FootNote:สภาพการณ์ของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ความเป็นจริงการเมืองสมัยใหม่
ถามว่าอะไรคือเป้าหมายในการจับและดำเนินคดีต่อ น.ส.รุ้ง ปภัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ตลอดจน นายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข
คำตอบก็คือ เพื่อจำกัดกรอบและขอบเขต หรือถึงที่สุดแล้วก็เพื่อมิให้สามารถเคลื่อนไหวในทางการเมืองได้
ถามต่อว่า แล้ว”เป้าหมาย”นี้ประสบความสำเร็จหรือไม่
หากประเมินผลจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา คล้ายกับว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยพื้นฐาน กล่าวคือเมื่อคนเหล่านี้ถูกคุมขังก็ไม่สามารถ”นำ”การเคลื่อนไหวได้
รูปธรรมที่ตามมาก็คือ การเคลื่อนไหวที่เคยอึกทึกเป็นอย่างมาก ถึงขั้นกลายเป็นกระแสสูงในเดือนตุลาคม 2563 ก็ค่อยๆเสื่อมทรุดและตกต่ำลงเป็นลำดับ
ยิ่งเมื่อฝ่ายอำนาจรัฐรุกคืบเข้าไปแยกสลายผ่านปฏิบัติการด้านการข่าว IO อย่างต่อเนื่อง ยิ่งก่อให้เกิดความแตกแยกระส่ำระสาย
อย่างน้อยที่สุดก็ไม่สามารถมี”หัวขบวน”ที่สามารถแสดงบทบาทได้เหมือนกับที่ชุดแรกได้เคยกระทำตลอดปี 2563
กระนั้น คำถามอันตามมาในท่ามกลางการเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็คือการเคลื่อนไหวได้หมดสิ้นไปเหมือนกับอำนาจวิเศษกวาดไปได้ โดยรอบทิศจริงละหรือ
และทำให้นามของ น.ส.รุ้ง ปภัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และทำให้นามของ เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หายไปจากสารบบจริงหรือ
ความเป็นจริงในเดือนมีนาคมบ่งชี้อย่างเด่นชัดว่า นามของบรรดาเยาวชน คนรุ่นใหม่เหล่านี้ไม่เคยถูกลบไปจากวงจรของข่าวสารลงได้อย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่เป็นวงจรข่าวภายในประเทศ หากแต่ในทางสากลกลับได้รับการเขียนถึง กล่าวขวัญถึงอย่างอึกทึกครึกโครมมากยิ่งขึ้นเป็นทบเท่าทวีคูณ
ทั้งยังเป็นการเขียนอย่างรอบด้าน ครบถ้วนมากกว่าด้วยซ้ำ
นับวันสภาพการณ์ของ เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์และพวกจะเหมือนกับสภาพการณ์ของ นายสุธรรม แสงประทุมเมื่อปี 2519
สภาพการณ์ของไทย สภาพการณ์ของโลกเมื่อปี 2519 แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสภาพการณ์ของไทย สภาพการณ์ของโลกในเดือนมี นาคม 2562
ตรงนี้ต่างหากที่อาจทำให้เป้าหมายที่วางเอาไว้ไม่เป็นไปตามที่กำหนด ที่คิดว่าเป็นผลสำเร็จอาจกลายเป็นความล้มเหลว
