น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าขณะนี้มีปัญหาเรื่องการทุจริตจากการใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 โดยปัญหาที่เจอส่วนใหญ่อยู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งคลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดได้ประสานความร่วมมือกันในการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยปัญหาการทุจริตที่พบเกิดที่จังหวัดมหาสารคาม โดยผู้มีรายได้น้อยเอาบัตรสวัสดิการไปแลกเป็นเงินกับร้านธงฟ้าในพื้นที่ โดยไม่เอาสินค้า ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข โดยหากมีการตรวจสอบแล้วว่าทำผิดจริง จะต้องดำเนินการลงโทษตามกระบวนการ คือ ร้านธงฟ้าจะถูกถอดออกจากทะเบียนร้านธงฟ้ากับกระทรวงพาณิชย์ และยึดเครื่องรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) คืน ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการจะถูกระงับวงเงินในบัตรทันที

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีร้านธงฟ้าบางแห่งที่ยังไม่ได้มีการติดตั้งเครื่องอีดีซี แต่มีการติดป้ายหน้าร้านว่าพร้อมรับบัตรสวัสดิการ โดยสามารถมารับสินค้าออกไปก่อนได้ในวงเงิน 200 บาท และทำการยึดบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยไว้ก่อน โดยปัญหาดังกล่าวเกิดที่จังหวัดลำปาง มีร้านค้ายึดบัตรสวัสดิการกว่า 1 พันบัตร และจังหวัดกำแพงเพชร อีก 500 บัตร เรื่องนี้เป็นการดำเนินการผิดเงื่อนไขเช่นกัน โดยคลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดได้ลงพื้นที่เพื่อนำบัตรที่ถูกร้านธงฟ้ายึดคืนมา ก่อนดำเนินการส่งคืนให้กับเจ้าของบัตร ส่วนร้านธงฟ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีหลักฐานการทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนเช่นกัน

“ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้หยุดลงแล้ว เพราะคลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดมีการลงพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ การดำเนินการก็เดินไปตามกระบวนการ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางก็แก้ไขกันไป โดยปัญหาการยึดบัตรนั้น ยอมรับว่าเกิดการติดตั้งเครื่องอีดีซีที่ล่าช้า เพราะมีขั้นตอนดำเนินการยุ่งยาก ต้องเอาเครื่องมาโหลดโปรแกรมเพื่อให้ใช้งานกับบัตรสวัสดิการได้ ต้องอัพเดทข้อมูล ประวัติร้านค้า ผูกบัญชีธนาคารก่อนจึงจะนำไปติดตั้งได้ โดยในส่วนนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งติดตั้งไปได้แล้วกว่า 5 พันเครื่อง เบื้องต้นจะเร่งให้ได้ 8 พันเครื่องเพื่อให้ครบทุกตำบลที่มีร้านธงฟ้า และหลังจากนั้นจะดำเนินการติดตั้งให้ได้ตามเป้าหมายที่ 1.8 หมื่นเครื่อง” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ยืนยันข้อมูลของผู้ที่มาลงทะเบียนในโครงการเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่มีการเปิดเผยหรือส่งข้อมูลไปให้หน่วยงานใดอย่างแน่นอน จึงเป็นไม่ไม่ได้ที่จะเป็นปัญหาทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้

สำหรับความคืบหน้าในการแจกจ่ายบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการไปแล้วกว่า 70% หรือประมาณ 7 ล้านกว่าใบ โดยคาดว่าจะแจกจ่ายบัตรในส่วนนี้ได้ครบตามจำนวนภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเฉลี่ยมีการแจกจ่ายบัตรดังกล่าว 5-6 แสนใบต่อวัน ส่วนบัตรสวัสดิการใน 7 จังหวัดนั้น (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร) คาดว่าจะผลิตเสร็จสิ้นภายใน 1-2 วันนี้ โดยจะเริ่มทยอยนำบัตรไปไว้ตามจุดที่มีการลงทะเบียน และจะเริ่มแจกจ่ายได้ภายในวันที่ 17 ต.ค. นี้แน่นอน ส่วนการติดตั้งเครื่องอีดีซีตามสถานีขนส่งต่าง ๆ ดำเนินการแล้ว 655 จุด และมีการทดสอบเพื่อใช้งานเรียบร้อยได้ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะที่การติดตั้งเครื่อง e-Ticket บนรถเมล์นั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ทยอยติดตั้งแล้ว 200 เครื่อง และคาดว่าจะทยอยติดตั้งเครื่อง e-Ticket ครบ 800 เครื่องภายในเดือนนี้

“การใช้บัตรสวัสดิการบนรถไฟฟ้าสำหรับบัตรสวัสดิการที่มีระบบแมงมุมนั้น สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจงมาแล้วว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องอ่านบัตรแล้วเสร็จภายในกลางปี 2561 ส่วนการโอนเงินให้ร้านธงฟ้าก็ไม่มีปัญหา ดำเนินการได้เรียบร้อยแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ล่าช้าอยู่บ้าง แต่ก็จัดการแก้ไขได้ตามระบบ T+3 โดยวันแรกกรมบัญชีกลางโอนเงินให้ร้านธงฟ้าแล้ว 108 ล้านบาท และวันที่ 2 โอนไปแล้ว 162 ล้านบาท” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน