พูดเลยว่ากระแสแรงแบบฉุดไม่อยู่กับ “ไอ้ไข่” ลูกศิษย์วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช สำหรับความศรัทธาของมวลมหาประชาชน ที่แห่กันหลั่งไหลไปกราบไหว้ขอพร รวมถึงแสวงหาวัตถุมงคลต่างๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าหากจะสมปราถนาจะต้องมาขอกับ “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ ด้วยตัวเองเท่านั้น
ไอ้ไข่ เป็นใคร?
ว่ากันว่า ไอ้ไข่ นั้น เป็นวิญญาณเด็กที่คอยติดตาม และลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่เห็นนี้ พบว่ามีสมบัติและศาสนสถานสำคัญเป็นจำนวนมาก จึงให้ ไอ้ไข่ สิงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้เพื่อเฝ้าสมบัติดังกล่าว ภายหลังจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านโพธิ์เสด็จ” จนถึงปัจจุบัน
วีรกรรมของไอ้ไข่มีมากมายอย่างคนที่เข้ามานอนพักภายในบริเวณวัดเจดีย์ถ้าไม่เอ่ยชื่อ บอกกล่าว หรือขอขมาต่อไอ้ไข่แล้ว จะนอนไม่ได้ มีการก่อกวนทั้งคืน เช่น เมื่อทำท่าจะหลับจะมีเด็กเอามือมาตีศีรษะบ้าง ดึงขา ดึงแขนบ้าง ก่อกวน ตามประสาแบบเด็กๆ ทั้งคืน
ต่อมาอาจารย์เที่ยงหรือผู้ใหญ่เที่ยงได้นิมิตเห็นเด็กแก้ผ้า เปลือยกายยืนคู่กับพระสวมจีวรสีคล้ำมายืนให้เห็น และเด็กคนนั้นเอ่ยปากบอกว่า “แกะรูปเราให้ที เราจะได้มีที่อาศัยอยู่เป็นหลักแหล่ง” เมื่อถามว่าเด็กคนนี้เป็นใครได้คำตอบว่า “เราไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ตั้งแต่นั้นมาจึงได้รู้ว่าเด็กวัดนี้ชื่อ ไอ้ไข่
รูปวาดไอ้ไข่ วัดเจดีย์
ไอ้ไข่ทำมาจากไม้ตะเคียนสลักขึ้นเป็นรูปเด็กผู้ชายอายุประมาณ 9-10 ขวบ ซึ่งไอ้ไข่ขึ้นชื่อเรื่องการให้โชค ให้ลาภ จึงเป็นที่ดึงดูดนักเสี่ยงโชคเป็นอย่างมาก และเมื่อนักเสี่ยงโชคเหล่านั้นสมปรารถนา จึงบอกปากต่อปากกันมาเรื่อยๆ ว่าไอ้ไข่ให้โชคกับตน ผู้คนจึงเริ่มแห่มาเพิ่มมากขึ้น
เมื่อกระแสแรงขึ้น วัดต่างๆ ในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ต่างจัดสร้างไอ้ไข่จำลองขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนที่ศรัทธา แต่ไม่มีกำลังมากพอหรือไม่มีเวลาพอที่จะไปถึงแหล่งต้นกำเนิด ได้เข้ามากราบไหว้บูชา แต่ในอีกทางหนึ่งก็เป็นการชักชวนคนให้เข้าวัดจนเกิดรายได้ และกลายเป็น “พุทธพาณิชย์”
วัดเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ โดยที่วัดต้นตำรับ วัดเจดีย์ถึงกับต้องออกมาประกาศว่าไม่มีส่วนหรือเกี่ยวข้องกับวัดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดสร้างรูปจำลองของไอ้ไข่ ที่ไม่เหมือนต้นตำรับเลย ทั้งยังเปิดให้บูชาวัตถุมงคลไอ้ไข่อย่างมากมาย ซึ่งทางวัดก็ไม่เกี่ยวข้อง เจ้าอาวาส วัดเจดีย์ กล่าวว่า หากการเชิญไอ้ไข่ไปอยู่วัดอื่นโดยใช้การอธิษฐานเอานั้นไม่ใช่แล้ว เพราะใครๆที่มาวัดก็อธิษฐานกันทั้งนั้น เพราะถ้าหากจะเชิญไปจริงๆ ต้องเชิญไปทั้งหมด ตั้งแต่พระพุทธรูปที่เป็นจุดกำเนิด ยันคนที่ปฏิบัติต่อกันมาเป็นเวลา 100 กว่าปี
เจ้าอาวาสยังกล่าวอีกว่า วัดได้จดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมา วัตถุมงคล ซึ่งงานที่วัดสร้างสรรค์ขึ้นมาถือเป็นลิขสิทธิ์ของวัดอยู่แล้ว จริงๆ อาตมาไม่อยากจะเอาเรื่องกฎหมายมาดำเนินการ วัดต่างๆ ที่นำไอ่ไข่ไปใช้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของวัดเจดีย์
ล่าสุดเกิดดราม่ากรณี บิณฑ์ และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาไลฟ์สดที่วัดเจดีย์แล้วบอกว่าอัญเชิญไอ้ไข่ไปด้วย ก่อนขึ้นไปยังอุโบสถที่ห้ามไม่ให้ขึ้น ซึ่งคณะกรรมการก็ห้าม แต่ไม่ฟัง ที่ทั้งคู่พูดว่าเป็นการอัญเชิญ แต่จริงๆ ไม่ใช่การอัญเชิญ แต่เป็นการโปรโมทเท่านั้น
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าอาวาสต้องเอาผิดกับคณะกรรมการที่รับผิดชอบตรงนั้น ที่ปล่อยให้บิณฑ์ กับเอกพันธ์ เข้าไปทั้งที่เป็นเขตหวงห้าม ทางวัดต้องเชิญเจ้าหน้าที่ออกทั้งหมด 16 คน โดยคิดว่าจะให้พักงานก่อน 1 เดือน หากยังไม่มีแนวปฏิบัติที่จะช่วยป้องกันก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทน
หลังจากนั้น บิณฑ์ ไลฟ์สดเปิดใจผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้วัดเสื่อมเสียหรือหาประโยชน์จากไอ้ไข่แต่อย่างใด ที่ตนมาวัดเจดีย์เพื่อเอารูปไอ้ไข่มาขอบารมี เพื่อให้คนมากราบไหว้ที่คลองหก วัดดอนใหม่ และตนต้องการเข้าพบเจ้าอาวาส เพื่อชี้แจง และพร้อมทั้งขอโทษเจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คน
พูดเลยว่าเรื่องศรัทธา และความเชื่อเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ ใครที่ไม่เชื่อก็อย่าไปว่าคนอื่นว่างมงาย เพราะของอย่างนี้อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคล
อ่านเพิ่มเติม
“ไอ้ไข่” เป็นของวัดเจดีย์! เจ้าอาวาสติง หลังโผล่วัดต่างๆ เพียบ ชี้จดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว
บิณฑ์ ขอโทษ 16 จนท.วัดไอ้ไข่ โดนพักงาน รับผิดชอบทุกคน จ่อพบเจ้าอาวาส
