โควิด : คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาญจนบุรี ร่อนใบคำสั่ง งดจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ รวมถึงสั่งปิดสถานประกอบการ ที่จัดงานในลักษณะให้มีการรวมตัว เหงาหงอยส่งท้ายปี
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “กาญจนบุรี” ได้เผยแพร่คำสั่งจากคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาญจนบุรี ที่ 5310/2563 เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
- ขอนแก่น ไม่เสี่ยง โควิด สั่งยกเลิก จัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่-สวนเรืองแสง
- สำนักพุทธฯ มีมติ ยกเลิก สวดมนต์ข้ามปี พิธีเจริญพระพุทธมนต์ด้วย หลัง โควิด ระบาดหนัก
- รัฐบาล จ่อเลิก! พรก.ฉุกเฉิน และใช้ พรบ.ควบคุมโรค กำราบโควิดแทน
ด้วยสถานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อ
เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับจ.สมุทรสาคร มีจำนวนแรงงานต่างด้าวที่มาประกอบอาชีพ
เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจุบันมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
ประกอบกับจ.กาญจนบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยว และขณะนี้เข้าสู่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2564 ซึ่งจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่จ.กาญจนบุรี และมีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก
เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1)
ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม พศ 2563
ผู้ว่าราชการจ.กาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจ.กาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจ.กาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้ 1.)งดการจัดมหรสพที่มีการรวมกลุ่มของประชาชนจำนวนมาก ได้แก่ งานเฉลิมฉลองที่มีการแสดงคอนเสิร์ต รำวง และกิจกรรมอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
2.)ปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่จัดให้มีการแสดงดนตรีและมีการเต้นรำ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง
ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควร จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไเกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง