ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสาว อดีตลูกสะใภ้โดนไล่ออกจากบ้าน เหตุปลอมแปลงลายเซ็นแม่สามี หวนกลับมาพาคนบุกบ้าน ทุบกำแพงห้องนอน พังราบเป็นหน้ากลอง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยุพาพรรณ สวัสดิ์แวงควง เปิดเผยเหตุการณ์บ้านโดนทุบ เป็นส่วนของกำแพงห้องนอนแม่ชั้นล่างถูกทุบ จนก้อนอิฐ ก้อนปูน พังถล่มใส่เตียงนอนของแม่ ซึ่งเป็นฝีมือของอดีตพี่สะใภ้ พาชาย 2 คน บุกมาทุบทำลายข้าวของในบ้านในขณะที่ไม่มีใครอยู่

น.ส.ยุพาพรรณ กล่าวต่อว่า เหตุเกิดในพื้นที่บ้านหนองขุมดิน ต.หนองแวงควง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 64 บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 5 คน มีพ่อแม่ พี่ชาย และหลานวัยประถมอีก 2 คน ซึ่งเป็นลูกของพี่ชาย ก่อนหน้านี้พี่ชายมีภรรยาคนหนึ่ง

 

แต่ก็มีปัญหากับคนในครอบครัว ไม่ค่อยลงรอยกับแม่ ซึ่งปัญหาก็เรื้อรังมาตลอด กระทั่งพี่ชายได้หย่ากับพี่สะใภ้คนนี้ไปได้เกือบ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังให้พี่ สะใภ้อาศัยอยู่ที่บ้าน เพราะยังไม่มีที่ไป และด้วยการดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วยหากย้ายทะเบียนบ้านออกจากหมู่นี้ก็จะหลุดจากตำแหน่ง

น.ส.ยุพาพรรณ กล่าวต่อว่า คนในบ้านก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอดีตพี่สะใภ้คนนี้ ซึ่งอดีตพี่ สะใภ้ก็อยู่ในฐานะแค่คนอาศัยคนหนึ่ง ออกจากบ้านไปตอนกลางวัน กลับเข้ามานอนตอนกลางคืน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ อบต. เข้ามาถ่ายรูปบ้าน พร้อมแจ้งว่าแม่ไปยื่นเรื่องขอเลขที่บ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนที่ทางอดีตพี่สะใภ้ขอต่อเติมกั้นเป็นห้องออกมาจากตัวบ้านเป็นห้องหนึ่ง

อยู่ภายในที่ดินและบริเวณบ้านเดียวกัน แม่ก็งงว่าจะออกเลขที่บ้านทำไมในเมื่อที่นี่ก็เป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งทาง อบต. ก็ได้ให้ดูเอกสารที่ทั้งสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน มีลายเซ็นชื่อแม่กำกับ แต่แม่ไม่ได้เซ็นเอกสารพวกนี้ ก่อนจะรู้ว่าอดีตพี่สะใภ้เป็นคนเอาเอกสารแม่ไปและเป็นคนปลอมลายเซ็นแม่เอง

แม่จึงไปแจ้งความไว้ที่สภ.หนองแวงควง พร้อมทั้งไล่อดีตพี่สะใภ้คนนี้ให้ขนของออกจากบ้านไปภายใน 7 วัน ทางตำรวจก็ได้เรียกตัวอดีตพี่สะใภ้มาพูดคุยกันและรับทราบการแจ้งความ ตัวอดีตพี่สะใภ้ก็ยอมรับว่าเป็นคนเอาเอกสารของแม่ไปปลอมเซ็นเอง

และก็มีการพูดคุยตกลงกันในเรื่องย้ายออก ซึ่งอดีตพี่สะใภ้ยื่นข้อตกลงว่า “แม่ก็ต้องทุบห้องดังกล่าวออกด้วย เนื่องจากเธอเป็นคนสร้างเอง” ซึ่งทางครอบครัวก็ยินดีที่จะทุบ พร้อมกับเซ็นรับทราบข้อตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายต่อหน้าตำรวจ

ต่อมาอดีตพี่สะใภ้ก็ได้เก็บของย้ายออกไปจากบ้านวันที่ 24 ก.พ. ทางครอบครัวจึงได้ทำการทุบห้องดังกล่าวออกไป แต่อดีตพี่สะใภ้ก็ยังไม่มาขนหน้าต่างขนประตูไปจึงเอาไปกองพิงไว้ที่ข้างบ้าน รอให้อดีตพี่สะใภ้เข้ามาขนไป แต่ต้องขออนุญาตเข้าบ้านก่อน เพราะเลยกำหนดวันที่ให้ขนของตามที่ตกลงกันแล้ว

กระทั่งวันที่ 6 มี.ค. ช่วงบ่าย ไม่มีคนอยู่บ้านพอกลับบ้านมาก็พบว่ากำแพงของห้องนอนแม่ชั้นล่าง ที่เคยเป็นกำแพงกั้นระหว่างห้องของอดีตพี่สะใภ้ถูกทุบจนพังยับ ข้าวของในห้อง เตียงนอนของแม่ก็เละเทะไปด้วยก้อนอิฐ ก้อนปูน ซึ่งอดีตพี่สะใภ้พาผู้ชาย 2 คน มาทุบทำลายข้าวของในบ้าน ตนจึงไปแจ้งความที่สภ.หนองแวงควง ในข้อหาบุกรุกและทำลายข้าวของ กับอดีตพี่สะใภ้อีกครั้ง

น.ส.ยุพาพรรณ กล่าวต่อว่า อดีตพี่สะใภ้มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หลังเกิดเรื่องตั้งแต่ที่แม่โดนขโมยเอกสารไปปลอมแปลง ก็ได้แจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ที่เป็นกลุ่มต้นสังกัดของอดีตพี่สะใภ้ เพื่อให้พิจารณาพฤติกรรมของลูกน้อง และเป็นการแจ้งเบื้องต้นให้กับทางผู้นำชุมชนให้ทราบเรื่องด้วย แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เคยมาสอบถามดูแล

ทั้งยังทราบว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นคนเซ็นกำกับให้อดีตพี่สะใภ้ไปยื่นเรื่องของเลขที่บ้านกับทาง อบต. ด้วย ซ้ำมาเกิดเหตุบุกรุกทุบบ้านอีก แจ้งผู้ใหญ่บ้านไปก็ไม่มาดู ไม่มาเยียวยาลูกบ้านเลย เรื่องคดีความที่แจ้งตำรวจไปก็ยังไม่ถึงไหน ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะอดีตพี่สะใภ้เคยพูดขู่ว่า แจ้งความก็ทำอะไรไม่ได้เขามีเส้นสายใหญ่ อย่างการบุกรุกเข้ามาทุบบ้านนี้

อดีตพี่สะใภ้บอกว่า “ทำไมจะเข้ามาบ้านนี้ไม่ได้ เพราะเคยอยู่ แล้วทำไมจะทุบไม่ได้ ในเมื่อทุบส่วนของห้องไม่หมด” ทั้งที่กำแพงนั้นก็เป็นกำแพงห้องนอนแม่เหมือนกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน