เหรียญ‘หลวงพ่อบุญมี’ สร้างศาลา-วัดบึงบ่าง

เหรียญ‘หลวงพ่อบุญมี’ – “วัดบึงบ่าง” ตั้งอยู่ที่บ้านบึงบ่าง ต.ทุ่งโพธิ์ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา

ปัจจุบัน พระอธิการบุญมี ปภากโร ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส พระเกจิดังทายาทผู้สืบทอด ในศาสตร์พุทธาคม หลวงปู่เขียน ธัมมรักขิโต อดีตพระเกจิดังแห่งวัดสำนักขุนเณร ต.วังตะกู อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร

หลวงพ่อบุญมี

เนื่องในโอกาสวันงานไหว้ครู ประจำปี พ.ศ.2562 หลวงพ่อบุญมีอนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคล “รุ่นมีเงินมีทอง” ถือเป็นการจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นรุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการของวัดบึงบ่าง ซึ่งจะประกอบพิธีพุทธาภิเษกในวันเสาร์ที่ 30 และวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.2562

โดยจะนำเหรียญรุ่นแรก ที่สร้างในปี พ.ศ.2559 เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมอบให้กับผู้ที่ร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดบึงบ่าง จ.พิจิตร

พระอธิการบุญมี เกิดในครอบครัวเกษตรกร มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ที่อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค.2491 เป็นบุตรของ นายบุญมา และ นางพา ฟักทอง

หลวงพ่อบุญมี

อายุ 7 ขวบ ครอบครัวอพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยเข้า ศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลจนจบชั้นประถมปีที่ 4 หลังจากนั้นทำงานรับจ้างตัดอ้อย รับจ้างทำงานทั่วไป

อายุ 15 ปี ติดตามครอบครัวมาทำงานที่บ้านใหม่คลองเมฆ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย คบหาสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน เข้ามากราบไหว้หลวงปู่เขียน ที่วัดสำนักขุนเณร สมัยนั้นยังเป็นเพียง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เพื่อขอวัตถุมงคลไว้ป้องกันตัวเอง

เมื่อได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่เขียน เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งหลวงปู่เขียนเห็นความมุ่งมั่น จึงขอให้บวชเป็นเณร โดยหลวงปู่ เขียนกล่าวไว้ว่า “มึงจะได้รู้จักเก้า รู้จักสิบ รู้จักผู้รู้จักคนบ้าง”

หลวงพ่อบุญมี

บรรพชาเมื่อปี พ.ศ.2506 โดยมีหลวงปู่เขียน เป็นพระอุปัชฌาย์

ศึกษาเล่าเรียนอักขระขอมโบราณ พระบริบทพระคาถาต่างๆ พร้อมกับการสักยันต์เรียกสูตรลงบังคับ ขีดลากเส้นสายลายยันต์ เรียกสูตรลงกำกับ การกำหนดพิจารณาสมถะสมาธิ สมถะกัมมัฏฐาน

กระทั่งปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.2508 หลวงปู่เขียนมรณภาพอย่างสงบ

หลวงพ่อบุญมี

หลังจากใช้ชีวิตฆราวาสอยู่จนเกิดความเบื่อหน่ายท้อแท้กับสภาพสังคมความเป็นอยู่ จึงตัดสินใจละทางโลกเข้าหาทางธรรม เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.2521 ที่พัทธสีมา วัดจุฬามณี ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีพระครูพิทักษ์จุฬามณี (เปรี้ยว) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระบัณฑิต สุทธสีโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระบุญช่วย เขมกาโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปภากโร

หลังอุปสมบทออกเดินธุดงค์ปลีกวิเวกไปในสถานที่มีความเงียบสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญจิตตภาวนาไปยังสถานที่ต่างๆ จนถึง พ.ศ.2539 ได้ย้ายสังกัดการปกครองสงฆ์ เพื่ออยู่ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติศาสนกิจที่วัดทุ่งโพธิ์ ต.ทุ่งโพธิ์ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร

หลวงพ่อบุญมี

ต่อมา พ.ศ.2550 ได้เข้ามาพัฒนาวัดบึงบ่าง ที่มีสภาพใกล้จะเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าบึงบ่าง

กระทั่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ในปีพ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน

วัดบึงบ่างในอดีตเป็นชุมชนเก่าแก่โบราณ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยทวารวดี สุโขทัย และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นแหล่งโบราณคดี ตั้งอยู่ในเมืองบ่าง ซึ่งเป็นเมืองคูน้ำคันดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม มีคลองทับคล้ออยู่ทางด้านทิศใต้ พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่เกษตรกรรม

หลวงพ่อบุญมี

โบราณวัตถุที่เก็บรักษาไว้ที่วัดบึงบ่าง มีทั้งโบราณวัตถุในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และโบราณวัตถุ

สำหรับโบราณวัตถุในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยทวารวดี โบราณวัตถุเหล่านี้ พบรวมกันระหว่างการขุดหลุม เพื่อก่อสร้างอาคารภายในวัดบึงบ่าง

ร่วมจองวัตถุมงคล รุ่นมีเงินมีทอง ติดต่อโทร. 09-7047-1028, 08-9772-6912

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน