ขอบคุณจับสมุนเสี่ยอ้วน! พ่อแม่สปาย-ฟอส เตรียมปลาร้า-ผ้าขาวม้าไปให้ตร.ชลบุรี

วันที่ 8 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ ‘น้องสปาย’ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตพร้อม น้อง‘ฟอส นายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 20 ปี บริเวณลานจอดรถวัดเขาชีจรรพ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา จากฝีมือของเสี่ยอ้วน ภูเก็ต กับทีมลูกสมุน บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นางบุญเหลือ นาเมืองรักษ์ อายุ 68 ปี ยายน้องสปาย ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้าหลังหลานสาวจากไป เปิดเผยว่า น้องสปาย ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวไม่คิดว่าจะด่วนจากไปเร็วเช่นนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นครอบครัวยังรับสภาพจิตใจไม่ได้ ทุกๆวันเพื่อนบ้านญาติพี่น้องจะแวะเวียนมาพูดคุย มานอนเป็นเพื่อน เพื่อไม่ให้กังวลหรือมีความเครียด โดยเฉพาะพ่อ แม่ และพี่ชายของน้องสปาย ยังเศร้าโศกเสียใจกับการจากไป

บรรยากาศบ้านน้องสปายเงียบเหงา

“ขณะเดียวกันชีวิตของน้องสปาย แม้จะอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่พ่อและแม่ก็หาเลี้ยงปากท้องและส่งเสียลูกๆที่เรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังของอำเภอได้ แม้ว่าค่าเทอมจะสูงแค่ไหน ส่วนตัวแล้วยังเสียดายที่น้องสปายหยุดเรียนกลางคัน เพื่อไปหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ที่มักจะพูดอยู่เสมอๆ ว่าอยากดูแลครอบครัวไม่อยากให้ลำบาก โดยก่อนหน้านั้นได้กลับมาพักที่บ้านเกือบ 1 เดือนหลังลาออกจากที่ทำงานที่เก่า โดยได้ให้เงินยายไว้ใช้จำนวนหนึ่ง ซึ่งน้องสปายทำเช่นนี้มาโดยตลอดเวลาที่เขาไปทำงานหาเงินนานกว่า 1 ปี”

ส่วนที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 12 บ้านนาตลาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ บ้านของน้องฟอส โดยวันนี้ครอบครัวกำลังจะเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปที่จ.ชลบุรี หลังติดตามข่าวการจับกุมแก๊งเสี่ยอ้วนได้ ซึ่งครอบครัวติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยนายสุพิน จริตรัมย์ และนางจอมศรี ชมภูพื้น พ่อและแม่น้องฟอส จะเดินทางไปด้วยตนเองพร้อมกับญาติพี่น้อง

แม่น้องฟอส ร่ำไห้ดูของขวัญวันแม่ชิ้นสุดท้าย

นางจอมศรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ยังนั่งร้องไห้ต่อหน้ารูปลูกชาย ตัวคุณยายซึ่งเป็นคนเลี้ยงน้องฟอส ก็พยายามทำใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งสอบถามกับตำรวจถึงความคืบหน้าคดี รวมถึงการติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ ส่วนนี้ต้องขอขอบคุณสื่อที่เกาะติดข่าวอย่างใกล้ชิด ทำให้คดีนี้สามารถจับกุมคนกระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอยากให้พวกเขารับผลกรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม เพราะลูกชายกำลังมีอนาคตที่ดี กำลังจะไปทำงานที่เมืองนอก ต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร และใกล้จะถึงวันแม่ที่จะถึงนี้ และวันที่ 16 ส.ค. ก็จะเป็นวันเกิดของน้องฟอส ตัวแม่เองก็อยากให้คนร้ายได้รับโทษอย่างสาสมทั้งๆ ที่น้องไม่มีความผิดใดๆเลย

“พ่อกับแม่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมต้องฆ่า ฆ่าเพื่ออะไร ตอนนี้ทั้งครอบครัวก็เหมือนสิ้นไร้หนทาง ขาดเสาหลักของครอบครัวไป จากที่ทำงานในโรงงานรายได้วันละ 300 บาท ก็ลาออกมาเพราะลูกชายร้องขอ พ่อก็ยังเจ็บป่วย ทั้งบ้านมีอยู่ 11 ชีวิตที่จะต้องดูแล จากนี้ไปไม่รู้จะทำยังไงเมื่อไม่มีน้องฟอสแล้ว ชีวิตคงจะยิ่งลำบาก ยังคิดว่าจะขอกลับไปทำงานโรงงานเหมือนเดิม ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายจะรับไหม เพราะอายุก็มากแล้ว พี่สาวน้องฟอสเองก็ป่วย ไหนจะหลานอีก 4 คน ที่กำลังเติบโต น้องฟอส เขาเคยห่วงและอยากดูแลครอบครัว จึงตัดสินใจเลิกเรียนหนังสือแล้วไปหางานทำที่ จ.ภูเก็ต”

อาหารพื้นถิ่น ที่2ครอบครัวเตรียมนำไปมอบให้ตำรวจ

ระหว่างการพูดคุย นางจอมศรี ยังได้เดินไปหยิบของขวัญวันแม่เมื่อปีที่แล้วของน้องฟอสมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเล่าว่า โดยแม่ได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเสื้อสีเขียวอ่อน และแหวนทองคำ น้ำหนักประมาณ 1 สลึง ที่เป็นของขวัญที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของน้องฟอสเป็นเงินเดือนเดือนแรก และน้องฟอสเอง ก็ยังส่งเงินมาจุนเจือครอบครัวเดือนละ 10,000 บาท มาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี โดยครอบครัวของน้องสปาย และน้องฟอส มีกำหนดที่จะเดินทางไป จ.ชลบุรี พร้อมจะนำอาหารพื้นถิ่นทั้งปลาร้า ปลาส้ม ข้าวสาร หน่อไม้ดอง และผ้าขาวม้า ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 9 ส.ค.นี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

อ่านข่าว ‘บิ๊กแป๊ะ’ เผย ‘เสี่ยอ้วน’ อยู่ในใจ! ชี้หนีหมายจับไม่ตันก็ตาย ส่งชุดดรีมทีมล่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน