เมื่อวันที่ 15 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาสที่ฉนวนกาซ่า ว่ามีแนวโน้มลุกลามเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก หลังอิหร่านขู่จะตอบโต้อิสราเอลหากเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปกวาดล้างนักรบฮามาสในกาซ่า ขณะที่สหรัฐอเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ไปเพิ่มอีกหนึ่งกองเรือ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเร่งอพยพจากพื้นที่ทางเหนือลงไปทางใต้ของชาวปาเลสไตน์กว่า 1.1 ล้านคน หลังกองทัพ อิสราเอลประกาศให้พลเรือนทั้งหมดอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนยอด ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสองฝ่ายนั้นเพิ่มเป็นกว่า 3,629 ราย บาดเจ็บกว่า 12,342 คนแล้ว ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นนั้นจากปฏิบัติการโจมตีนักรบ ฮามาสในกาซ่าของอิสราเอล

นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญกับแนวรบใหม่อีก 2 ด้าน โดยกองทัพอิสราเอลยังคงยิงตอบโต้ไปมากับนักรบฮิซบอลเลาะฮ์ที่ยิงจรวดโจมตีชุมชนและแทรกซึมเข้ามาจากประเทศเลบานอนทางภาคเหนือ รวมถึงกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในประเทศซีเรีย ทำให้กองทัพอิสราเอลใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้เข้าไปในซีเรีย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายโจชัว ซาร์กา หัวหน้าแผนก (เทียบเท่าอธิบดีกรม) กิจการยุทธศาสตร์ กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล กล่าวหาทางการอิหร่านว่าพยายามเปิดแนวรบใหม่กับอิสราเอลด้วยการส่งอาวุธ มาช่วยเหลือนักรบในซีเรีย

ขณะที่ฝ่ายผู้แทนอิหร่านในสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ส่งข้อความผ่านข่มขู่ผ่านไปทางยูเอ็นไปยังอิสราเอล ว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลายและส่งผลลัพธ์ใหญ่หลวงตามมาหากอิสราเอลไม่ยุติการก่ออาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยอิหร่านจะถือว่า เป็นความรับผิดชอบของยูเอ็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี และชาติผู้สนับสนุนอิสราเอล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน