ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มเก่งด้วยการเปิดบ้านถอนแค้น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2 พร้อมเป็นการฉลองชัยในการคุมทีมนัดรองสุดท้ายของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในถิ่น แอนฟิลด์ ด้วย

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023-24 เมื่อวันที่ 5 พ.ค. เป็นคู่บิ๊กแมตช์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

เกมนี้เจ้าถิ่นจัด หลุยส์ ดิอาซ, โคดี กักโป และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำทัพด้านทีมเยือนมี เบรนแนน จอห์นสัน, เดยัน คูลูเซฟสกี และซน ฮึง-มิน เป็นแกนหลัก

ครึ่งแรก

นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ จ่ายบอลทะลุช่องเข้ากรอบเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดด้วยซ้ายทว่ายิงไปติดเซฟของ กูเยลโม วิคาริโอ ทว่าบอลยังมาเข้าทาง เอลเลียตต์ ได้ยิงด้วยขวาอีกครั้งบริเวณจุดโทษทว่ายังไปติดบล็อกของ คริสเตียน โรเมโร ที่ยืนขวางหน้ากรอบได้หวุดหวิด

Liverpool’s Mohamed Salah celebrates scoring his side’s opening goal during the English Premier League soccer match between Liverpool and Tottenham Hotspur at Anfield Stadium in Liverpool, England, Sunday, May 5, 2024. (AP Photo/Jon Super)

 

นาที 16 เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โคดี กักโป เลี้ยงตัดมาที่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะตักเข้ากรอบเขตโทษไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าที่โหม่งจ่อๆ ที่เสาสองแม้ กูเยลโม วิคาริโอ จะพยายามปัดแล้วแต่ก็ปัดไม่ออก พร้อมเป็นการกลับมาทำประตูได้ของ ซาลาห์ เป็นครั้งแรกในลีกรอบ 5 เกม

นาที 42 ลิเวอร์พูล ชวดนำ 2-0 จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไปบีบบอลคืนมาได้ในกรอบเขตโทษ สเปอร์ส ก่อนที่บอลจะมาถึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จับหนึ่งจังหวะก่อนปั่นด้วยซ้ายทว่าบอลข้ามคาน

Soccer Football – Premier League – Liverpool v Tottenham Hotspur – Anfield, Liverpool, Britain – May 5, 2024 Liverpool’s Cody Gakpo celebrates scoring their third goal with Andrew Robertson, Wataru Endo and Harvey Elliott REUTERS/Carl Recine.

 

จนนาที 45 เจ้าถิ่นทิ้งห่าง 2-0 จนได้จากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ามาในกรอบให้ แอนดี โรเบิร์ตสัน ที่เติมขึ้นมาได้จ่ายต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงโล่งๆ ทว่า กูเยลโม วิคาริโอ ยังล้มตัวปัดได้ ถึงกระนั้นบอลยังไม่ไปไหน ซึ่ง โรเบิร์ตสัน ก็วิ่งมาตามซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

นาที 50 ลิเวอร์พูล ขยับสกอร์เป็น 3-0 จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ใช้ความขยันไปฉกบอลจาก เอเมอร์สัน รอยัล ในแดนตัวเอง และเจ้าตัวก็เปิดด้วยซ้ายให้ โคดี กักโป ได้โหม่งแบบไม่มีตัวประกบในกรอบผ่านมือ กูเยลโม วิคาริโอ ตุงตาข่าย

Soccer Football – Premier League – Liverpool v Tottenham Hotspur – Anfield, Liverpool, Britain – May 5, 2024 Liverpool’s Cody Gakpo scores their third goal REUTERS/Carl Recine.

 

นาที 59 เจ้าถิ่นนำไปไกล 4-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายย้อนให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ บริเวณหน้ากรอบก่อนเจ้าตัวจะแตะหลบ โรดริโก เบนตันกูร์ หนึ่งจังหวะ และปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหนีมือ กูเยลโม วิคาริโอ เข้าไปอย่างสุดสวย

Liverpool’s Harvey Elliott, front, scores his side’s 4th goal during the English Premier League soccer match between Liverpool and Tottenham Hotspur at Anfield Stadium in Liverpool, England, Sunday, May 5, 2024. (AP Photo/Jon Super)

 

นาที 72 สเปอร์ส ไล่มาเป็น 1-4 จากจังหวะที่ เบรนแนน จอห์นสัน หลุดมาทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษก่อนปาดเข้ากลางใน ริชาร์ลิซอน ที่ยืนอยู่โล่งๆ ยิงตามน้ำผ่านมือ อลิสซอน เบ็กเกอร์ เข้าไป

นาที 77 ทีมเยือนยังไม่ยอมแพ้ไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ โอลิเวอร์ สคิปป์ เปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษให้ ริชาร์ลิซอน จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนเจ้าตัวจะจ่ายย้อนคืนให้ ซน ฮึง-มิน ยิงโล่งๆ ไม่เหลือ

Tottenham’s Son Heung-min, center, celebrates scoring his side’s 2nd goal during the English Premier League soccer match between Liverpool and Tottenham Hotspur at Anfield Stadium in Liverpool, England, Sunday, May 5, 2024. (AP Photo/Jon Super)

 

นาที 81 ลิเวอร์พูล ชวดทิ้งเป็น 5-2 จากจังหวะที่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษจากลูกเปิดของ ฮาร์วีย เอลเลียตต์ ทว่าเจ้าตัวยิงไม่ดีแต่ มิกกี ฟาน เดอ เฟน ก็ปล่อยบอลจนลูกไหลมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนอยู่โล่งๆ ทว่าเจ้าตัวเหมือนตกใจทำให้จิ้มบอลแบบแป๊กๆ ออกหลังแบบไม่ได้ลุ้น

นาที 87 ทีมเยือนเกือบไล่มาเป็น 3-4 จากจังหวะที่ ริชาร์ลิซอน ได้หลุดมาในกรอบเขตโทษก่อนจะซัดด้วยซ้ายทว่ายังไปติดเซฟของ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ซึ่งบอลเกือบถึง โจวานนี โล เซลโซ ที่เสาสองทว่า โจ โกเมซ ยังยกขาสกัดออกไปได้แบบหวุดหวิด ซึ่งผู้ตัดสินได้มีการเช็กวีเออาร์ว่าเป็นการฟาวล์หรือไม่ด้วยทว่าสุดท้ายก็ปล่อยผ่าน

นาที 90+5 ลิเวอร์พูล ไม่ได้ประตู 5-2 จากจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้าชาร์จโล่งๆ ไม่เหลือ ทว่าสุดท้ายแล้ว นูนเญซ โดนจับล้ำหน้าไปก่อนทำให้สกอร์ยังเป็น 4-2

หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2 พร้อมเป็นการถอนแค้นของ “หงส์แดง” หลังนัดแรกที่พบกันพวกเขาบุกพ่าย 1-2

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “หงส์แดง” ที่กลับมาคว้าชัยนัดแรกรอบ 3 เกมในลีกมีเพิ่มเป็น 78 คะแนนจาก 36 นัดรั้งอันดับ 3 ตาราง และเป็นการคว้าชัยฉลองให้กับการคุมทีมนัดรองสุดท้ายของ คล็อปป์ ในถิ่น แอนฟิลด์ ด้วย ส่วน สเปอร์ส หยุดอยู่ที่ 60 คะแนนจาก 35 นัดอยู่อันดับ 5 ตาราง และแพ้ในลีก 4 เกมติดต่อกัน โอกาสลุ้นท็อปโฟร์เลือนราง

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่นๆ

ไบรตัน 1-0 แอสตัน วิลลา

เชลซี 5-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน