ลาทีปี 2561 ปีแห่งภัยพิบัติ “สึนามิ-ดินไหว-ไฟป่า-ลาวาทะลัก”
ลาทีปี 2561 ปีแห่งภัยพิบัติ – ปี 2561 ถือเป็นปีที่โลกเข้าข่ายวิปโยค หลังเกิดภัยพิบัติรุนแรงแบบเดือนต่อเดือนเกือบจะตลอดทั้งปี ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก
• มกราคม •
บอมบ์ไซโคลน ปรากฏการณ์จากผลพวงของภาวะโลกร้อน เมื่ออากาศเย็นกับอากาศอุ่นปะทะกัน ก่อนรวมเป็นมวลอากาศหนาวยะเยือกฉับพลัน ปกคลุมชายฝั่งภาคตะวันออก สหรัฐอเมริกา
ตั้งแต่ นิวยอร์ก แมสซาชูเซ็ตส์ จอร์เจีย เซาท์แคโรไลนา และ ฟลอริดา มี ผู้เสียชีวิต 22 ราย บ้านเรือนราว 300,000 หลังขาดแคลนไฟฟ้า ความเสียหายสูงถึง 35,000 ล้านบาท
• กุมภาพันธ์ •
เดือนแห่ง ธรณีพิโรธ เริ่มเขย่า 6 ก.พ. ด้วยฤทธิ์ 6.4 แม็กนิจูด ที่ เมืองฮวาเหลียน ของ ไต้หวัน อาฟเตอร์ช็อกตามมากว่า 200 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 17 ราย หลายร้อยคนบาดเจ็บ บ้านเรือน 40,000 หลังไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้ ถนนทรุดแตก และตึกอย่างน้อย 6 แห่งเอียงกะเท่เร่สร้างความหวาดผวาให้ผู้พบเห็น
6 ก.พ. เขย่า รัฐวาฮากา และ กรุงเม็กซิโก ซิตี ของ เม็กซิโก ขนาด 7.2 แม็กนิจูด มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บ 17 คน รวมถึงจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ของผู้ว่าการรัฐซึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์
26 ก.พ. แผ่นดินไหว ขนาด 7.5 แม็กนิจูด เขย่าปาปัวนิวกินี ที่จังหวัดเฮลา มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ราย แบ่งเป็นเหยื่อจากแผ่นดินไหวหลัก 160 ราย จากอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.0-6.7 แม็กนิจูดอีก 40 ราย
• พฤษภาคม •
2 พ.ค. พายุฝุ่น ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นเกินปกติในเวลาอันรวดเร็ว ก่อให้เกิดลมกระโชกแรง พายุฝนฟ้าคะนองฟ้าผ่ากระหน่ำรุนแรงวันที่ 2 พ.ค. ภาคตะวันตกและภาคเหนือของ อินเดีย รวมถึง รัฐอุตตรประเทศ และ ปันจาบ มีผู้เสียชีวิต 125 ราย กว่า 200 คนบาดเจ็บ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าราว 8,000 ต้นล้มระเนระนาด
3 พ.ค. ภูเขาไฟคิลาเวอา รัฐฮาวาย ของสหรัฐ ระเบิดและเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 แม็กนิจูด ทำให้ลาวาร้อนระอุไหลทะลัก เผาวอดพื้นที่ป่าและชุมชนหลายแห่ง ครั้งนี้ปะทุนานต่อเนื่องกว่า 3 เดือน กระทั่งวันที่ 7 ส.ค. ภูเขาไฟจึงสงบลง
แม้ไม่พบผู้เสียชีวิต แต่มีผู้บาดเจ็บ 24 คน ประชาชน 1,700 คนต้องอพยพ บ้านเรือน 361 หลังถูกเผาทำลาย ลาวาปกคลุมพื้นที่กว่า 21,800 ไร่ และก่อเกิด แผ่นดินใหม่หลังลาวาไหลลงมหาสมุทรราว 2,200 ไร่
• มิถุนายน •
3 มิ.ย. ภูเขาไฟฟูเอโก ในประเทศ กัวเตมาลา ปะทุพ่นแก๊สและตะกอนที่มีความร้อนสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ทั้งยังไหลบ่า ด้วยความเร็วเกินร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงจึงหมดโอกาสหนี ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 190 ราย และอีก 256 คนสูญหาย
18 มิ.ย. แผ่นดินไหวญี่ปุ่น ขนาด 6.1 แม็กนิจูด จุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองทาคาสึกิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ จังหวัดโอซากา ลึกลงไปใต้ดิน 13.2 ก.ม. และเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องราว 40 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 417 คน
ที่ญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน พายุฝนตกกระหน่ำจนเกิด น้ำท่วม และ ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ครอบคลุม เกาะชิโกกุ และ เกาะฮอนชู ทางการประกาศอพยพประชาชนมากกว่า 8 ล้านคนใน 23 จังหวัด ต้องส่งเจ้าหน้าที่ 54,000 นายเข้าช่วยเหลือ หลังผจญกับอุทกภัยกว่า 10 วันถึงวันที่ 9 ก.ค. พบผู้เสียชีวิต 225 ราย สูญหาย 13 ราย และมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 320,000 ล้านบาท
• กรกฎาคม •
3 จังหวัดของญี่ปุ่น ฮิโรชิมา โอคายามะ และ เอฮิเมะ ผู้คนถูกหามเข้าโรงพยาบาลเมื่อ คลื่นความร้อน ปกคลุมและลามไปถึง คาบสมุทรเกาหลี ร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์คือ 41.1 องศาเซลเซียสที่ เมืองคุมากายะ จังหวัดไซตามะ เมื่อ 23 ก.ค.
ผ่านไป 6 สัปดาห์พบผู้เสียชีวิต 138 รายในญี่ปุ่น 42 รายในเกาหลี บาดเจ็บรวมๆ เกือบ 74,000 คน
23 ก.ค. มหากาพย์ ไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ เริ่มต้น ก่อนปะทุอีกช่วง ฤดูใบไม้ร่วง และจนถึงเดือนพ.ย. มีไฟป่าทั้งหมด 7,983 แห่ง รวมถึงย่านมาลิบู แหล่งที่พักหรูของเซเลบฮอลลีวู้ด พื้นที่ถูกเผากว่า 4.5 ล้านไร่ มีผู้เสียชีวิต 105 ราย สูญหาย 25 คน และบาดเจ็บ 80 คน
• สิงหาคม •
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุด ความรุนแรงระดับ 5 ความเร็วลมสูงสุด 285 ก.ม.ต่อช.ม. พัดถล่มฟิลิปปินส์ เวียดนาม เกาะกวม ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า และตอนใต้ของจีน อิทธิพลขอพายุก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง น้ำท่วมสูง และสตอร์มเซิร์จ หรือคลื่นพายุซัดฝั่ง
ฟิลิปปินส์ต้องอพยพประชาชน 150,000 ครัวเรือน ฮ่องกงมีน้ำท่วมสูงและอาคารระฟ้าจำนวนมากถูกลมพัดจนกระจกแตกเกือบทั้งหลัง ส่วนมาเก๊าปิดกาสิโนทั่วเกาะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จนถึงวันที่ 23 ก.ย. พบผู้เสียชีวิตรวม 134 ราย เสียหายกว่า 122,000 ล้านบาท
• กันยายน •
26 ก.ย. แผ่นดินไหว 7.5 แม็กนิจูด เขย่าธรณีที่จังหวัดสุลาเวสีกลาง ของอินโดนีเซีย มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองปาลู ราว 77 ก.ม. และลึกเพียง 10 ก.ม. ทางการประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่ราวครึ่งชั่วโมงก็ยกเลิก แต่ความผิดพลาดของระบบอุปกรณ์วัดระดับน้ำทะเล เป็นเหตุให้ประชาชนต้องเผชิญโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่
คลื่นยักษ์สูงสุด 7 เมตร ถาโถมกวาดเมืองปาลูและพื้นที่ใกล้เคียงจนเหลือเพียงเศษซาก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,256 ราย สูญหาย 1,075 ราย บาดเจ็บ 10,679 คน ราว 70,800 คนต้องอพยพหนีตาย และ 208,524 คนกลายเป็นผู้ลี้ภัยไร้บ้าน
• พฤศจิกายน-ธันวาคม •
เมื่อ 30 พ.ย. เกิด แผ่นดินไหวที่ รัฐอลาสกา ของสหรัฐ พบแรงสั่นสะเทือน 7.0 แม็กนิจูด ราว 16 ก.ม. ทางตอนเหนือของ เมืองแองเคอเรจ ลึกลงไปใต้ดิน 43 ก.ม. และมี อาฟเตอร์ช็อก ตามมา 80 ครั้ง บ้านเรือนเสียหาย และถนนหลายสายแตกทรุดเป็นทางยาว
ต่อมาในวันที่ 22 ธ.ค. อีกทวีปหนึ่งช้ำอีก ที่อินโดนีเซียเกิดเหตุ ภูเขาไฟอะนัก กรากะตัว ระเบิด ก่อให้เกิด คลื่นสึนามิซัดชายฝั่งแถบช่องแคบซุนดรา ระหว่างเกาะสุมาตรา และเกาะชวา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 430 ราย บาดเจ็บ 1,459 คน สูญหาย 159 คน และ 22,000 คนต้องอพยพ