เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณี พลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กประกาศจะเปิดข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 4,000 นาย ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับเงินดือน, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าเล่าเรียน, เลขที่บัญชีธนาคารและค่าใช้จ่ายต่างๆ พร้อมทั้งเตรียมแฮกข้อมูลหน่วยงานของรัฐอีกจำนวนมาก ว่า เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ เร่งรัดหามาตรการป้องกันการเข้าถึงชั้นความลับทุกกรณี และสั่งการให้ทุกหน่วยไปตรวจสอบการเข้าถึงที่ไม่ชอบทุกกรณีด้วยพร้อมมอบหมายให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) รับผิดชอบตรวจสอบกลุ่มคนผู้กระทำผิด

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับข่าวตามเพจต่างๆที่มีการแชร์ว่ามีหลายเว็บไซต์ของตำรวจถูกแฮก เบื้องยังไม่พบว่ามีเพจใดได้รับความเสียหาย หรือถูกเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ โดยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการดิสเครดิตภาคราชการเท่านั้น เตือนผู้ที่ชักชวนผู้อื่นให้กระทำผิด และผู้ที่ลงมือกระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน

ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยไปสำรวจความเสียหายของเว็บไซต์และข้อมูลก่อนมาร้องทุกข์ ซึ่งไม่อยากให้มองว่าเว็บไซต์ตำรวจถูกแฮกได้ง่าย ไม่ว่าจะพัฒนาระบบซอฟแวร์ไปถึงขั้นไหน อาชญากรเหล่านี้จะหาช่องว่างในการเข้าถึงระบบเป็นกลไกปกติ แต่ยืนยันว่าไม่มีความเสียหายทางข้อมูลหรือชั้นความลับทางราชการ ส่วนเมื่อคืนนี้มีการแฮกข้อมูลของตำรวจทางหลวง แล้วนำมาแฉผ่านอินเตอร์เน็ต ทั้งเงินตำรวจ ค่ารักษาพยาบาล เลขบัญชีธนาคาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆนั้น ไม่ได้เป็นข้อในชั้นความลับ จึงไม่ได้เสียหายอะไร และขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐบาล มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ส่วนจะเป็นการท้าทายอำนาจรัฐหรือไม่มองว่าคงจะเป็นแบบนั้น

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามกลุ่มแฮกเกอร์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวเข้ามาแต่อย่างใด บอกได้เพียวว่าขณะนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้กระทำผิดว่าเป็นคนกลุ่มใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน