บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงโตโยต้า ไทยลีก เปิดตัวเสื้อแข่งสุดพิเศษรีไซเคิลจากขวดพลาสติก ฉลองครบรอบ 10 ปีสโมสร เปิดขายจำนวนจำกัดเพียง 20,000 ตัวเท่านั้น และจะใช้เพียงแมตช์ที่จะเปิดบ้านพบชัยนาท ฮอร์นบิล เพียงแมตช์เดียว ด้าน “บิ๊กเน” นายใหญ่ลั่นกวาดทุกแชมป์ พร้อมชม นิชิโนะ พาช้างศึกกลับมาแกร่ง

บุรีรัมย์ – เมื่อ 12 ก.ย. ที่โรงแรมออเรียนทัล เรสซิเดนท์ “บิ๊กเน”นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด และนายวินยุตม์ คชภักดี ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท นันยางการทออุตสาหกรรม จำกัด ร่วมกันเป็นประธานในงานแถลงข่าว เปิดตัวเสื้อครบรอบ 10 ปี “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

สำหรับชุดแข่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครบรอบ 10 ปีนั้น เป็นชุดที่ผลิตมาจากเส้นใยรีไซเคิลที่ถักทอมาจากขวดพลาสติกใช้แล้ว ขณะที่ลายบนเสื้อจะเป็นแผนที่จังหวัดบุรีรัมย์ สื่อถึงการเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะผลิตเพียงแค่ 20,000 ตัว และจะใช้ในการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดเปิดช้าง อารีนา รับการมาเยือนของ “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล ในวันที่ 22 ก.ย.

นายเนวิน กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์เปลี่ยนแปลงตัวเอง จนสามารถนำไปปักหมุดบนแผนที่โลกได้ว่านี่คือเมืองที่มีทั้งเรื่องฟุตบอล, การท่องเที่ยว รวมถึงมอเตอร์สปอร์ต ดังนั้นลายบนเสื้อจึงเป็นแผนที่จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะที่อีก 10 ปีถัดไป คือการทำเพื่ออนุรักษ์ รักษาโลก ด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้

“ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป เสื้อแข่งขันของบุรีรัมย์จะต้องเป็นเสื้อที่ผลิตจากเส้นใยรีไซเคิล บุรีรัมย์จะเป็นผู้นำในการนำระบบรีไซเคิลมาใช้ในวงการกีฬา แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ แต่จะขายในราคาเท่าเดิมเพื่อแฟนบอลทุกคน”

ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อถึงการแข่งขัน “โตโยต้า ไทยลีก 2019” ที่เหลือการแข่งขัน 5 นัดสุดท้าย นายเนวิน กล่าวว่า ทีมมีเป้าหมายเดียวคือแชมป์เท่านั้น และไม่ใช่แค่เหลือ 5 นัด แต่ยังมีฟุตบอลถ้วยอีก 3 นัดที่บุรีรัมย์จะต้องเป็นทริปเปิลแชมป์ให้ได้

นายเนวิน กล่าวต่อถึงการเจอกับคู่ปรับสำคัญ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด วันที่ 14 ก.ย. ว่า ไม่ว่าเมืองทองจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่ของตารางอันดับ จะเป็นคู่แข่งที่ต้องให้ความสำคัญเสมอ และจะไม่ประมาทแน่นอน

“ส่วนเรื่องการคว้าแชมป์แม้ว่าตอนนี้จะมีสโมสรอื่นๆ ทำคะแนนไล่จี้มา ผมไม่เคยรู้สึกกดดัน ทุกทีมมีโอกาสเหมือนกันหมด ยิ่งเหลือ 16 ทีมทุกทีมมันใกล้เคียงกันหมด ไม่มีนัดไหนง่ายหรือยากเกินไป นี่คือความสนุกของการมีแค่ 16 ทีม และถือว่าเป็นกำไรของแฟนบอลนั่นเอง”

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสอบถามถึงผลงานของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของอากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น นายเนวิน กล่าวว่า สิ่งที่เห็นคือวินัยผู้เล่น สปีดของบอลเร็วขึ้น แต่จุดที่ยังเป็นปัญหาเล็กน้อยคือเรื่องของทัศนคติและการเล่นเป็นทีม ความแตกต่างจาก 2 นัดที่ผ่านมาคือเล่นกับอินโดนีเซีย ความเป็นทีมสูงขึ้น นัดแรกรุ่นใหญ่ไม่ยอมจ่ายบอลให้รุ่นเล็ก ทำให้เสียโอกาส มีปัญหาในการเข้าทำ แต่พอเกมต่อมาเริ่มเชื่อกันมากขึ้น กล้าให้บอล โอกาสเข้าทำมากขึ้น สปีดบอลดีขึ้น อะไรก็เปลี่ยนไป

“เกมต่อไปกับยูเออี เมื่อทุกคนเริ่มคิดว่าทุกคนเป็นทีมชาติเท่ากัน มีความสามารถเหมือนกัน ความไว้ใจเชื่อใจ และช่วยกันเล่นจะทำให้ทีมมีประสิทธิภาพมากกว่าเกมเจออินโดนีเซีย”

นายเนวิน กล่าวเสริมว่า สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปคือพออยู่กับโค้ชต่างชาติ มีความเกรงใจ เกรงบารมี และเชื่อในแท็กติกมากกว่าโค้ชไทย ที่ผ่านมาอยู่กับโค้ชไทยฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ฟังแต่ไม่ทำตามก็มี แต่นิชิโนะเป็นโค้ชที่ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และคุมทีมชาติญี่ปุ่นมา ทำให้ทุกคนทำตาม และทรงบอลนั้นเป็นไปตามที่โค้ชต้องการ

“เมื่อหลอมรวมความเชื่อมั่นที่มีต่อโค้ช และความเชื่อมั่นที่มีต่อเพื่อนร่วมทีม ฟุตบอลไทยจะกลับมาเล่นกัน 11 คนอีกครั้ง เหมือนเกมอินโดนีเซียที่ทุกคนเล่นด้วยกันหมด หวังว่าทีมชาติไทยจะเล่นได้แบบนี้เรื่อยๆ ถ้าลงตัวเมื่อไหร่ เข้าใจกันมากขึ้น เชื่อว่าไทยจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปได้” นายใหญ่ปราสาทสายฟ้า กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน