แพรนวลเดินหนีกลับมายังห้องนอนโดยมีหลาวเปิงเดินตามมาติดๆ

“จู่ ๆ แม่หญิงเดินหนีผมทำไม”

แพรนวลหันกลับไปบอกหลาวเปิงอย่างไม่ค่อยสบายใจ

“ส่งฉันแค่นี้เถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะไม่งาม”

“โกรธผมเหรอครับ”

“ฉันง่วง…ขอบคุณที่ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนนะคะ”

“ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับแม่หญิง”

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” แพรนวลตัดบทจะเดินเข้าห้อง แต่หลาวเปิงปรี่เข้ามาจับมือของเธอรั้งไว้

“แม่หญิงรู้สึกยังไงกับผม”

แพรนวลชะงัก มองมือหลาวเปิงที่จับกุมมือเธอไว้ รู้ดีว่าสถานภาพของเธอกับเขาไม่สมควรที่จะลึกซึ้งต่อกันมากเกินไป หลาวเปิงเฝ้ารอคำตอบจากแพรนวลอย่างใจจดใจจ่อ

“เรากำลังทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม”

“เรา แสดงว่าแม่หญิงรู้สึกเหมือนผม”

“ฉันเป็นนางในฝัน ที่อยู่แค่ในฝันของคุณเท่านั้นค่ะหลาวเปิง”

แพรนวลเลื่อนมือออกจากการเกาะกุมของหลาวเปิงแล้วเดินเข้าห้อง ปิดประตูไปอย่างไร้เยื่อใย หลาวเปิงยืนเศร้าอยู่หน้าห้องด้วยความผิดหวัง

 

อูซอกับอองเฮียนมาที่หอคำโดยปราศจากอาวุธ เมื่อได้พบหลาวเปิง แพรนวล เจ้านางเรืองระยับ เจ้านางตองริ้ว ซานแปง อูซอบอกว่าเขาจะไม่ขัดขวางที่เจ้านางตองริ้วจะแต่งงานกับซานแปงแล้ว และได้นำปิ่นปักผมรูปหางนกยูงทำด้วยแผ่นเงินสลักลายดุนเป็นรูปพลิ้วหางนกยูงอ่อนหวานฝังพลอยสีแดงแผ่กระจายมามอบให้ เพื่อเป็นของขวัญในงานแต่งงาน แพรนวลเห็นแล้วตะลึง เพราะเป็นอันเดียวกับที่เห็นในร้านของป้าเพ็ญสุข

หลาวเปิงมองเจ้านางจามรีด้วยความสงสัยเมื่อถูกเรียกมาพบ โดยมีเจ้านางเรืองระยับตามมาด้วย

“ถ้าเขามาดี..เราก็ต้องต้อนรับในฐานะแขกบ้านแขกเมือง”

“แต่มันเคยฉุดน้องตองริ้ว เคยทำร้ายแม่หญิงแพรนวลนะครับ”

เจ้านางเรืองระยับค้อนหลาวเปิงอย่างหมั่นไส้เมื่อได้ยินชื่อแพรนวล

“มีมิตรเพิ่มขึ้นดีกว่าสร้างศัตรู”

“หลานเห็นด้วยกับเจ้าย่าค่ะ อาฆาตแค้นกันไม่จบสิ้นผลเสียก็ตกอยู่กับบ้านเมืองของเรา”

เจ้านางจามรีพยักหน้าเห็นด้วย เจ้านางเรืองระยับเสนอ

“หลานขออนุญาตจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำให้อูซอและเชิญอูซอพักที่หอคำคืนนี้นะคะ”

“ผมไม่ยอมให้มันพักที่นี่”

“อูซอมากับลูกน้องแค่สองคน..คุณจะกลัวอะไร”

“ย่าอนุญาตตามที่เรืองระยับขอ..ฝากเป็นแม่งานให้ด้วยนะ”

“หลานจะต้อนรับอูซอให้สมเกียรติของเจ้าย่าค่ะ”

หลาวเปิงหงุดหงิด เพราะขัดเจ้านางจามรีไม่ได้

เจ้านางเรืองระยับกำลังวุ่นกับการคอยสั่งนางในหอให้จัดสถานที่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบตะวันตก หลาวเปิงยืนมองอยู่มุมหนึ่ง หงุดหงิดที่ต้องต้อนรับอูซอ แล้วนึกบางอย่างได้ขึ้นมา รีบเดินหลบออกไปทางหนึ่ง

หลาวเปิงจับมือแพรนวลรีบเดินเลี่ยงหลบออกมาทางสวน จู่ๆ แพรนวลก็หยุดเดินแล้วรีบถอนมือออกจากหลาวเปิงเพราะกลัวใครมาเห็น

“คุณยังไม่บอกว่าจะพาฉันไปไหน”

“ถามผลชันสูตรศพทหารอูซอ”

“น่าจะชวนคุณซานแปงไปด้วย”

“ซานแปงไปตรวจงานที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ผมจะขอให้พันตรีประกิตเพิ่มกำลังทหารไทยมาคุ้มกันในพิธีแต่งงานของน้องตองริ้ว”

“งั้นก็รีบไปสิคะ” แพรนวลอยากรู้รายละเอียดในพิธีแต่งงาน เพื่อหาทางยับยั้งไม่ให้มีคนถูกยิงในวันนั้น รีบเดินนำหลาวเปิงไปทันที

หลาวเปิง พันตรีประกิต ครูบุญสิงห์ นั่งพูดคุยกันโดยมีแพรนวลนั่งฟังอยู่ด้วย

“เมื่อวานทหารไทยพลาดเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนในป่า ทำให้บาดเจ็บสาหัสหลายนาย หมอในค่ายต้องทำงานกันอย่างหนัก ผลชันสูตรคงต้องรออีกหลายวัน”

“เรื่องขอเพิ่มกำลังทหารไปคุ้มกันในพิธีแต่งงานล่ะคะ”

“คงไม่ได้ ผมต้องส่งทหารไปดูแลพื้นที่อื่นรอบเมืองเวียงขินด้วย”

“ผมเข้าใจครับ”

แพรนวลฟังหลาวเปิง พันตรีประกิตและครูบุญสิงห์คุยกันรู้สึกกังวลใจ กลัวเหตุการณ์ร้ายวันนั้นจะฆ่าหลาวเปิงหรือซานแปง ครูบุญสิงห์ถามหลาวเปิงอย่างคาดเดาได้

“จายหลาวเปิงไม่เชื่อว่าอูซอมาดีใช่ไหม”

“ผมไม่ไว้ใจคนเจ้าเล่ห์อย่างมัน”

“อูซอให้ทหารทั้งหมดตั้งฐานกองกำลังรออยู่นอกเมือง แล้วเข้าไปหอคำกับลูกน้องคนสนิทแค่สองคน ผมว่ามันแปลกๆ”

“คืนนี้ผมขอเชิญพันตรีประกิตกับพ่อบุญสิงห์ไปร่วมรับประทานอาหารค่ำที่หอคำนะครับ จะได้ช่วยกันสังเกตพฤติกรรมของอูซอ”

ครูบุญสิงห์ชำเลืองมองพันตรีประกิตอย่างปรึกษากัน แพรนวลมองออกไปยังบ้านเช่าข้างๆ ที่ติดกับบ้านครูบุญสิงห์ เห็นนายต่วนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่บริเวณริมรั้วพอดี

“พ่อ” แพรนวลเริ่มนั่งไม่ติด อยากออกไปคุยกับนายต่วน

นายต่วนวางบัวรดน้ำแล้วนั่งลงถอนหญ้าที่ขึ้นแซมรอบๆ ต้นไม้ เสียงฝีเท้าทำให้นายต่วนหันไปมอง เห็นแพรนวลเดินเข้ามา ยืนยิ้มให้นายต่วนอยู่ริมรั้วฝั่งบ้านครูบุญสิงห์

“สวัสดีครับคุณแพรนวล”

“นึกว่าคุณต่วนกลับเชียงรายไปแล้ว”

“ผมรอผ้าทอมือจากชาวบ้านครับ อีกหลายวันถึงจะเดินทางกลับ”

“คุณต่วนมาทำงานไกลอย่างนี้คงคิดถึงคุณกิ่งแก้วมาก”

“ผมอยากกลับไปแต่งงานเร็วๆ”

“วางแผนจะมีลูกหลังแต่งงานเลยรึเปล่าคะ”

“กิ่งแก้วอยากได้ลูกชายคนแรก แต่ผมอยากได้ลูกสาว เพราะเด็กผู้หญิงชอบอ้อนชอบประจบพ่อ”

นายต่วนวาดอนาคตของครอบครัวของเขาอย่างมีความสุข แต่แพรนวลกลับสะเทือนใจเพราะรู้ว่านายต่วนจะต้องสูญเสียภรรยาไปอย่างไม่มีกลับ โดยที่เขาไม่มีวันรู้ว่ามีลูกสาวอีกคน

“คุณต่วนไปงานเลี้ยงอาหารค่ำที่หอคำกับฉันมั้ยคะ”

“หอคำไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาอย่างผมจะเข้าออกได้ตามอำเภอใจ”

แพรนวลขอร้องหลาวเปิงให้นายต่วนไปงานเลี้ยงอาหารค่ำกับผู้พันและพ่อบุญสิงห์ด้วย หลาวเปิงตัดสินใจถามแพรนวลตรงๆ ด้วยความไม่พอใจ

“แม่หญิงคิดยังไงกับนายต่วนกันแน่”

“ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา”

“ทั้งที่รู้ว่านายต่วนมีคู่หมั้นแล้วงั้นเหรอ”

“คุณก็มีคู่หมั้นแล้วเหมือนกัน”

“จะให้ยืนยันอีกกี่ครั้งว่าผมไม่ได้รักเจ้านางเรืองระยับ เพราะผมรัก..”

“สรุปว่าจะให้คุณต่วนไปงานเลี้ยงมั้ยคะ”

แพรนวลตัดบทเอาดื้อๆ กลัวได้ยินคำว่ารักจากปากหลาวเปิง หลาวเปิงยิ่งน้อยใจ เพราะคิดว่าแพรนวลมีให้ใจนายต่วน

“ผมจะให้นายต่วนไปงานเลี้ยง ถ้าแม่หญิงยอมไปกับผม”

แพรนวลจับมือหลาวเปิงก้าวลงมาจากรถแล้วต้องตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นเนินเขาของท้องทุ่งกว้างมีเทือกเขาสลับซับซ้อนอยู่เบื้องหน้า

“สวยเหมือนบ้านฉันที่เชียงรายเลยค่ะ”

“แม่หญิงจะกลับเมืองไทยจริงเหรอครับ”

“เมืองไทยเป็นบ้านของฉัน”

“ผมตั้งใจจะปลูกบ้านบนที่ดินผืนนี้ จะปลูกต้นลั่นทมไว้รอบบ้าน”

“บ้านของคุณก็จะอบอวลไปด้วยรักมั่นคงของดอกลั่นทม”

“บ้านของเราครับ”

แพรนวลอึ้ง หลาวเปิงก้าวเข้ามาสบตาแพรนวล

“แม่หญิงมาใช้ชีวิตอยู่กับผมที่นี่นะครับ ผมรอคอยแม่หญิงมานาน ผมจะไม่ปล่อยแม่หญิงไปไหนอีกแล้ว”

“คุณต้องอยู่กับความจริงค่ะหลาวเปิง คุณมีคู่หมั้นแล้ว”

“แล้วแม่หญิงมีคนรักรึยัง”

แพรนวลชะงักงัน เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอแต่งงานแล้ว

“แม่หญิงมีคนรักแล้วใช่ไหม”

“เคยมีค่ะ”

หลาวเปิงโล่งใจ เลื่อนใบหน้ามาใกล้ใบหน้าแพรนวล ประกายตาและกิริยาท่าทางของเขาอ่อนโยนนุ่มนวลราวกับต้องมนตรา

“แต่งงานกับผมนะครับ”

แพรนวลตกใจ หัวใจสั่นรอน ไม่กล้าสบสายตาชายที่กำลังกอดเธออย่างแนบชิด

“หลบสายตายังไงก็หนีไม่พ้นความรักของผมหรอก”

แพรนวลสับสน ความรักและศีลธรรมกำลังขัดแย้งในใจเธออย่างหนัก จนเธอเลือกที่จะผละออกจากอ้อมกอดของหลาวเปิง

“ฉันขอร้อง..อย่าทำให้ฉันลำบากใจจนต้องหนีไปจากคุณ”

“ผมรู้ว่าแม่หญิงรักผม”

“ฉันไม่เคยพูด”

“สายตาของแม่หญิงบอกผมหมดแล้ว”

หลาวเปิงช้อนมือของแพรนวลขึ้นมาแล้วประทับรอยจูบไว้บนหลังมือของเธออย่างนุ่มนวล และยิ้มให้แพรนวลอย่างอบอุ่น หัวใจของแพรนวลหวั่นไหวมากขึ้น รอยยิ้มของหลาวเปิงทำให้เธอแทบใจอ่อน แต่เธอก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ให้ลึกที่สุด

หลังทุกคนรับประทานอาหารค่ำเสร็จ อูซอขอแพรนวลเต้นรำ หลาวเปิงไม่ค่อยพอใจ เจ้านางเรืองระยับเห็นจึงชวนหลาวเปิงออกไปเต้นรำบ้าง เมื่อเพลงเต้นรำเปลี่ยนเป็นเพลงจังหวะโรแมนติก อูซอเปลี่ยนท่ามาโอบตัวแพรนวล หลาวเปิงตัดสินใจปล่อยมือจากเจ้านางเรืองระยับ ก้าวเข้าไปแทรกกลางระหว่างแพรนวลกับอูซอ

“ผมขอเต้นรำกับแม่หญิงสักเพลงนะครับ”

แพรนวลยังไม่ทันตอบตกลง หลาวเปิงก็ดึงตัวแพรนวลไปเต้นรำด้วยทันที อูซอยืนเก้ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะรีบไปขวางเจ้านางเรืองระยับที่กำลังปรี่เข้าไปหาหลาวเปิง

“เป็นคู่เต้นรำให้ผมหน่อยสิครับเจ้านาง”

เจ้านางเรืองระยับชะงัก ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความกรุ่นโกรธ อูซอยิ้มรออย่างใจเย็น แววตาแฝงความนัยบางอย่าง ทำให้เจ้านางเรืองระยับยอมเต้นรำกับเขา

หลาวเปิงเต้นรำกับแพรนวลในจังหวะดนตรีที่สุดแสนโรแมนติก ราวกับสถานที่จัดงานเลี้ยงแห่งนั้นมีเขาและเธอเพียงสองคน แพรนวลบอกหลาวเปิงอย่างลำบากใจ

“คุณทำให้เจ้านางเรืองระยับเสียหน้า”

“อูซอแก้ปัญหาให้แล้ว”

“ใจร้าย ไม่นึกถึงความรู้สึกของเจ้านางเรืองระยับเลย”

“ผมรู้สึก..” หลาวเปิงโน้มหน้าเข้าไปกระซิบข้างแก้มแพรนวล “อยากเต้นรำกับคนที่ผมรัก”

“รักที่ไม่ถูกต้อง”

“แต่ถูกใจ” หลาวเปิงดึงตัวแพรนวลเข้ามากอดอย่างแนบแน่น ไม่แคร์สายตาทุกคู่ที่จับจ้องมายังเขาและเธอ

“ถ้าผมมีชีวิตเหลืออีกแค่วันเดียว ผมอยากใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการอยู่กับแม่หญิง”

“อย่าพูดเป็นลางสิคะ”

“แม่หญิงรักผมแต่มีเรื่องกังวลใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเจ้านางเรืองระยับ”

แพรนวลอึ้งๆ ระแวงว่าหลาวเปิงจะเรื่องที่เธอมีสามีแล้ว หลาวเปิงกอดแพรนวลเต้นรำอย่างมีความสุข พูดราวกับอ่านใจแพรนวลออก

“ผมไม่รู้เรื่องในใจของแม่หญิง แต่ยังรอวันที่แม่หญิงพร้อมจะเล่าความจริงให้ฟัง”

แพรนวลแยกจากหลาวเปิงเมื่อเพลงจบ เธอเห็นนายต่วนออกไปเดินเล่นที่ลานลั่นทมจึงเดินไปคุยด้วย ก่อนจะชวนไปพบปอสาซึ่งเป็นคนดูแลการทำอาหารจัดเลี้ยงในค่ำคืนนี้

ขณะที่ปอสากำลังนั่งทำขนมปาด ซึ่งเป็นขนมพื้นบ้าน อยู่กับบัวเขม นายต่วนและแพรนวลรับขนมปาดจากมือปอสามาชิมด้วยความเอร็ดอร่อย

“แม่ตั้งใจทำขนมให้แขกทุกคนในงานเลี้ยงค่ะ”

“ขนมปาดฝีมือคุณปอสาอร่อยมากครับ”

“ถ้าคุณต่วนชอบ ฉันจะทำให้กินอีกนะคะ”

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ”

“อย่าเกรงใจเลยค่ะ แม่ไม่ค่อยถูกชะตากับใครง่ายๆ เพิ่งมีคุณแพรนวลกับคุณต่วนที่ทำให้แม่ยิ้มหน้าบานแบบนี้”

ปอสายื่นขนมให้นายต่วนอีก นายต่วนก็รับไปกินด้วยความเต็มใจ ทั้งสองสบตากันต่างคนต่างชะงักไปเล็กน้อย เพราะจู่ๆ ทั้งคู่ก็รู้สึกถูกชะตากันอย่างแปลกประหลาด เป็นสายสัมพันธ์ของพ่อลูกที่ไม่มีทางจะรู้ความจริง แพรนวลซาบซึ้งและตื้นตันใจมาก เมื่อเธอได้อยู่พร้อมหน้ากับพ่อและพี่สาวเป็นครั้งแรก เป็นความอบอุ่นในครอบครัวที่เธอไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ แพรนวลบอกกับตัวเองอย่างมีความสุข

“ฉันทำให้พ่อกับพี่สาวได้เจอกันแล้วนะคะ หวังว่าดวงวิญญาณของคุณกิ่งแก้วจะดีใจ”

แพรนวลกลับมานอนที่ห้องของหลาวเปิง เมื่องานเลี้ยงเลิก แล้วเธอก็สะดุ้งตื่นอีกครั้ง เมื่อร่างของเธอถูกใครคนหนึ่งเขย่าเรียกอย่างแรง

“แพร..ตื่นได้แล้ว”

แพรนวลลืมตา สะลึมสะลือมองเขตต์ที่ประคองเธอไว้ในอ้อมแขน

แพรนวลเดินหนีเขตต์ออกมาจากห้องด้วยความไม่พอใจ เขตต์ตามออกมาด้วยความเป็นห่วง แหลมทองยืนตัวลีบอยู่มุมหนึ่งด้วยกลัวถูกแพรนวลดุที่ปล่อยให้เขตต์เข้าไปในห้องนอนได้

“แพรเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบให้เขตต์เข้ามาวุ่นวายในห้องนอนของแพร”

“ผมก็แค่ปลุกแพรไปกินมื้อเช้าด้วยกัน”

“แหลมขึ้นมาปลุกตามเวลาอยู่แล้ว”

“ถ้าผมไม่แอบตามแหลมเข้าไปในห้องนอน ก็คงไม่รู้ว่าแพรนอนหลับสนิท และตัวเย็นเฉียบเหมือน..”

“แพรยังไม่ตายค่ะ”

“ผมไม่ได้แช่ง แค่เป็นห่วง”

“แพรดูแลตัวเองได้”

“แพรเข้มแข็งแค่ไหน ผมก็อดเป็นห่วงแพรไม่ได้อยู่ดี”

ความอ่อนโยนของเขตต์ทำให้อารมณ์ร้อนของแพรนวลค่อยๆ ลดระดับลงมา เขตต์มองการแต่งตัวของแพรนวล สายตาของเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ

“แพรใส่ชุดพื้นเมืองนอนอีกแล้วเหรอ”

“เรื่องของแพร”

“ผมรู้สึกแปลกๆ เพราะแพรไม่เคยชอบใส่ชุดพื้นเมืองมาก่อน”

“เขตต์คงต้องแปลกใจอีกเยอะ ต่อไปนี้แพรจะทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำ”

แพรนวลประกาศกร้าว สีหน้าและสายตาจริงจังจนเขตต์นึกหวั่นใจ กลัวแพรนวลจะไม่ยอมคืนดีกับเขาง่ายๆ

แพรนวลเห็นว่าเขตต์ต้องรอให้สุนัยขับรถมารับที่บ้านเพื่อไปทำงาน เธอจึงบอกให้เขาเอารถเธอไปใช้ก่อน เพราะอึดอัดที่จะคุยด้วย ทำให้เขตต์เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งว่าไม่นานนักแพรนวลจะใจอ่อนกับเขา

เขตต์มาถึงโรงแรมพบภาค ธีรภพและศิรินุชที่มาถึงพอดี

“พี่ภาคไม่บอกว่าจะมาด้วย ผมจะได้ไปรับที่สนามบิน”

“พี่อยากให้ภาคพักผ่อนบ้าง ก็เลยชวนมาเที่ยวด้วยกัน”

“นุชติดต่อไม่ได้ตั้งหลายวัน..แพรเป็นไงบ้างคะ”

แววตารื่นเริงของเขตต์หม่นหมองลงเล็กน้อย

“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่ายังง้อไม่สำเร็จ”

“ผมทำตามที่พี่ภาคสั่งทุกอย่างแล้วนะครับ”

“คนใจแข็งอย่างแพรต้องเอาชนะด้วยความจริงใจค่ะ”

ภาคโทร.หาแพรนวล บอกให้รู้ว่าเขามาถึงเชียงรายพร้อมธีรภพและศิรินุชจะให้รถตู้ของโรงแรมไปรับเธอมาทานอาหารด้วยกัน ภาครอฟังคำตอบจากปลายสายของแพรนวล เขตต์ลุ้นอยากรู้คำตอบด้วยจนภาคกดวางสายและหันมาบอกทุกคน

“แพรจะให้แม่บ้านทำอาหารเลี้ยงตอนรับพวกเราที่บ้าน”

เขตต์เล่าให้ทุกคนฟังอย่างหนักใจ

“นึกแล้วว่าคงไม่ยอมออกไปไหน แพรทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่มาเชียงราย..อยู่ติดบ้าน ชอบใส่ชุดพื้นเมือง หวงเตียงโบราณ”

“เตียงโบราณ” ธีรภพแปลกใจ

“เป็นเตียงไม้สักสไตล์วิกตอเรียหัวเตียงสลักลายฝีมือสวยมากครับ แพรจะเข้านอนตั้งแต่เย็นให้หลานแม่บ้านคอยปลุกทุกเช้า คนปกติที่ไหนจะนอนสิบกว่าชั่วโมงทุกวัน”

ภาคสบตาศิรินุชที่เริ่มเอะใจกับพฤติกรรมของแพรนวล

“บางคนพยายามหนีความเครียดด้วยการนอน หวังว่าแพรคงไม่ใช้ยานอนหลับ” ศิรินุชกังวล

“ที่น่ากลัวกว่านั้นคือผมเคยเข้าไปลุกในห้องสองครั้ง แต่แพรหลับลึกแถมยังตัวซีดเย็นเฉียบเหมือนคนตาย”

“ถ้าเป็นอย่างที่คุณเขตต์เล่า นุชว่าอาการของแพรน่าเป็นห่วงนะคะพี่ภาค”

ภาคพยักหน้าเห็นด้วยกับศิรินุช

แพรนวลตัดสินใจถอดนาฬิกาพกสายสร้อยเงินของหลาวเปิงออกมาเก็บไว้กับแหวนแต่งงานในลิ้นชักใต้โต๊ะเครื่องแป้ง มุ่งมั่นจะตัดใจจากหลาวเปิงให้ได้

ก่อนมาที่บ้านแพรนวล เขตต์แวะซื้อปิ่นปักผมทับทิมรูปหางนกยูงจากป้าเพ็ญสุขเพราะดูออกตั้งแต่วันนั้นว่าแพรนวลชอบ และเมื่อมาถึงบ้านเขาแอบบอกให้แหลมทองเอาปิ่นไปไว้ที่ห้องนอนแพรนวล

ศิรินุชกอดแพรนวลแนบแน่นด้วยความคิดถึง ก่อนจะถอยออกมาเพื่อมองการแต่งกายที่แปลกไปของแพรนวลตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เพื่อนรักฉันกลายเป็นสาวเหนือไปแล้ว”

“ก็แค่แต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศ”

“แพรไม่ได้ใส่ชุดสาวเหนือ แต่เป็นชุดพื้นเมืองไทเขินของเวียงขิน”

“รู้จักด้วยเหรอคะ”

“พี่ธีเขียนบทสารคดีท่องเที่ยวและไปถ่ายทำสารคดีที่เวียงขิน จนจะกลายเป็นคนเวียงขินไปแล้วจ้ะ”

แพรนวลตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าธีรภพรู้เรื่องราวในเวียงขินเป็นอย่างดี

“ถ้างั้นพี่ธีก็รู้เรื่องในเวียงขินสมัยสงครามโลก”

ทุกคนแอบสบตากันที่แพรนวลสนใจเวียงขินเหมือนป้าเพ็ญสุขเล่าตอนแวะไปซื้อปิ่นพูดไว้

“รู้สึกว่าแพรสนใจเวียงขินมากเป็นพิเศษ”

“พ่อของแพรเคยเดินทางไปค้าขายระหว่างเชียงรายกับเวียงขินตั้งแต่หนุ่มๆ ของใช้ในบ้านส่วนใหญ่ก็มาจากเวียงขิน”

“รวมทั้งเตียงโบราณของแพรด้วยรึเปล่า”

“ใช่ค่ะ”

“คุณเขตต์ชมเตียงโบราณของแพรให้ฟังจนนุชอยากเห็นบ้าง”

เขตต์เดินเข้ามาหาทุกคน โดยมีคำแดงตามมาเสริฟน้ำ ภาคสังเกตเห็นแพรนวลแอบหงุดหงิดเขตต์แวบหนึ่งเพราะไม่พอใจที่เขตต์เล่าเรื่องเตียงของเธอให้ทุกคนฟัง

“แพรจะพาไปดู”

++++

ย้อนอ่าน

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 7

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 6

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 5

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 4

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 3

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 2

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน