แพทย์เผย 6 สีน้ำมูก มีสีอะไรบ้าง บอกปัญหาสุขภาพ หายเองได้ไหม แต่ระวัง 1 สัญญาณเกิดบ่อย ๆ ไม่ยอมหายอาจเป็นมะเร็ง

เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว โรคติดเชื้อทางเดินหายใจก็เริ่มระบาดมากยิ่งขึ้นจนหลาย ๆ คนเริ่มมีอาการน้ำมูกไหลไม่หยุดหรือเป็นไข้หวัด น้ำมูกเป็นกลไกอย่างหนึ่งในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม ดร.เจย์เดน ออกมาเผยแพร่กรณีทางการแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพตัดสินได้จากสีของน้ำมูก ซึ่งน้ำมูก 6 สี ก็มีความหมายทางสุขภาพที่แตกต่างกัน

1. น้ำมูกสีโปร่งใส หรือที่เป็นอาการที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “น้ำมูกไหล” มักเกิดขึ้นเมื่อน้ำตาไหลจากท่อจมูกไปสู่โพรงจมูกแล้วไหลออกทางรูจมูกหลังร้องไห้หรือเกิดจากการแพ้ทางจมูก ซึ่งมาจากภูมิแพ้ ฝุ่นละออง ติดเชื้อไวรัส หรือเป็นหวัด

ดังนั้น การกำจัดสารก่อภูมิแพ้และทำความสะอาดจมูกไปพร้อม ๆ กันก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะก็หายได้ แต่หากสังเกตว่า ตนเองมี น้ำมูกไหลใสด้านเดียว” ให้ระวัง เนื่องจากอาจเกิดรูที่ฐานกะโหลกศีรษะทำให้น้ำไขสันหลังรั่ว ซึ่งมักเกิดจากการบาดเจ็บหรือการผ่าตัด

2. น้ำมูกสีขาวขุ่นและเหนียว บางครั้งก็ออกเหลืองเล็กน้อย เกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสและภูมิแพ้จมูก จนทำให้เกิดโรคหวัด ซึ่งน้ำมูกขังอยู่ในโพรงจมูกเป็นเวลานาน หากอาการไม่ร้ายแรงให้สังเกตอาการที่บ้านและทำความสะอาดจมูกเพื่อช่วยขับน้ำมูกไหล หากกระทบต่อชีวิตหรือมีอาการรุนแรงเกินไป แนะนำให้ไปพบแพทย์

3. น้ำมูกสีเหลืองหนาและสีเขียว เป็นอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไซนัสอักเสบ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะส่งเซลล์ต้านเชื้อออกมาสู้ และเมื่อเชื้อตายก็อาจไปปนกับเมือกและหนองต่าง ๆ ทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลือง

แต่น้ำมูกสีเขียว คือ ระดับอาการติดเชื้อในโพรงจมูกรุนแรงขึ้นกว่าน้ำมูกเหลือง ซึ่งโดยทั่วไป หากมีอาการติดเชื้อในโพรงจมูกมานานกว่า 2 สัปดาห์ ควรมาพบแพทย์และได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ

4. น้ำมูกสีชมพู เกิดจากการจามอย่างต่อเนื่อง เพราะมีอาการของโรคหวัด, ภูมิแพ้, สภาวะอากาศแห้ง หรือภาวะขาดน้ำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เส้นเลือดฝอยในเยื่อบุจมูกแตกส่งผลให้มีน้ำมูกเป็นเลือด ซึ่งมักเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ และหายไปเมื่ออาการภูมิแพ้จากไข้หวัดดีขึ้น แต่ควรระวังหากอาการนี้ไม่หายเป็นเวลานานอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งโพรงหลังจมูกได้

5. น้ำมูกสีแดงสด เกิดจากการแตกของหลอดเลือดขนาดใหญ่ในโพรงจมูก เช่น การแคะจมูกหรือเลือดกำเดาไหล หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเลือกหยุดไหลยาก จึงควรให้ความสนใจกับการทำงานของการแข็งตัวผิดปกติและแนะนำให้ไปพบแพทย์

6. น้ำมูกสีดำหรือเทาขุ่น อาจเกิดจากมลพิษเนื่องจากคุณภาพอากาศไม่ดีและการสูดอากาศเสียมากเกินไป จมูกจึงกลายเป็น “ตัวกรอง” แต่หากน้ำมูกมีสีดำสนิทให้ระวังการติดเชื้อรา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน