วันที่ 17 ส.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่เกิดและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณทุ่งนาท้ายบ้านลาด ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากมีชาวบ้านไปพบศพ นายสมมาตย์ ศรีชัยวาลย์ อายุ 47 ปี ชาวบ้านลาด หมู่ 7 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นอนเสียชีวิตอยู่ในทุ่งนา ซึ่งญาติเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ส.ค. หลังจาก ร.ต.อ.ณรงค์ วังเสนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กมลาไสย ได้รับแจ้งจากว่าพบศพ นายสมมาตย์ บริเวณดังกล่าว เมื่อไปถึงพบศพ นายสมมาตย์ นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าข้าวข้างคันนา พบบาดแผลที่บริเวณศีรษะแตกยาวประมาณ 1 ซม.บริเวณเหนือหูด้านซ้าย ตามร่างกายไม่พบบาดแผลอื่นหรือรอยฟกช้ำ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบต้นข้าวล้มคล้ายรอยถูกลาก ห่างไปเล็กน้อยพบไฟฉายตกอยู่และพบรถจยย.ของผู้ตายจอดบนถนน

ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบกระท่อมที่ผู้ตายพักอาศัย ภายในกระท่อมพบขวดน้ำอัดลมสีเขียว และกระป๋องยาฆ่าหญ้า ซึ่งข้างในยังมีน้ำเหลืออยู่ บริเวณพื้นดินพบรองเท้าแตะของผู้ตายและมีเศษอาหารที่เกิดจาการอาเจียน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับส่งศพไปตรวจชันสูตรที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากญาติติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต และเชื่อว่าอาจจะถูกฆาตกรรม

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เดิมผู้ตายเป็นชาว อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด มีภรรยาชื่อ นางอังคณา บัวคำภู อายุ 43 ปี และได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านลาด ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มานานกว่า 20 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะและมีปากเสียงกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ จากนั้นช่วงเย็นก็ได้ไปนอนที่กระท่อมทุ่งนา กระทั่งรุ่งเช้ามีคนพบว่าเสียชีวิตแล้ว

นางนันท์นภัส วิจิตรขจี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในวันเกิดตนทราบข่าวว่าน้องชายเสียชีวิตตกใจอย่างมาก จึงรีบเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งก็พบความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยต้นข้าวล้ม คล้ายกับรอยลากศพของน้องชายเป็นทางยาว อีกทั้งก่อนเกิดเหตุไม่มีท่าทีว่าจะฆ่าตัวตาย และไม่มีโรคประจำตัว ที่สำคัญครอบครัวก็เร่งรีบที่จะเผาศพเร็วเกินไป ดังนั้นญาติจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุก่อน เพราะชื่อว่าน้องชายอาจจะถูกฆาตกรรม หรือฆ่ามาจากที่อื่นแล้วนำศพมาอำพราง ไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตาย

ด้าน นางอังคณา ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติสามีเป็นคนใจร้อน วู่วาม ชอบดื่มสุรา ซึ่งมักจะมีปากเสียงและหาเรื่องทะเลาะกับตนเป็นประจำ โดยทุกครั้งที่ทะเลาะกันสามีก็จะหนีออกมานอนที่กระท่อมนา และพออารมณ์ดีก็จะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน จนถือเป็นเรื่องปกติตลอด 24 ปี ที่แต่งงานกันมา และอยู่กินฉันท์สามีภรรยาจนมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชายและหญิง

นางอังคณา กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุที่สามีจะเสียชีวิต ก็หาเรื่องทะเลาะกับตนด้วยเหตุหึงหวง ก่อนที่จะได้รับข่าวร้ายว่าสามีเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทำให้ตนและญาติพี่น้องรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และยังทำใจไม่ได้ อีกทั้งยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตด้วย เนื่องจากสามีไม่น่าจะมาเสียชีวิตในสภาพนี้ ถึงแม้ตอนที่เคยทะเลาะกันหรือก่อนหน้านี้ สามีมักจะบ่นว่าอยากตายก็ตาม แต่ตนก็ยังรักสามี แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ส่วนที่ต้องการฌาปนกิจศพนั้น เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงต้องรีบจัดการศพตามประเพณี ตามความเชื่อของชาวบ้าน

ขณะที่ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่างกายผู้เสียชีวิตพบเพียงบาดแผลคล้ายถูกของมีคมบาดที่ศีรษะยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งแพทย์ระบุว่าไม่น่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต อย่างไรก็ตามตรวจสอบบริเวณกระท่อมนั้นพบขวดน้ำอัดลมและพบกระป๋องยาฆ่าหญ้า ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ทะเลาะกับภรรยา อีกทั้งทางญาติผู้เสียชีวิตติดใจในสาเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากการฆ่าตัวตาย ฆาตกรรม หรือสาเหตุอื่น เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด พร้อมกับเตรียมสอบปากคำภรรยาและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อที่จะเร่งคลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน