นักวิ่งลมกรดหนุ่มจาก จังหวัดพิจิตร ควง นักวิ่งสาวจังหวัดตรัง วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าเหรียญทอง วิ่ง 100 เมตร การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 บุรีรัมย์เกมส์

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 บุรีรัมย์เกมส์ ที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่าง 10-20 พ.ค.นี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.62 ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยวันที่สองอย่างเป็นทางการ กรีฑา ไฮไลต์อยู่ที่วิ่ง 100 เมตร ชาย “ต๋อง” ณภัทร คำเรียน ลมกรดหนุ่มเยาวชนทีมชาติ จากพิจิตร อายุ 17 ปี เร่งสปีดเบียดเข้าเส้นชัยคนแรก ด้วยเวลา 11.02 วินาที คว้าทอง เฉือนเพียงเสี้ยววินาทีกับ สันติ อนุภักดี จากสุราษฎร์ธานี ที่ทำเวลาได้ 11.04 วินาที ส่วนเหรียญทองแดง กรรชัย ฉิมทอง จากนนทุบรี 11.06 วินาที

หลังเกม “ต๋อง” ลมกรดวัย 17 เผยด้วยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า ดีใจที่คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ เเต่ยังไม่พอใจกับสถิติที่ออกมา ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาก่อนเเข่งขัน ทำให้สนามไม่สมบูรณ์เต็มที่ ส่วนการคว้าเหรียญทองวิ่ง 100 ม.ชายได้ ก็ถือว่าเป็นผลงานที่เซอร์ไพร์สตัวเองเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยลงวิ่งในกีฬาเยาวชนมาก่อนเลย โดยปี 2561 ไม่ได้เเข่งขันที่จ.น่าน ด้วย เพราะตกรอบคัดเลือกระดับภาค

ขณะที่วิ่ง 100 เมตรหญิง “ถู” สุกานดา เพชรรักษา ลมกรดสาววัย 16 ปีจากตรัง ดีกรีทีมชาติ ชุดสำรอง กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ควบเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ด้วยเวลา 12.39 วินาที คว้าทองได้สำเร็จ ส่วนเหรียญเงิน ปณิตา ปืนไชย จากน่าน 12.57 วินาที และเหรียญทองแดง กนกวรรณ ค่ากระโทก จากนครราชสีมา 12.58 วินาที

สุกานดา กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ หลังจากคครั้งแรกได้รับบาดเจ็บในการแข่งขันทำให้ไม่ผลงานไม่ดี ไม่ติดอันดับ ส่วนครั้งนี้สามารถแก้มือได้สำเร็จ ต้องบอกว่าพอใจมาก ที่สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ รวมถึงเวลาก็ถือว่าดีเมื่อเที่ยวกับที่ซ้อมมา โดยที่ผ่านมาเคยได้ร่วมซ้อมกับทีมชาติชุดเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ผ่านมา และอยู่ในโครงการกรีฑาดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ของสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ส่วนเป้าหมายก็อยากจะติดทีมชาติชุดใหญ่ให้ได้

ส่วนผลอื่นๆ วิ่ง 5, 000 ม. ชาย อรรถพันธ์ ปิ่นแก้ว จากขอนแก่น สถิติ 16.22.30 น., เดิน 5,000 ม. หญิง พิสมัย เจริญสมาธิ จากเชียงใหม่ สถิติ 28.09.33 น., พุ่งแหลน ชาย วชิรวิทย์ ศรวิชัย จากปราจีนบุรี สถิติ 61.89 ม., ขว้างค้อน ชาย ธันวารักษ์ บัวระภา จากลำปาง สถิติ 54.60 ม.

ยิมฯศิลป์สุพรรณบุรี โกย 3 ทอง

ยิมนาสติกศิลป์ ชิงชัย 5 เหรียญทอง ทัพนักกีฬาจากสุพรรณบุรี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลัง เก็บไปทั้งหมด 3 เหรียญทอง โดย อิทธิฤทธิ์ ขำศิริรัตน์ เก็บไปคนเดียว 2 เหรียญทอง จาก ประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ ชาย สถิติ 12.45 และ ประเภทม้าหู สถิติ 11.175 ส่วนอีก 1 เหรียญทองจาก ประเภทห่วงนิ่ง ชาย ภคภณ จรรยา สถิติ 12.075 ขณะที่ สีน้ำ รักษ์ภู ทีมชาติไทย และราชินียิมฯศิลป์ เจ้าของ 6 ทอง น่านเกมส์ จากสมุทรสาคร คว้าไป 2 เหรียญทอง จาก ประเภทม้ากระโดด หญิง สถิติ 11.6 และ ประเภทบาร์ต่างระดับ สถิติ 9.675

ยกน้ำหนัก รุ่น 61 ก.ก.ชาย “ตุ้ม” ณัฐวัฒน์ ชมชื่น จอมพลังสังกัดทีมจ.ศรีสะเกษ เจ้าของเหรียญเงินยูธโอลิมปิก 2018 โชว์ฟอร์มสมราคา เหมา 3 เหรียญทอง จากท่าสแนตช์ยกได้ 117 ก.ก., คลีนแอนด์เจิร์ค 150 ก.ก.น้ำหนักรวม 267 ก.ก. ด้าน รุ่น 55 กก.หญิง วิลาวัณย์ ลากอก จอมพลังสาวดาวรุ่งทีมชาติไทย จาก ชลบุรี โชว์ฟอร์มสมราคา ยกคว้า 3 เหรียญทอง สแนทช์ 78 กก., คลีนแอนด์เจอร์ค 92 กก. และน้ำหนักรวม 170 กก.

คาราเต้โด ชิงชัย 6 เหรียญทอง กทม.คว้าได้ 2 เหรียญทอง จากรุ่นไม่เกิน 52 กก. 14-15 ปี บุคคลชาย ฮิโรโตะ ชิอิบะ และรุ่นไม่เกิน 57 กก. 14-15 ปี บุคคลชาย ก้องภพ แก่นโกมล ขณะที่เหรียญทองรุ่นอื่น รุ่นมากกว่า 57 กก. 14-15 ปี บุคคลชาย ภควัต มีคุณ จากกาญจนบุรี, รุ่นไม่เกิน 47 กก. 14-15 ปี บุคคลหญิง ญาณิศา ซ้อนทอง จากขอนแก่น, รุ่นไม่เกิน 54 กก. 14-15 ปี บุคคลหญิง สิริกมลเนตร โชคประเสริฐกุล จากระยอง และรุ่นมากกว่า 54 กก. 14-15 ปี บุคคลหญิง ธิดารัตน์ นาคสวาท จากนครศรีธรรมราช

กทม.โกย 4 ทอง ลีลาศ

ลีลาศ ชิงชัย 6 เหรียญทอง ทัพเมืองหลวง กทม. โกยไป 4 เหรียญทอง จาก ประเภทสแตนดาร์ด รุ่นจูเนี่ยร์ ทู (แพรวา แอร์โดแกน-อาแฟนดีย์ แวอุเซ็ง), ประเภทลาติน อเมริกัน รุ่นจูเวนไนล์ ทู (ภูริธาดา ศรีเจริญ – จัสมิน เจ๊ะมุ), ประเภทสแตนดาร์ท ยูธส์ วัน (อนุชา วิจิตรกูล- ภัสราภรณ์ พันธุ์เดช) และ ประเภทสแตนดาร์ท ยูธส์ ทู (อนุชา วิจิตรกูล -ภัสราภรณ์ พันธุ์เดช) ส่วนอีก 2 เหรียญทอง เป็นของ ประเภทลาติน อเมริกัน รุ่นจูเวนไนล์ วัน ระยอง ( ธนานพ แถวเถื่อนทอง – อแมนด้า โตทัพ นีลเซ่น) และ ประเภทลาติน อเมริกัน รุ่นจูเนี่ยร์ วัน ปัตตานี (ธิดารัตน์ รักชาติ – กวีพิภัทร กฤษฎิ์หิรัญทวี)

ตะกร้อหญิงคู่ได้คู่ชิงรีเเมตช์

ตะกร้อ ที่บีอาร์ยู โดม ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ ไฮไลต์อยู่ที่การเเข่งขันในรอบรองชนะเลิศ หญิงคู่ โดยเเชมป์เก่า อุบลราชธานี ลงสนาม พบ ลำปาง ซึ่งผลการเเข่งขันปรากฎว่า ทีมสาวจากเมืองอุบลฯ ต้องออกเเรงเหนื่อยกว่าจะเอาชนะคว้าชัยในเเมตช์นี้ได้ด้วยสกอร์ 2-0 เซ็ต 21-15, 23-21 ผ่านเข้าไปชิงฯกับ ชลบุรี คู่ชิงเมื่อปี 2559 ที่เอาชนะพิษณุโลก ไป 2-0 เซ็ต 21-7, 21-14

ด้านชายคู่ รอบรองชนะเลิศ นครศรีธรรมราช ชนะ มหาสารคาม 2-1 เซ็ต 19-21, 21-9, 22-20 เเละ ปทุมธานี ชนะ สุพรรณบุรี 2-0 เซ็ต 21-14, 21-8

เล็งจัด “แซท สปอร์ต เอ็กซ์โปร”ในเวทีแห่งชาติ

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์” ถือว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีความพร้อมในการจัดการแข่งขันค่อนข้างมาก ซึ่งบุรีรัมย์เคยผ่านการเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับโลกมาแล้วอย่างศึกรถจักยานยนต์ทางเลียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” จึงคิดว่า บุรีรัมย์ที่มีความพร้อมในทุกด้านจะจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว แต่ในช่วงนี้สภาพอากาศมีฝนตกลงมาที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งสิ่งสำคัญอันแรกก็คือเรื่อง สุขภาพของนักกีฬาเยาวชน เราจะต้องป้องกันไม่ให้นักกีฬามีอาการเจ็บป่วยด้วย

ดร.ก้องศักด กล่าวอีกว่า ในช่วงบุรีรัมย์เกมส์ทาง กกท.ได้จัดกิจกรรม “แซท สปอร์ต เอ็กซ์โปร 2019” งานกีฬาของคนรักกีฬา ที่ลานด้านหน้า สนามช้าง อารีน่า ซึ่งเป็นการให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าชม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬา โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ กกท.อยากให้การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติออกมาในรูปแบบนี้คือ การแข่งขันก็จะต้องมีความเข้มข้นเหมือนเดิม ส่วนเรื่องการจัดกรรมที่เราอยากจะขยายความนิยม และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความรักได้การออกกำลังกาย จึงได้จัดกิจกรรมแซท สปอร์ต เอ็กซ์โปร 2019

“ถ้าการจัดกิจกรรม แซท สปอร์ต เอ็กซ์โปร 2019 ในบุรีรัมเกมส์ครั้งนี้ทางเราประเมินแล้วมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด ทางเราก็จะจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ในทุกๆ มหกรรมการแข่งขันกีฬาระดับชาติที่ทาง กกท.เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬาคนพิการแห่งชาติ หรือว่าจะเป็นกีฬาผู้อาวุโสแห่งชาติต่อไปด้วยครับ” ผู้ว่าการ กกท. กล่าวปิดท้าย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน