7 ในช่วงกลางยกถึงปลายยกเป็นฝ่ายไล่ชกซะโตอยู่ข้างเดียว ทำให้ศรีสะเกษได้เป็นแชมป์โลกไปในทันที

Srisaket Sor Rungvisai, of Thailand, poses for photos after knocking out Roman Gonzalez, of Nicaragua, during the fourth round of the WBC super flyweight championship boxing match Saturday, Sept. 9, 2017, in Carson, Calif. (AP Photo/Chris Carlson)

ในการป้องกันตำแหน่งครั้งต่อมา ศรีสะเกษต้องพบกับ คาร์ลอส คูเอดราส ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันที่ยังมีสถิติไม่เคยแพ้หรือเสมอแก่ใคร โดยศรีสะเกษเป็นฝ่ายเดินทางไปป้องกันตำแหน่งถึงกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก นับเป็นนักมวยไทยรายแรกในรอบ 40 กว่าปีที่ไปป้องกันตำแหน่งถึงประเทศเม็กซิโก (คนสุดท้ายคือ ชาติชาย เชี่ยวน้อย เมื่อต้นปี พ.ศ. 2512 เมื่อเป็นฝ่ายแพ้น็อกให้แก่ แอฟเฟรน ทอร์เรส ในยกที่ 8) ศรีสะเกษเป็นฝ่ายแพ้คะแนนในต้นยกที่ 8 เมื่อศีรษะของทั้งคู่ชนกัน และทำให้คูเอดราสมีแผลแตกฉกรรจ์เหนือคิ้วซ้ายจนไม่สามารถชกต่อได้ ทำให้มีการรวมคะแนนกัน ปรากฏว่าศรีสะเกษเป็นฝ่ายคะแนนไปเป็นเอกฉันท์ 78-73, 77-74 และ 77-75 แม้ในยกต้น ๆ ศรีสะเกษจะเป็นฝ่ายโดนหมัดของคูเอดราสเข้าไปมาก แต่ในยกที่ 6 และ 7 ศรีสะเกษเป็นฝ่ายเดินไล่อัดลำตัวคูเอดราสจนออกอาการชัดเจนเกือบจะทิ้งตัวนอนลงบนพื้นเวที และสามารถจะผลิกเกมมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่แล้ว

อีกเกือบ 3 ปีต่อมา ศรีสะเกษจึงได้ขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 ในรุ่นเดิมและสถาบันเดิม กับ โรมัน กอนซาเลซ แชมป์โลกชาวนิคารากัว ที่เมดิสันสแควร์การ์เดน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560 ในฐานะรองแชมป์โลกอันดับหนึ่ง ซึ่งการชกครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของวงการมวยโลกของไทย เนื่องจากกอนซาเลซเป็นแชมป์โลกมาแล้วถึง 4 รุ่น และเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่น เป็นนักมวยที่ไม่เคยแพ้หรือเสมอใครอีกด้วย

แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังกว่าที่ชีวิตของเจ้าแหลมจะก้าวขึ้นเป็นมาแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยได้นั้น ชีวิตต้องผ่านความยากลำบาก ปัญหา และอุปสรรคนานัปประการ และครั้งหนึ่งก่อนขึ้นจะเหินฟ้าไปชกกับโรมัน กอนซาเลซครั้งแรก เมื่อเดือน มี.ค. 2560 เขาเคยท้อจนคิดถอดใจจากปัญหามากมาย ทั้งเรื่องค่าตัว ค่าใช้จ่ายในชีวิตที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ค่าคอนโดก็ต้องค้างชำระ ทั้งยังต้องเสียคนสนิทในชีวิตที่ชกมวยมาด้วยกันอย่างกะทันหัน ไม่มีเงินแม้กระทั่งค่าส่งศพกลับบ้าน ปัญหาครั้งนั้นทำเอาเขาเกือบคิดเลิกมวย

จนก่อนขึ้นเครื่อง 2-3 วัน อดีตเทรนเนอร์ที่เป็นคนล่อเป้ามวยสากลให้อย่างจริงจังเป็นคนแรก และเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา โทรมาเตือนสติว่า“มึงจะได้ไปต่อยกับคนที่เก่งที่สุดในโลก เป็นเบอร์หนึ่งที่สุดของโลก มึงจะได้ไปต่อย ในสังเวียนที่เป็นตำนานของโลก ไม่ว่าแพ้หรือชนะ
แล้วมึงจะไม่กลับมาคิดเสียใจไปตลอดชีวิต
ถ้ามึงแพ้มึงหันหลังแล้ว เลิกมวยไปเลย
แต่ถ้ามึงชนะ มึงจะได้เกิดเต็มตัว….”

จากคำพูดปลุกใจในวันนั้น ทำให้เจ้าแหลม ตัดสินใจเดินทางไปชกกับโรมัน กอนซาเลซ และสามารถเอาชนะคะแนนมาได้ เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองให้ก้องโลกด้วยการบุกไป น็อกโรมัน อีกครั้งเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2560 ซึ่งหากวันนั้นเจ้าแหลมถอดใจเลิกมวยไปก่อน เขาคงไม่มีโอกาสสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ในชีวิตเหมือนเช่นทุกวันนี้

โดยล่าสุด “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ป้องกันตำแหน่งไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ 114-114, 115-113, 117-111 โดยตลอดเกม นักชกไทยเป็นฝ่ายต้อนอยู่ฝ่ายเดียว นอกจากเจ้าแหลมจะป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2 ไว้ได้ ยังคว้าแชมป์ที่ว่างรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) ของ สถาบัน ”เดอะ ริง” มาครองอีกเส้น ซึ่งถือว่าเป็นยอดมวยโลกเบอร์ 1 ของโลกในรุ่นนี้เหนือใครทั้งพิภพ โดย “ศรีสะเกษ” จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเช้าวันที่ 27 ก.พ.นี้

สำหรับชีวิตส่วนตัว ศรีสะเกษมีภรรยา คือ พัชรีวรรณ กัณหา ชื่อเล่นว่า เก๋ โดยในระยะแรกที่เดินทางเข้ามากรุงเทพ “ศรีสะเกษ”และภรรยามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมากด้วยความยากจน

ศรีสะเกษเคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพ ซื้อตั๋วรถไฟกับแฟนสาว เพื่อเข้ามาแสวงโชคที่เมืองกรุง แต่เกิดทำตั๋วรถไฟหาย ตอนที่ขึ้นรถไฟก็ต้องหลบหลี่ยงนายตรวจบนโบกี้ จนกระทั่งมาถึงกรุงเทพฯ ช่วงแรกก็เดินหางาน จนกระทั่งได้งานเป็นรปภ.ที่ห้างแห่งหนึ่งที่ย่านบางนา ก่อนไปเป็นพนักงานเก็บขยะ ช่วงที่ชีวิตลำบากถึงขนาดต้องคุ้ยหาอาหารในกองขยะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน