‘ไอ้คิด’ ไม่สะท้าน หิ้วฝากขังศาล อ้างพลั้งมือฆ่าเหยื่อ ปากแข็งปฏิเสธทุกข้อหา เอาผิด 3 ข้อหาหนัก ค้านประกันตัว ชาวบ้านฮือรอรุมประชาทัณฑ์
ไอ้คิด / เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงศ์ราช ผกก.สภ.กระนวน พร้อมพนักงานสอบสวน คุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ ซึ่งลงมือก่อเหตุฆ่ารัดคอ นางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เสียชีวิตในบ้านผู้ตาย ที่บ้านใหม่ชัยมงคล ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวออกจากห้องคุมขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ควบคุมตัวนั้น นายสมคิดมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม สดชื่น แจ่มใส นิ่งเฉย ไม่มีท่าทีสะท้านแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำเพิ่มเติมประมาณ กว่า 30 นาที จึงควบคุมตัวนายสมคิด ขึ้นรถตู้ของสภ.กระนวน ส่งศาลจ.ขอนแก่น ทันที
ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขึ้นรถนั้น ปรากฏว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมร้อยคนมายืนรอ และหวังจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา แต่ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ทำให้ไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด ซึ่งตลอดที่ควบคุมตัวออกจากห้องสอบสวนไปขึ้นรถตู้นั้น ชาวบ้านต่างด่าทอ สาปแช่งนายสมคิด ตลอดเวลาด้วยความโกรธแค้นแทนผู้เสียชีวิตและญาติผู้เสียชีวิต
พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมตัวนายสมคิดได้ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. และนำตัวมาสอบสวน รับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายจริง แต่เป็นการพลั้งมือ ขณะทะเลาะกับผู้ตาย จากนั้นขึ้นรถโดยสารจากอ.กระนวนไปในเมืองขอนแก่น เพื่อเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในรพ.ขอนแก่น ขับขี่หลบไปไปยังจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เพื่อขึ้นรถไปหลบหนีกระทั่งถูกจับกุมได้
“วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมาจากเดิมที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้เจตนาฆ่า จึงไม่ยอมไปทำแผนในบ้าน แต่จะพาไปชี้จุดที่เข้าพัก ตามเส้นทางที่หลบหนี จุดแรกจุดที่ผู้ต้องหามารอรถโดยสายขึ้นรถเข้าไปเอารถในเมืองขอนแก่น จุดจุดที่ 2 โรงจอดรถ จยย. โรงพยาบาลขอนแก่น เป็นจุดที่ผู้ต้องหาขี่รถ จยย.มาจอดทิ้งไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. จุดที่ 3 ลานจอดรถด้านหลัง รพ.มหาสารคาม จุดที่ 4 ร้านสะดวกซื้อหน้า รพ.มหาสารคาม จุดที่ 5 โรงแรมสายทิพย์ จ.ร้อยเอ็ด จุดที่ 6 ร้านขายเสื้อผ้า หน้า รพ.ร้อยเอ็ด จุดสุดท้ายที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เป็นจุดที่ซื้อตั๋วรถไฟเพื่อหลบหนี เมื่อสิ้นสุดการชี้จุดจึงนำตัวนายสมคิด มาคุมขังที่สภ.กระนวน ในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา” พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ กล่าว
ผกก.สภ.กระนวน กล่าวต่อว่า หลังพบศพคนตาย ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย แต่หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหา จนนำมาสู่การสอบสวน และผู้ต้องหานำชี้จุดพักตามเส้นทางที่หลบหนี จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่ม เป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ ลักทรัพย์หรือรับของโจร
- อ่านข่าว เปิดแฟ้ม‘หนุ่ย หน้าลาย’ลูกชาย‘สมคิด พุ่มพวง’ตร.จับตาพ้นคุก ชี้คนผี ไม่มีแม้บัตรปชช.
- อ่านข่าว จับขังเดี่ยว! ‘สมคิด พุ่มพวง’ ถึงกับเซ ขอยาแก้ปวดลดไข้ ตร.ฝากผู้ต้องหาช่วยดู
- อ่านข่าว คุมทำแผน ชาวบ้านฮือประชาทัณฑ์-ทุบเต็มๆ ‘ไอ้คิด’ไม่รับข้อหาซ่อนศพที่ 6
- อ่านข่าว แฉเล่ห์กล ไอ้คิด สุดแสบ แวะตัดผม-เปลี่ยนชุด ซื้อซิมใหม่กันตร.แกะรอย
ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าฆ่าผู้อื่น และปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาและไตร่ตรอง ส่วนข้อหาอื่นๆ ก็ให้การปฏิเสธเช่นกัน ซึ่งผู้ต้องหาให้การวกวน ตอนแรกที่ถูกสอบสวนจะยอมรับสารภาพ แต่ตอนหลังให้การปฏิเสธ ไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย อ้างว่าเหตุการณ์เกิดจากการทะเลาะวิวาท โดยผู้ตายไม่พอใจที่หายจากบ้านแล้วไม่ไปรับผู้ตายจากที่ทำงานกลับบ้าน และเมื่อผู้ต้องหากลับมาที่บ้าน กลับมาด้วยรถจักรยานยนต์คันอื่น ผู้ตายจึงหึงหวง ทะเลาะกันในช่วงเย็นวันที่ 14 ธ.ค. ด้วยสาเหตุดังกล่าว
“เช้าวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ผู้ต้องหาลุกจากที่นอน เพื่อไปหุงหาอาหาร ผู้ตายลุกขึ้นกระชากแขน ข่วนหน้า และกัดนิ้วมือ ถอดกางเกงในปาใส่หน้า จึงโมโห ผลักผู้ตายล้มลงใส่ที่นอน บีบคอ ช่วงเวลาดังกล่าวผู้ตายยังมีสติเรียกให้เพื่อนบ้านช่วย กลัวชาวบ้านมาจับตัว ทุกอย่างจึงเลยเถิด คว้าเอาสายไฟในบ้าน เทปกาวรัดคอผู้ตายจนขาดใจตายคามือ
ทั้งหมดนี้เป็นคำให้การของผู้ต้องหา และให้การปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่จากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตายของนางรัศมีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาอย่ารอบคอบแล้ว จึงได้แจ้งข้อหาดังกล่าว และรวบรวมเอกสาร หลักฐาน ส่งตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น
โดยก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลนั้น นำตัวผู้ต้องหาชี้ภาพถ่ายยืนยันตัวตนว่า ภาพบุคคลที่ชี้จุดต่างๆตามเส้นทางที่หลบหนีนั้นเป็นตัวตนของตัวเองหรือไม่ ซึ่งนายสมคิดยืนยันว่าเป็นตัวเองทุกภาพ และการชี้ภาพถ่ายนั้น ทำต่อหน้าทนายความอาสาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดหาให้ เพื่อแสดงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำทุกขั้นตอนด้วยความยุติธรรม โปร่งใส่
ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาได้ร้องขอดูทรัพย์สินที่ติดตัวไปก่อนจะถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำมาให้ดู เมื่อขั้นตอนต่างๆในภาพรวมถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้อง ฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน” ผกก.สภ.กระนวน กล่าว