ชน 18 ศพ / ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 1 เดือน โชเฟอร์ตีนผีเสพยาบ้าขับรถทัวร์ชนยับ สังเวย 18 ศพ เจ็บ 32 ราย โค้งลงเขาวังน้ำเขียว ไม่รอการลงโทษ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ถาวร

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ศาลจังหวัดนครราชสีมา นัดอ่านคำพิพากษาคดี อ.1749/61 โดยมีนายกฤษณะ หรือเก จุฑาชื่น อายุ 45 ปี จำเลย ซึ่งเป็นผู้ขับรถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น เลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ รถบัสเช่าเหมาไม่ประจำเส้นทาง นำชาวบ้านจากต.หลุบ และต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ไปเที่ยวทะเลที่ จ.จันทบุรี

ขณะกำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม ช่วงแล่นผ่านหลักกิโลเมตรที่ 242 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ถ.ราชสีมา-กบินทร์บุรี สภาพเป็นทางโค้งลงเขา ชาวบ้านเรียกว่า โค้งมะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รถเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ชนเพิงพักขายสินค้าและต้นไม้ไหล่ทางเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 32 ราย

หลังเกิดเหตุนายกฤษณะ หรือเก ผู้ขับขี่ อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดนครราชสีมา ติดตามเร่งรัดบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเงินค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 24 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ห้องพิจารณาคดี 16 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดนครราชสีมาเบิกตัวนายกฤษณะ จำเลยที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางนครราชสีมา สภาพใส่โซ่ตรวนมานั่งฟังคำพิพากษาโดยมีสีหน้าเรียบเฉย โดยมีญาติจำนวน 5 คน ติดตามมาด้วย

จากการสืบค้นพฤติการณ์พบจำเลยเคยต้องคดีขับขี่รถยนต์เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ถูกจับกุมครั้งแรก เมื่อปี 2545 และต่างพื้นที่หลายครั้งทั้งที่ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ศาลจังหวัดสีคิ้วและศาลจังหวัดขอนแก่น ถูกตัดสินลงโทษจำคุกและเปรียบเทียบปรับรวมทั้งรอการลงโทษ

ล่าสุดปี 2554 ถูกเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จับกุมข้อหาเสพยาเสพติดและให้ควบคุมความประพฤติ แต่จำเลยไม่เข้ารับการฟื้นฟูตามเงื่อนไขและปี 56 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวในข้อกล่าวหาเดียวกันแต่จำเลยได้เข้ารับการฟื้นฟูครบตามแผนที่กำหนด

ส่วนความผิดคดี เมื่อวันที่ 22 มีค. 61 จำเลยเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เป็นเหตุให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลอื่นให้จำคุก 8 ปี และความผิดฐานผู้ขับรถในทางกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฐานไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือหลบหนีไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่เกิดเหตุรวมความผิดให้จำคุก 8 ปี 2 เดือน

จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 4 ปี 1 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ถาวร จากนั้นทั้งจำเลยและญาติ เมื่อทราบอัตราโทษต่างมีสีหน้าดีขึ้นมา และปรึกษาหารือคาดจะไม่ยื่นคำอุทธรณ์

ด้านนายจักรกฤษณ์ บุญเรืองศรี แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 สำนักงานทางหลวงที่ 10 นครราชสีมา ฐานะดูแลรับผิดชอบเส้นทางหลวงแผ่นดิน 304 ถนนราชสีมา-กบินทร์บุรี จุดที่รถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ไม่ประจำทางของบริษัท กันเองทัวร์ จำกัด เลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ ประสบอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลาราย เปิดเผยว่า

สภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวมีความหนาแน่น เฉลี่ยต่อวันมียานพาหนะแล่นผ่าน 3 หมื่นคัน โดยเป็นรถบรรทุกสินค้าประมาณ 35 % หรือจำนวนกว่าหมื่นคัน ผลการศึกษาลักษณะกายภาพช่วงหลักกิโลเมตรที่ 235-245 ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ หลัก กม. 242 รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นทางลาดลงเขาวังน้ำเขียว

แขวงทางหลวงนครราชสีมา ที่ 3 วางมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุโดยด้านขวาทางแบ่งช่องจราจรใช้แบริเออร์คอนกรีต ความสูง 1.20 เมตร กั้นแบ่งทิศทางจราจรมีป้ายจำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แจ้งเตือนเป็นระยะ

รวมทั้งมีลูกเนินชะลอความเร็ว บริเวณทางโค้งมีป้ายโอเวอร์แฮงค์ (Overhang) เตือนเป็นทางลงเขาลาดชันพร้อมเส้นสปีกบาร์ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรวมทั้งมีแผ่นกันลื่น (Anti-Slip) ช่วงลงทางลาดชัน บนแบริเออร์คอนกรีตมีเป้าสะท้อนแสง ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่มีมาตรฐานสูงด้านการเตือนภัยทั้งป้ายไฟสีเหลือง ไฟสะท้อนแสง ไฟกระพริบ ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มจำนวน 25 ต้นและบนพื้นผิวถนน ทาสีแดง สีเหลืองและเป็นเนินสะดุดค่อนข้างมาก ถางป่าข้างทางปรับทัศนวิสัยการมองเห็น

อย่างไรก็ตาม สภาพรถทั้งช่วงล่างและระบบห้ามล้อต้องมีความพร้อม ผู้ขับขี่เคารพกฎจราจรไม่เสพยาบ้าหรือใช้ความเร็วเกิดกฎหมายกำหนด หากไม่ชำนาญเส้นทางควรลดความเร็วจะสามารถลดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน