เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง มีพสกนิกรจำนวนมากที่เดินทางมาถวายสักการะ และลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่องแม้ว่าท้องฟ้าจะมีเมฆครึ้ม และฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีทีท่าว่าพสกนิกรจะท้อถอยแต่อย่างใด ยังคงปักหลักเฝ้ารอตั้งแต่ด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรีเรื่อยไปปลายแถวจรดท้องสนามหลวง รวมไปถึงพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ทหารและมูลนิธิจิตอาสาหลายหน่วยงานคอยดูแลความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำเต็นท์มากางบริเวณด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อบริการประชาชนที่เข้ามาบริเวณศาลาสหทัยฯ เนื่องจากมีฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พสกนิกรบางส่วนที่พลาดการเฝ้าลงนามถวายความอาลัยได้นำดอกไม้และพวงมาลัย มาวางไว้บริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งก้มลงกราบแนบพื้นเพื่อถวายความอาลัย ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะทำการปิดประตูวิเศษไชยศรีในเวลา 16.00 น. หลายคนบอกว่าเสียดายที่ไม่ได้ลงนามในวันนี้ แต่ไม่เสียใจ เพราะว่าไหว้ที่ไหนก็เป็นการแสดงความเคารพเช่นกัน
โดยพสกนิกรยังคงปักหลักบริเวณท้องสนามหลวง ถนนหน้าพระธาตุ ถนนหน้าพระลาน อย่างเนื่องแน่น เพื่อเฝ้ารอรับขบวนเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ในช่วงค่ำของวันนี้
นางจำเนียง พันธ์คง อายุ 62 ปี กล่าวว่า ในวันนี้ตนทราบเลยว่าไม่ได้ร่วมลงนามอย่างแน่นอน เนื่องจากได้เห็นแถวที่ยาวมาก แต่ตนสัญญาว่าจะมาอีกครั้งต่อไป โดยจะวางแผนมาให้เช้ากว่าเดิม หรือแม้กระทั่งถ้าทางสำนักราชวังเปิดให้เคารพพระบรมโกศได้ ตนกับครอบครัวก็จะมา ทั้งนี้ ตนมีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นภาพประชาชนจำนวนมาก ร่วมกันมาสักการะและถวายความอาลัย ถึงแม้ว่าวันนี้ไม่ได้ลงนาม ก็ไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย
ด้านนายธนัท กลิ่นเกษร อายุ 27 ปี กล่าวว่า ตนมารอเฝ้าถวายความอาลัยตั้งแต่ 09.00 น. ตั้งใจจะมาร่วมลงนามถวายความอาลัย แต่ก็พบว่ามีแถวยาว ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ร่วมลงนามถวายความอาลัยต่อพระบรมศพ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทำได้เพียงวางดอกไม้ไหว้ระลึกถึงท่านที่บริเวณกำแพง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะไว้ที่ไหนก็เหมือนกัน ท่านอยู่ในใจเราเสมอ
“บรรยากาศในวันนี้เต็มไปด้วยความเศร้า แต่ผมก็ได้เห็นความมีน้ำใจของคนไทย ที่เกื้อกูลต่อกันมากขึ้นในภาวะเช่นนี้ อย่างไรก็ดีในวันที่สำนักพระราชวังเปิดอนุญาตให้ทำความเคารพต่อหน้าพระบรมโกศ ผมจะมาอีกแน่นอน” นายธนัท กล่าว
นางจณิสตา เปลี่ยนละออ ชาว จ.ชัยนาท กล่าวว่า ซึ่งพาลูกสาวลูกชายมารอเข้าแถวรอถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. กล่าวภายหลังเข้าถวายสักการะในเวลา 13.20 น. ว่า ตนพร้อมลูกๆตั้งใจมาถวายสักการะและลงนามถวายอาลัยกับพระองค์ แม้ต้องยืนรอนานตากแดด ตากฝนหลายชั่วโมงจนเปียก แต่ก็พยายามอดทน
“พระองค์ทรงงานหนักมาตลอด ทรงให้คำสอนที่ใช้ได้ผลจริง อย่างที่ยึดใช้อยู่คือเศรษฐกิจพอเพียง เวลาไปเมืองนอกเห็นเพื่อนต่อแถวซื้อกระเป๋าแบรนด์ดัง แต่ดิฉันไม่คิดอย่างนั้น คิดเพียงว่ามีกระเป๋าใช้อยู่แล้ว หรือจะการซื้อรถป้ายแดงทั้งที่รถเดิมยังใช้งานได้ดี อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามคำสอนทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ ก็อยากให้คนไทยร่วมปฏิบัติตาม รวมถึงคำสอนที่คนในชาติรักกัน ให้อภัยกัน จะได้ไม่มีปัญหาต่อกัน” นางจณิสตา กล่าว
ขณะที่ นางระเบียบ พาเวียง อายุ 59 ปี ชาวสระบุรี กล่าวทั้งสภาพเปียกฝนแต่มีรอยยิ้มว่า พักอาศัยอยู่ย่านราษฎร์บูรณะ ตนมาตั้งแต่เวลา 10.00 น. ยืนรอต่อแถวมาเรื่อยจนได้เข้าถวายสักการะช่วงบ่าย ซึ่งอดทนเปียกฝนกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อพระองค์ได้ เพราะตั้งใจมาจริงๆ ทั้งนี้ เพราะพระองค์ทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ไม่ว่าความลำบากของประชาชนจะอยู่แห่งหนใด ทุรกันดารขนาดไหน พระองค์ก็เสด็จฯไปช่วยเหลือพัฒนาจนเจริญ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจ แต่ก็พยายามตั้งสติทำใจ และสวดมนต์ถวายพระองค์ทุกวัน อย่างไรก็ตาม ชอบคำสอนพระองค์ที่ให้ทำอะไรก็ได้ ทำในสิ่งดีๆ เพื่อแผ่นดิน