กกท. เข้มเพิ่มเกณฑ์คัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพกีฬาเยาวชน-กีฬาชาติ

 

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 (พ.ศ.2565) ครั้งที่ 39 (พ.ศ.2566) ครั้งที่ 40 (พ.ศ.2567) และ กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 (พ.ศ.2567) ครั้งที่ 50 (พ.ศ.2569) ครั้งที่ 51 (พ.ศ.2571) ในครั้งแรกไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จะยึดกรอบและหลักเกณฑ์การพิจารณาเดิมไว้เป็นสำคัญ พร้อมกับเพิ่มกรอบและหลักเกณฑ์ในบางเรื่อง เข้าไป เพื่อให้เกิดความเข้มข้นในการคัดเลือกมากที่สุด

 

ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า หลัก ๆ แล้วจะมี 4 หลักเกณฑ์ที่จะเพิ่มเติมเข้าไป ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาจังหวัดต้องมีความชัดเจน ส่วนที่พัก ไม่ใช่เพียงแค่ปริมาณ จำเป็นจะต้องได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และเน้นสุขลักษณะป้องกันโควิด-19 ด้วย ขณะเดียวกันต้องมีความพร้อมในการกำหนดชนิดกีฬา ไม่เพิ่มไม่ลดโดยไม่จำเป็น และพร้อมในด้านงบประมาณ ที่จะใช้นำมารองรับการเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาแห่งชาติ

 

“หลักเกณฑ์เพิ่มเติมเหล่านี้ จะนำไปพูดคุยกันในการประชุมครั้งที่ 2 เดือนมิ.ย. และเมื่อร่างกรอบและหลักเกณฑ์การคัดเลือกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ประมาณเดือน ก.ค.นี้ จะเปิดให้จังหวัดต่าง ๆ ที่สนใจ ยื่นความจำนง ในการเป็นเจ้าภาพเข้ามาได้” ดร.ก้องศักด กล่าว

 

อนึ่ง สำหรับ กรอบและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติและกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ในเบื้องต้นของกกท. มีดังนี้ 1. ความพร้อมของจังหวัดที่เสนอขอรับเป็นเจ้าภาพเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการจัดการแข่งขันกีฬาสูง, 2. การพิจารณาคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพในหลักการ ให้จังหวัดที่มีความพร้อมและความเหมาะสม ตลอดจนอาจให้โอกาสจังหวัดในภาคต่าง ๆ กระจายออกไปเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทั้ง 5 ภาค และไม่มีการแบ่งระดับและขนาดของจังหวัด, 3. การพิจารณาให้คำนึงถึงงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการจัดการแข่งขันให้คุ้มค่าและมีประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ให้รวมถึงการจัดพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน

 

4. ความพร้อมของจังหวัดที่เสนอขอรับเป็นเจ้าภาพด้านต่าง ๆ มีดังนี้ 4.1 เจ้าภาพต้องมีความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ชนิดกีฬาไม่น้อยกว่า 30 ชนิดกีฬา และการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ชนิดกีฬาไม่น้อยกว่า 24 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาบังคับ ได้แก่ กรีฑา และว่ายน้ำ, กีฬาสากลในโอลิมปิก กีฬาแห่งชาติ จัดแข่งขันไม่น้อยกว่า 22 ชนิดกีฬา และกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จัดแข่งขันไม่น้อยกว่า 16 ชนิดกีฬา , กีฬาที่มีในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ไม่น้อยกว่า 5 ชนิดกีฬา, กีฬาอื่นๆ และกีฬาอนุรักษ์ ไม่น้อยกว่า 1 ชนิดกีฬาแต่ไม่เกิน 2 ชนิดกีฬา, 4.2 ด้านสนามแข่งขัน, 4.3 ด้านที่พัก, 4.4 ด้านบุคลากรและองค์กร, 4.5 ด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร, 4.6 ด้านความปลอดภัยและการจราจร และ 4.7 ด้านอื่น ๆ

 

และ 5. จังหวัดที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ กกท. ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ต้องลงนามสัญญา (Host City Contract) กับ กกท. และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่ กกท. กำหนด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน