สะเทือนขวัญกลางกรุง ลูกสาวฆ่าโหดพ่อ มีดฟันกลางหน้าผาก ตัดอวัยวะเพศทิ้ง ดับสยองคาบ้าน แม่เผยปมก่อเหตุสลด

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ร.ต.อ.ไมตรี มะลิลา รองสว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 306/141 ซอยชุมชนท่าทราย 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงประสานแพทย์เวร รพ.ภูมิพล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ รอง ผกก.สส.

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วลูกกรงเหล็กหน้าบ้าน บริเวณทางเดินภายในบ้านพบศพนายเกษม บุญญชล อายุ 58 ปี สภาพศพโดนมีดฟันที่กลางหน้าผาก และอวัยวะเพศถูกตัดทั้งพวง ใส่เสื้อโปโล กางเกงขาสั้น นอนจมกองเลือด มีผ้าพันแผลที่ขาขวาและแขนขวา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถล้มก่อนหน้านี้ เบื่องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุชื่อ น.ส.บุญญดา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นลูกสาวของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

จากการสอบสวนพยานให้การว่า ผู้ตายเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลเพราะไปล้างแผลที่รถล้ม แล้วกลับมาที่บ้าน ขณะผู้ตายนั่งหน้าบ้าน ลูกสาวเดินทางมา แล้วชวนเข้าบ้าน จากนั้นประมาณ 10 นาที ลูกสาวก็เดินออกไปจากบ้าน โดยมีคราบเลือดเปื้อนเสื้อผ้า ถือกระเป๋าใบเล็กออกไป โดยไม่พูดคุยกับใคร จากนั้นมีชาวบ้านมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนเห็นคราบเลือดในบ้าน จึงแจ้งตำรวจทันที ซึ่งตอนเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทเพราะฝนตกหนัก

สอบสวน น.ส.เจียรไน (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี อดีตภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตนเลิกกับสามีมานานแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวยังเล็ก พอลูกเข้า ม.1 สามีขอลูกมาเลี้ยง ตนก็ให้ค่าใช้จ่าย ปกติผู้ตายเป็นคนฉุนเฉียว ซึ่งคนทั่วไปไม่รู้ว่าชอบดุด่าลูก หลังลูกจบม.3 มีปัญหาติดแฟนแล้วพาไปเสพยาเสพติดจนสติไม่สมประกอบ จนเดือนกันยายนปี 2562 พาไปรักษาที่รพ.รามาธิบดี ทุกวันนี้ก็ยังมีอาการทางจิตอยู่ ต้องไปหาหมอจิตเวชเป็นประจำ ที่ผ่านมาลูกก็แยกกันอยู่กับพ่อ ไม่มีใครรู้ว่าพักที่ไหน แต่นาน ๆ จะมาหาพ่อที

นอกจากปัญหายาเสพติดแล้ว ผู้ก่อเหตุยังมีปมที่ทำให้มีปัญหาทางจิตใจ เพราะสามีของผู้ก่อเหตุข่มขืนลูกตัวเองวัย 10 ขวบด้วย ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของผู้ก่อเหตุกับสามีของผู้ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและรอการตัดสิน

ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจจับกุม น.ส.บุญญดา ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้แล้ว โดยควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน