ไฟไหม้แอโรฟลอต: แฉผู้โดยสารมัวเก็บ “สัมภาระ” คนข้างหลังออกไม่ได้

ไฟไหม้แอโรฟลอต: – วันที่ 6 พ.ค. เดอะ ซัน รายงานรายละเอียดเพิ่มเติมโศกนาฏกรรมไฟไหม้เครื่องบินสายการบิน แอโรฟลอต สายการบินแห่งชาติของรัสเซีย นาทีกระแทกพื้นรันเวย์สนามบินกรุงมอสโก จนมีผู้เสียชีวิตถึง 41 ราย เมื่อวันอาทิตย์ ว่า ขณะเกิดเหตุผู้โดยสารพยายามเอากระเป๋าสัมภาระออกจากที่เก็บกระเป๋าเหนือศีรษะจนกีดขวางทางเดินไปสู่ทางออกฉุกเฉิน ขัดต่อกฎความปลอดภัยของการบินที่ผู้โดยสารต้องทิ้งสัมภาระทั้งหมดไว้บนเครื่องบิน ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังไม่สามารถออกมาได้

ประเด็นร้อนดังกล่าวมีการพูดคุยในเว็บบอร์ดการบิน ฟอรั่มเอเวีย (Forumavia) เปิดเผยภาพถ่ายของผู้โดยสารชายคนหนึ่ง ที่มีการระบุชื่อ นายดมีตรี ฮเลบุชคิน ถือสัมภาระออกมาจากเครื่องบินไฟไหม้ด้วย

ผู้ใช้เว็บบอร์ดระบุถึงคลิปวิดีโอนาทีผู้โดยสารอพยพออกจากเครื่องบินว่า เห็นผู้โดยสารคนแรกพยายามโยนกระเป๋าและกระโดดบันไดยางลงมา กินเวลา 4 วินาที จึงเป็นเหตุให้การอพยพล่าช้า และคนถัดมาคือนายฮเลบุชคิน จากที่นั่ง 10 ซี พร้อมกระเป๋าสะพายหลัง และยังแสดงความไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธการเรียกคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินด้วย

“เขาดูวิเศษจริงๆ และรู้ด้วยว่า ทุกคนที่นั่งแถวที่ 11 เป็นต้นไปเสียชีวิต”

รายงานระบุด้วยว่า ผู้โดยสารเพียง 3 คน ที่นั่งอยู่แถวหลังนายฮเลบุชคิน ที่หนีออกมาจากเครื่องบินได้

[video width="640" height="360" mp4="https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2019/05/бегут.mp4"][/video]

ข้อมูลล่าสุดสอดคล้องกับคำยืนยันของผู้เห็นเหตุการณ์ที่ว่า ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังของเครื่องบินยังติดค้างอยู่ตรงที่นั่งและไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากผู้โดยสารเดินไปข้างหน้าโดยถือกระเป๋าสัมภาระก่อนออกจากเครื่องบิน พร้อมคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพระยะไกลนาทีอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินไฟไหม้ จะเห็นผู้โดยสารถือกระเป๋าสัมภาระถือเสื้อคลุม ส่วนประตูฉุกเฉินด้านหลังของเครื่องบินไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากถูกไฟไหม้


ยกย่องแอร์สาวฮีโร่ช่วยชีวิตผู้โดยสาร

ตาเตียนา คาซัตคีนา อายุ 34 ปี พนักงานหญิงบนเครื่องบินซูฮอย ซูเปอร์เจ็ต 100 เที่ยวบินเอสยู 1294 เผยนาทีเกิดเหตุว่า ผู้โดยสารทุกคนกระโดดลุกจากที่นั่งและเคลื่อนไปข้างหน้าทั้งที่เครื่องบินจะแล่นอยู่ เมื่อเครื่องบินไฟไหม้หยุดสนิทแล้ว เริ่มอพยพผู้โดยสารทันทีทุกคนตะโกนบอกว่าไฟไหม้ แต่ตอนนั้นไม่มีไฟไหม้ภายในห้องผู้โดยสารเครื่องบิน

“ดิฉันใช้ขาเตะประตูเครื่องบิน ผลักผู้โดยสารอพยพลงบันไดยางโดยไม่รอช้า ดิฉันเร่งผู้โดยสารโดยจับคอเสื้อแต่ละคนจากด้านหลัง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ควันไฟกลายเป็นสีดำแล้ว และผู้โดยสารคนสุดท้ายกำลังคลานออกมา”

ผู้โดยสารรอดชีวิตต่างสรรเสริญพนักงานสาวผู้กล้าหาญที่ช่วยให้พวกเขารอดชีวิตจากเหตุไฟไหม้ได้ ท่ามกลางควันพวยพุ่งจนบนเครื่องบินมืดมิดและร้อนจัดอย่างไม่น่าเชื่อ

L!FE

วันเดียวกัน ไลฟ์ สื่อรัสเซีย ประมวลภาพถ่ายของเครื่องบินซูฮอย ซูเปอร์เจ็ต 100 ก่อนและหลังเกิดเหตุไฟไหม้ พร้อมแผนผังที่นั่งของผู้โดยสารบนเครื่องบินขณะเกิดเหตุ โดยที่สีเขียวหมายถึงผู้รอดชีวิต สีเหลืองคือผู้บาดเจ็บ และสีแดงคือผู้เสียชีวิต ส่วนสีฟ้าคือที่นั่งว่าง และต้นเพลิงเกิดขึ้นท้ายของเครื่องบิน ส่วนคนสีแดงที่อยู่ที่นั่งแถงหลังสุด คือ นายมัคซิม โมเซเยฟ ลูกเรือ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ขณะพยายามอพยพผู้โดยสารไปทางออกฉุกเฉินส่วนท้ายของเครื่องบิน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้ของโศกนาฏกรรมคือ เครื่องบินซูฮอย ซูเปอร์เจ็ต 100 ไม่มีประตูทางออกฉุกเฉินบนปีกของเครื่องบิน หรือส่วนกลางของเครื่องบิน มีแต่เฉพาะส่วนหน้าและท้ายของเครื่องบิน จึงเป็นเหตุให้ผู้โดยสารติดค้างเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เสียชีวิตถูกไฟคลอก แต่เพราะสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากควันไฟที่ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องผู้โดยสาร


นักบินชี้เครื่องบินถูกฟ้าผ่า

ข้อมูลการบินที่บันทึกในกล่องดำของเที่ยวบินเอสยู 1492 ชี้ว่า เครื่องบินถูกฟ้าผ่าไม่นานหลังจากทะยานขึ้นฟ้าเพื่อมุ่งหน้าปลายทางที่แคว้นมูร์มันสค์ ทางเหนือของรัสเซีย ทำให้ระบบการควบคุมเครื่องบินอัตโนมัติใช้งานไม่ได้ และตัดขาดการสื่อสารกับภาคพื้นดิน

เดนิส เยฟโดคีมอฟ หัวหน้านักบิน เผยว่า สูญเสียการติดต่อภาคพื้นดินเนื่องจากเครื่องบินถูกฟ้าผ่า จึงไม่สามารถสื่อสารทางคลื่นวิทยุในช่วงการลงจอด และกลับมาสื่อสารได้ผ่านคลื่นความถี่ฉุกเฉิน แต่เกิดขึ้นแบบกะทันหันและในเวลาอันสั้น สามารถพูดได้ 2-3 คำ และขาดหายไป จึงต้องติดต่ออีกครั้ง

“ระบบการควบคถมการจราจรทางอากาศช่วยเราได้มาก นำทางไปที่รันเวย์ ความเร็วไม่มาก แต่อยู่ในระดับปกติสำหรับการลงจอด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามคู่มือการบิน เราลงจอดบนพื้นดินอย่างช้าๆ หลังเครื่องบินหยุดนิ่งแล้ว เราสั่งอพยพฉุกเฉิน นักบินคนที่ 2 ออกจากห้องนักบินเป็นคนแรก จากนั้นผมจึงออกไป ตอนแรกไม่ได้เหลียวมองข้างนอก เมื่อมองไปแล้วจึงเห็นเปลวไฟที่เครื่องยนต์ ซึ่งเริ่มไหม้หลังลงจอด ไม่ได้เกิดขึ้นตอนอยู่กลางอากาศ”


ยังไม่ระงับใช้งานซูเปอร์เจ็ต 100

เครื่องบินซูฮอย ซูเปอร์เจ็ต 100 (SSJ100) เครื่องบินสัญชาติรัสเซีย เปิดตัวเมื่อปี 2554 เป็นเครื่องบินเจ็ตสองเครื่องยนต์ ใช้งานการบินภายในประเทศ และมีหลายประเทศสั่งซื้อใช้งานด้วย ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนเครื่องบินล้าสมัยตั้งแต่สหภาพโซเวียต ท่ามกลางสัญญาณที่ว่าอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของรัสเซียมีปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนซูเปอร์เจ็ต 100 ลำที่เกิดโศกนาฏกรรม ผลิตเมื่อปี 2560 และใช้งานเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินซูเปอร์เจ็ต 100 ส่วนครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 2555 เครื่องบินซูเปอร์เจ็ต 100 ของสายการบินภายในประเทศอินโดนีเซียชนภูเขา คร่าชีวิตยกลำ 45 ศพ

ไลฟ์ รายงานว่า นายเยฟกีนี ดีทริกซ์ รมว.คมนาคมรัสเซีย ยังไม่ดำเนินการระงับการใช้งานเครื่องบินซูเปอร์เจ็ต 100 ในเวลานี้ หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่สนามบินกรุงมอสโก


 

อัพเดต: เจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายซากเครื่องบินซูเปอร์เจ็ต 100 ออกจากรันเวย์ของสนามบินเชเรเมเตียโว

อ่านต่อ:


ประมวลภาพก่อนและหลังของเครื่องบินซูฮอย ซูเปอร์เจ็ต 100

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน