ลิณธิภรณ์ ติง ชัยธวัช เลิกดันทุรังดิสเครดิตรัฐบาล ปมพักโทษ “ทักษิณ” พร้อมเปิดตัวเลขลงทุน-ราคาสินค้าเกษตร-นักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่อง พิสูจน์ฝีมือรัฐบาล พท.ยังไม่ได้ใช้งบ 67

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยระบุว่าปัญหาของการบริหารของรัฐบาลมีเยอะว่า ปัญหาที่นายชัยธวัชอ้างว่าเยอะนั้นไม่น่าใช่ของรัฐบาลเศรษฐา แต่เป็นมุมมองของฝ่ายค้านที่ปิดหูปิดตาต่อข้อเท็จจริง ที่ว่าพรรคพท.สามารถนำประเทศผ่านพ้นสุญญากาศหลังการเลือกตั้ง พ.ศ.2566 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล บริหารในสภาวะวิกฤตมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกว่า 6 เดือน โดยไม่ได้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เลยแม้แต่บาทเดียว

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ในทางกลับกันรัฐบาลที่นำโดยพรรคพท.กลับบริหารจัดการประเทศผ่านทักษะการเจรจา และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน จนมีผลความคืบหน้าทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 3,035,296 คนที่มาเยือนประเทศไทยในห้วงเดือนแรกของ พ.ศ.2567 ซึ่งโตกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2566 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวจากอีกหลายชาติทั่วโลก ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลจากความร่วมมือยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) และการปรับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรัฐบาลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่รัฐบาลบริหารประเทศมา ราคาสินค้าทางการเกษตรในภาพรวมทุกตัวปรับขึ้น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และยางพารา ทุกรายการมีราคาขยับขึ้นเฉลี่ย 8-45% และยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยการผลักดันส่งออก ที่รัฐบาลได้เน้นการจับมือภาคเอกชนในการทำตลาด ทั้งเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้า มุ่งยกระดับเพิ่มผลิตผลสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และวางแผนบริหารจัดการเชิงรุกในทุกสินค้า

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายชัยธวัชกล่าวเตือนว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบหากมีการเอื้อประโยชน์ต่อการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยอ้างกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เหมือนนายชัยธวัชไม่เคารพกฎหมาย ทั้งที่รัฐบาลยืนยันมาโดยตลอดว่ากรณีการพักโทษ นายทักษิณนั้นเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยชอบทุกประการ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์มีการแถลง ตลอดจนสื่อมวลชนมีการรายงานข่าวมาอย่างต่อเนื่อง และชัดเจนว่าคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไปของนายทักษิณนั้น ครบตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการหรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28 ต.ค.63 ซึ่งประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่อาจเป็นการเอื้อประโยชน์อย่างที่หัวหน้าพรรคก.ก.ดันทุรังกล่าวหา ในลักษณะดิสเครดิตโดยปราศจากน้ำหนัก

“พรรคก.ก.เคยร่วมเป็นฝ่ายค้านกับพรรคพท.ในสมัยที่แล้ว ไม่น่าลืมว่าฝ่ายค้านสร้างสรรค์เป็นอย่างไร ไม่ใช่ดันทุรังดิสเครดิตโดยปราศจากพื้นฐานข้อเท็จจริงที่มีน้ำหนักเพียงพอ รัฐบาลพร้อมให้ตรวจสอบการทำงานเสมอ เพราะประเทศจะเจริญได้ก็ด้วยการลงมือทำงาน ให้คนทำงานมีโอกาสทำงาน หากมือไม่พายอย่าเท้าราน้ำ เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน