ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยอมรับว่าต้องมีการปรับหลายอย่างกับต้นสังกัดใหม่ แม้ว่าจะเคยเล่นอยู่ในญี่ปุ่นมาหลายปี พร้อมเผยวิธีการให้กับน้องๆ เยาวชนในการเดินสู่เส้นทางอาชีพ

ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางกัปตันทีมชาติไทยชุดแชมป์ซูซูกิ คัพ 2020 ย้ายไปอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ทีมแชมป์เจลีก อย่างเป็นทางการ หลังมีการประกาศเปิดตัวเมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย เจ เผยว่าการย้ายจากคอนซาโดเล ซัปโปโร ไปสู่ความท้าทายใหม่คงต้องมีการปรับตัวอีกมากมาย อีกทั้งยังได้เผยวิธีให้กับน้องๆ เยาวชนกับก้าวไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนที่ตัวเองนั้นมาอยู่ในจุดๆ นี้

กองกลางกัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า “อย่างแรกน้อง ๆ ต้องมีความฝัน ผู้ปกครองต้องส่งเสริม ซึ่งไม่เสมอไปที่ทุกคนจะไปสู่ความสำเร็จ แต่น้อง ๆ สามารถไปยังจุดที่ตัวเองฝันได้ ด้วยการมีวินัยในการซ้อม การกิน การพักผ่อน ยิ่งอนาคตมันยิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสภาพแวดล้อม สิ่งรอบข้าง ควรมีการแนะนำที่ถูกต้อง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกัน จึงจะทำให้มีทรัพยากรที่เก่งขึ้นมาเยอะกว่านี้”

“การย้ายทีม ไปช่วงแรกๆ น่าจะยาก เพราะว่าระบบการเล่น การปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีม ปรับตัวกับแผนการเล่น เพื่อสู้ในการเข้าไปสู่ตำแหน่งตัวจริงให้ได้เร็ว นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของใช้ส่วนตัวต่างๆ ที่ต้องย้ายมายังโตเกีย”

“รู้สึกดีใจและภูมิใจในระดับหนึ่ง ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น บีอีซี เทโร, เมืองทอง ยูไนเต็ด, คอนซาโดเล ซัปโปโร หรือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ที่ให้โอกาสผม รวมถึงโค้ชทุกคนที่ฝึกซ้อมผมมา ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ผมเติบโต ในแต่ละช่วงวัย ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน ที่ทำให้ตัวเองนั้นพัฒนาขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้ ผมอาจจะไม่เป็นนักฟุตบอลแบบนี้ได้”

สำหรับชนาธิป เพิ่งพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ซูซูกิ คัพ 2020 พร้อมดาวซัลโวร่วม และนักเตะทรงคุณค่ารายการนี้เป็นครั้งที่ 3 มากสุดในบรรดานักเตะอาเซียน โดยย้ายจากเมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเล่นให้กับคอนซาโดเล ซัปโปโร เมื่อปี 2017 แบบสัญญายืมตัวก่อนจะเซ็นสัญญาถาวร ในปี 2019 โดยลงเล่นไปแล้ว 123 นัด ทำไป 15 ประตู 22 แอสซิสต์ และเคยติดทีมยอดเยี่ยม เจลีก เมื่อปี 2018

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน