ศึกชิงส.ส.สุพรรณบุรีระหว่างพรรคเจ้าถิ่นชาติไทยพัฒนา กับพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดอดตีท้ายครัวพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง
ด้วยการติดต่อทาบทามพี่น้อง ‘ประเสริฐสุวรรณ’ ส.ส.ชาติไทยพัฒนาให้ย้ายมาร่วมงานกับรวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
สร้างความไม่พอใจให้สองพี่น้อง ‘ศิลปอาชา’ รวมถึงแกนนำและสมาชิกชาติไทยพัฒนาคนอื่นๆ อย่างมาก อารมณ์สะท้อนจากเวทีปราศรัยใหญ่สุพรรณบุรีช่วงวันหยุดที่ผ่านมาต่อเนื่องข้ามสัปดาห์
นายวราวุธ แสดงความแปลกใจต่อท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล ว่าอาจเป็นการพัฒนาวัฒนธรรมใหม่ทางการเมืองที่มาทาบทามส.ส.และอดีตส.ส.สุพรรณบุรี ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงของชาติไทยพัฒนา จนทำให้สมาชิกพรรคไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม นายวราวุธยืนยันว่า นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ จะยังอยู่กับพรรคต่อไป แต่ไม่ยืนยันในรายของนายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ น้องชายนายณัฐวุฒิ ซึ่งถูกทาบทามดึงตัวไปเช่นกัน
แต่ดุเดือดยิ่งกว่าคือการปราศรัยของน.ส.กัญจนา ตอนหนึ่งว่า
พ่อ (บรรหาร ศิลปอาชา) สอนเสมอ มีศัตรู 1 คนเยอะไป มีมิตร 100 คนน้อยไป พ่อไม่เป็นศัตรูกับพรรคไหน ทำให้มีมิตรทางการเมืองมากมาย
พ่อถือเป็นมารยาททางการเมืองที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงพื้นที่ที่เป็นหัวใจของพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคที่ทำงานร่วมกันมา
Advertisement
แต่การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง มีพรรคตั้งใหม่พยายามแสวงหาผู้สมัครมาแข่งกับพรรคชาติไทยพัฒนาในหลายเขต จึงอยากบอกว่าเสียมารยาทมาก
น.ส.กัญจนา ยังได้ระบุถึง ‘ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง’ ที่เคารพนับถือและยังเคารพนับถืออยู่ทุกวันนี้ว่า อยากฝากกราบไปถึงผู้ใหญ่ท่านนั้น อย่าฟังคนรอบข้างให้มากนักในเรื่องการเมือง
ถ้าท่านฟังมาก วันนึงถ้าท่านเลี้ยวกลับมาดูรอบตัว ท่านอาจจะไม่เหลือมิตรสักคนหนึ่ง น้ำใสใจจริงที่เรามีให้กัน คุ้มหรือไม่กับการที่ท่านจะส่งคนมาสมัครแข่งขันกับเราในพื้นที่เมืองหลวงของเรา
ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ท่านนั้นจะได้ยินสิ่งที่น.ส.กัญจนา รำพึงฝากไปถึงหรือไม่
แต่จะว่าไปก็น่าเห็นใจผู้ใหญ่ท่านนั้น เพราะกระแสพรรคที่คึกคักในตอนแรก ไปๆ มาๆ เริ่มแผ่วลงอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวไม่อาจแน่ใจอนาคตหลังเลือกตั้ง จะได้เลี้ยวกลับมามีอำนาจอีกหรือไม่
ก็เลยเกิดอาการหน้ามืด ลุยตกปลาในบ่อเพื่อน ผลักมิตรเป็นศัตรู โดดเดี่ยวตัวเองซะงั้น
มันฯ มือเสือ