ตร.จับสาวแสบ ออยร้อยหน้า ตุ๋นลงทุนออนไลน์ หนีหมายจับ9คดี ซุกบ้านกลางเมืองขอนแก่น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ค. 2565 พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร รอง ผกก.1 บก.ทท.2 ,พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 สนธิกำลังร่วม พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน กก. 2 บก.ป. และ ชุดสืบสวน กก.1 บก.ทท.2

นำหมายศาลค้นของศาล จ.ขอนแก่น ที่ ค.152/2565 ลงวันที่9 พ.ค. 2565 ,หมายจับศาล จ.จันทบุรี ที่ 221/2564 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ หมายจับของ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.808/2564 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

เข้าจับกุมตัว น.ส.สิริธร อายุ 27 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานร่วมฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน นำหมายศาลแสดงต่อผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายค้นและหมายจับ จริง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักและควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจที่ออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับรวมทั้งหมด 9 หมายจับประกอบด้วยหมายจับศาล จ.เพชรบุรี , ศาลอาญาพระโขนง , ศาลจังหวัดเลย , ศาลแขวงขอนแก่น , ศาล จ.จันทบุรี , ศาลอาญามีนบุรี , ศาล จ.สมุทรปราการ , ศาล จ.ขอนแก่นและศาล จ.พัทยา ในความผิดฐาน ฉ้อโกง,กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งชุดสืบสวนร่วมตำรวจท่องเที่ยวและกองปราบปรามได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจที่ต้องการตัวผู้ต้องหาแล้ว และทราบว่า สภ.เมืองจันทบุรี และ สภ.แก่งหางแมว ประสานขออายัดตัวและส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานตัวแล้ว

ผู้ต้องหาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ออยร้อยหน้า ที่ได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายให้นำเงินมาลงทุนออนไลน์ โดยให้ผลตอบแทนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด รวมทั้งให้ผลตอบแทนเป็นทองคำรูปพรรณควบคู่กันไปด้วย โดยตั้งกลุ่มเพจและไลน์ ในชื่อ บ้านรำรวยออมเงินออมทอง,8ออมเงินออมทอง8,บ้านร่ำรวย และอีกหลายรายชื่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระกว่างการตรวจสอบและสอบสวน จึงยังคงไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบกับสำนวนการสอบสวน

โดยมีพฤติกรรมแนะนำให้ผู้เสียหายร่วมออมเงินออมทอง กับตนเอง ที่มีลักษณะการหลอกลวงให้คนหลงเชื่อที่แตกต่างกันไป เช่นหากลงทุนกับบ้านร่ำรวยออมเงินออมทอง 100,000 บาทจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 124,000 บาทและทองคำอีก 1 สลึงภายใน 3 วัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ทยอยทราบข่าวการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ได้มาชี้ตัวแล้ว 20 คน มูลค่าความเสียหายรวมหลายล้านบาท แต่จากการตรวจสอบพฤติกรรมจากเพจและไลน์ ที่ผู้ต้องหาได้ติดต่อกับผู้เสียหายพบว่ามีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนนับ 100 รายมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท และทันทีที่หลอกลวงเสร็จออยร้อยหน้า ก็จะปิดเพจและไลน์ทันที

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายและได้เหยื่อเยอะแล้ว ก็จะปิดเพจและไลน์ทันที จากนั้นก็จะตั้งไลน์กลุ่มใหม่และเพจชุดใหม่ขึ้นมาหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะเดียวกัน โดยกระทำการลักษณะเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ชุดสืบสวนร่วม บก.ทท. 2 และ บก.ป. ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องหารายนี้มานานกว่า 1 ปี จนกระทั่งสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวในเขต จ.ขอนแก่น จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว

ผู้ต้องหารายนี้ นับเป็นผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการตัวอย่างมากเนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่มีความผิดในลักษณะดังกล่าวมาดำเนินคดีให้หมด จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวและแจ้งความเอาผิดกับผู้ต้องรายดังกล่าว เนื่องจากเป็นภัยสังคม ที่หลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่มานาน อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ควบคุมตัว นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน