หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร – วันอังคารที่ 20 เม.ย.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 29 ปี มรณกาล “หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร” วัดป่าวังเลิง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เป็นพระกัมมัฏฐานอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน

มีนามเดิม บุญมี สมภาค ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.2453 ที่บ้านขี้เหล็ก อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนเดียวของ พ่อทำมา-แม่หนุก สมภาค ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา ฐานะ ค่อนข้างจะยากจน

ชีวิตช่วงวัยเด็ก เป็นคนใฝ่เรียนรู้ อ่อนโยน

ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอายุได้ 17 ปี บรรพชาอยู่ที่วัดบ้านท่าขี้เหล็ก ได้ประมาณปีเศษมารดาสุขภาพไม่ดี เป็นลูกคนเดียวจึงต้องสึก ออกมาดูแลบุพการี

อายุครบบวช อุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน โดยมี พระอาจารย์สิงห์ มีศักดิ์เป็นหลวงน้า ดำเนินการให้บวชในสาย มหานิกาย แต่ด้วยจิตใจอยากเรียนด้านปริยัติธรรม แต่ไม่สะดวก เพราะสำนักเรียนวัดเลียบ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นวัดธรรมยุต จึงต้องญัตติเป็นพระฝ่ายธรรมยุต

อุปสมบท พ.ศ.2474 โดยมีพระศาสนดิลก เจ้าอาวาสวัดเลียบ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสว่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา “สิริธโร”

หลังจากอุปสมบทแล้วได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนสอบนักธรรมตรีโท เอก ด้วยความมุ่งมั่นอยากศึกษาพระธรรมวินัยที่ลึกซึ้งสูงขึ้น ในปีพ.ศ.2479 จึงเดินทาง เข้ากรุงเทพมหานคร เรียนที่สำนักวัดปทุมวนาราม สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

จากนั้นจึงเดินทาง กลับบ้านเกิดและออก เดินธุดงควัตรเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วภาคอีสาน

เป็นพระในยุคเดียวกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ถึงแม้ตลอดเวลาการเดินธุดงควัตร ของหลวงปู่จะไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แต่เคยได้รับฟังธรรมะของพระอาจารย์ใหญ่ ทำให้เกิดกำลังใจบำเพ็ญเพียรภาวนา

ตลอดชีวิตเดินธุดงควัตรและจำพรรษาอยู่ในวัดเขตพื้นที่ภาคอีสานหลายวัด

สุดท้ายในปี พ.ศ.2533 ได้มาจำพรรษา อยู่ที่วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม

บุกเบิกพัฒนาสร้าง วัดป่าวังเลิงแห่งนี้ เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงปู่มหาบุญมีเริ่มมีอาการอาพาธ บ่อยครั้ง

สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2535

สิริอายุ 81 ปี พรรษา 61

ศิษยานุศิษย์ชาวอีสานได้ร่วมกันก่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มหาบุญมีขึ้น ภายในมีการจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารต่างๆ จัดไว้เป็นหมวดหมู่ให้ลูกศิษย์ได้น้อมรำลึกถึง คุณงามความดี

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน