หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 รองรับบัตรเลือกตั้งสองใบ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
เสมือนเป็นสัญญาณกระตุ้นบรรยากาศการเมืองคึกคักมากขึ้น
เป็นการกลับไปใช้วิธีเลือกตั้งเหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 ที่พรรคไทยรักไทยชนะถล่มทลาย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล
ทำให้การเลือกตั้งปี 66 ได้รับการวิเคราะห์คาดการณ์ อาจเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทย
อย่างที่รู้กันว่าบัตรสองใบ สูตรหาร 100 เอื้อให้พรรคใหญ่ได้เปรียบ พรรคขนาดกลางได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่จะสูญพันธุ์คือพรรคขนาดเล็กและขนาดจิ๋ว
ส่วนพรรคตั้งใหม่ อาทิ สร้างอนาคตไทย ไทยสร้างไทย หรือแม้แต่รวมไทยสร้างชาติ ต้องเจอโจทย์ยากขึ้น
จับตาไปยังรวมไทยสร้างชาติ พรรคที่กำลังเป็นกระแส
สูตรหาร 100 ทำให้ต้องปรับยุทธศาสตร์กันอีกรอบ ประเมินใหม่ว่าการชูชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาโดดๆ โดยไม่มีต้นทุนอื่นรองรับไม่ว่า นโยบาย หรือตัวบุคคลที่โดดเด่น
Advertisement
จะเพียงพอใช้ต่อกรกับพรรคมือวางอันดับ 1 อย่างเพื่อไทยได้หรือไม่
แม้โพลสำรวจพบพื้นที่ภาคใต้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังขายได้ แต่จะขายดีหรือไม่ ไม่ได้ระบุ หรือต่อให้ทั้งขายได้-ขายดี ถึงที่สุดแล้วส.ส.ภาคใต้ก็จำกัดอยู่แค่ 58 ที่นั่ง
แถมต้องช่วงชิงกับอีก 4 พรรค ได้แก่ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และประชาชาติ
โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ โพลชี้ว่า ยังเป็นพรรคอันดับ 1 ของคนใต้
ครั้งที่แล้วปี 62 เพลี่ยงพล้ำให้กระแส ลุงตู่ ครั้งนี้ประกาศทวงคืนศักดิ์ศรีตั้งไว้ที่ 40 ที่นั่ง ด้วยเชื่อว่ากระแส “ลุงตู่” อยู่มา 8 ปี แผ่วลงไปมาก “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” ไม่มีใครเชื่ออีกแล้ว
เลือกตั้งปี 66 ลำพังพล.อ.ประยุทธ์ จะไปช่วยรวมไทยสร้างชาติขายที่นั่ง ภาคใต้ได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึง ภาคอื่นๆ เหนือ อีสาน กลาง กทม. จะมากพอเป็นแกนนำรวบรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้หรือไม่
ถึงไม่ชนะได้เป็นพรรคอันดับ 1 แต่อย่างน้อยก็ต้องได้อันดับ 2 ในระดับสูสีคู่คี่เหมือนเมื่อครั้งปี 62 ก็เพื่อตัวแปร “250 ส.ว.” จะได้ไม่กระอักกระอ่วนในการโหวตหนุนสืบต่ออำนาจ เป็นนายกฯ สมัยที่ 3
หากหล่นลงมาเป็นพรรคอันดับ 3 หรือ 4 เชื่อว่า ส.ว.จะไม่กล้าฝืนฉันทามติของประชาชนทั่วประเทศ
ไม่เช่นนั้นอาจเห็นบ้านเมืองเกิดปัญหาวุ่นวาย แตกแยกครั้งใหญ่อีกครั้งแน่นอน
มันฯ มือเสือ