รัฐบาล ย้ำ ยังคงอัตรา VAT ที่ 7% แจงเงินคงคลังยังสภาพคล่อง ไม่ได้อยู่ในความเสี่ยง พร้อมอัดฉีดเยียวยา-กระตุ้นศก.อีก 2.2 แสนล้าน
วันที่ 2 เม.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงอีกครั้งถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จากการรายงานความเสี่ยงทางการคลัง ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายอนุชา กล่าวว่า สื่อมวลชนและประชาชนอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยการรายงานนี้เป็นการรายงานประจำปีปกติ กระทรวงการคลังจะต้องทำรายงานความเสี่ยง เพื่อแสดงผลความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของนโยบายของรัฐ ที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารความเสี่ยง
เมื่อกระทรวงการคลังทำรายงานเสร็จสิ้น ก็ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายการคลังของรัฐ เพื่อจัดทำแผนการคลังระยะปานกลางและเสนอ ครม.เพื่อทราบ ยืนยันเป็นการรายงานปกติประจำปี ไม่ใช่เพราะประเทศไทยเกิดความเสี่ยงทางการคลังแล้วถึงเข้ามารายงาน
อย่างไรก็ตามฐานะการคลังของรัฐบาลตามกระแสเงินสด ช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 926,770 ล้านบาท เบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,406,827 ล้านบาท โดยรัฐบาลกู้เงินชดเชยการขาดดุล 386,810 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนก.พ.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 516,229 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 5 เดือนแรกในปีงบประมาณ 63 มีอัตราที่มากกว่าร้อยละ 50.8
นอกจากนี้ยังมีเงินกู้ที่ยังไม่ได้ใช้จ่าย และจะนำมาเป็นเงินเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 64 จำนวน 220,000 ล้านบาท ขอยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีความคิดที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT จากอัตราปัจจุบัน 7 เปอร์เซ็นต์