การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 44 “สุรนารีเกมส์” ที่ ม.เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ไฮไลต์อยู่ที่ว่ายน้ำ วันสุดท้าย ชิง 6 ทอง “เงือกสาว-ฉลามหนุ่ม จุฬาฯ” กวาดทองได้ทั้งหมด โดยเดี่ยวผสม 200 ม. หญิง “หมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก เงือกสาวทีมชาติไทย จากจุฬาฯ ยังฟอร์มแรงไม่ตกคว้าเหรียญทองที่ 5 ของตัวเองได้สำเร็จ หลังทำเวลาได้ 2.18.30 นาที พร้อมกับทำลายสถิติกีฬามหาวิทยาลัยของ “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ที่ทำไว้เมื่อปี พ.ศ.2555 ได้สำเร็จ ส่วนเหรียญเงินเป็นของ ภัทรวดี กิตติยะ จาก ม.กรงเทพธนบุรี ทำเวลา 2.22.24 นาที และเหรียญทองแดง พรสุดา ไวนิยมพงศ์(จุฬาฯ) 2.27.75 นาที โดย เพียงขวัญ คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมหญิง ครองราชินีสระ ส่วนยอดเยี่ยมชาย ตกเป็นของ พีระพัฒน์ เลิศสถาพรสุข (จุฬาฯ)

ส่วนผลประเภทอื่นๆ กรรเชียง 50 ม. ชาย ทอง กศิภัทร ช่อกระถิน (จุฬาฯ) 26.38 วินาที, ผีเสื้อ 50 ม. หญิง ทอง เจนจิรา ศรีสอาด (จุฬาฯ) 27.62 วินาที, กบ 200 ม. ชาย ทอง ประสบชัย แก้วรุ่งเรือง (จุฬาฯ), ฟรีสไตล์ 800 ม. หญิง ทอง เอมมิกา หิมะทองคำ (จุฬาฯ) 9.14.30 นาที, ผลัดผสม 4×100 ม. ชาย จุฬาฯ (กศิภัทร ช่อกระถิน, นนท์ปกรณ์ อิทธิอมรพัฒน์, ประสบชัย แก้วรุ่งเรือง, พีรภาส แจ่มจำรัส) 3.54.38 (ทำลายสถิติ) สรุปทัพว่ายน้ำจุฬาฯกวาดไปทั้งหมด 29 ทอง จากการชิงชัย 39 เหรียญทอง

กอล์ฟ ทีมสวิงหนุ่ม-สาว ม.ศรีปทุม กวาดไปถึง 3 ทอง โดยได้จาก ประเภทบุคคลชาย กัมลาศ นาเมืองรักษ์ นักกอล์ฟทีมชาติ ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 140 ประเภททีมชาย ที่ประกอบด้วย กัมลาศ, ธนากร ตอสี นักกอล์ฟดาวรุ่งของไทย, ปฐมพงศ์ สายสกลเดช, อมต คนชาญ ช่วยกันหวดทำสกอร์ 6 โอเวอร์พาร์ 438 และทีมหญิง สวิงสาว ม.ศรีปทุม นวภร จันทร์บรรจง, อรณิชา โกนสันเทียะ และ ชนิดา เทพสาร ทำสกอร์รวมได้ 23 โอเวอร์พาร์ 311 เท่ากับทีม สพล. ต้องตัดสินด้วยการเพลย์ออฟ ก่อนสาวศรีปทุม ออกพัตเตอร์ได้เฉียบคมกว่าเอาชนะคว้าเหรียญทองไปครอง

 
ยูยิตสู ชิง 7ทอง รอบชิงชนะเลิศ ต่อสู้ น้ำหนักไม่เกิน 49 ก.ก. หญิง สุวนันท์ บุญซ่อน (ม.สวนดุสิต) ชนะ ศศิพิไล ไชยแสง (สพล.) 22-4 คะแนน,ต่อสู้ น้ำหนักเกินไม่เกิน 55 ก.ก. หญิง อาร์ม สุขเขียว (ม.รัตนบัณฑิต) ชนะ กุลสตรี คำสร้อย (ม.เกษมบัณฑิต) 18-12 คะแนน, ต่อสู้ น้ำหนักไม่เกิน 62 ก.ก. หญิง อรอนงค์ แสงศิริโชค (ม.เกษมบัณฑิต) ชนะ ศิรามล ดีพุดซา (สพล.)18-6 คะแนน, จับล็อค น้ำหนักไม่เกิน 56 ก.ก. ชาย วรกร ฟูสามป๊อก (ม.รังสิต) ชนะ อภินัท ทิพย์นพคุณ (มรภ.เชียงราย) 99-0 คะแนน, จับล็อก น้ำหนักเกิน 56 ก.ก. แต่ไม่เกิน 62 ก.ก. ชาย ภูวเดช บัวหลวง (สพล.) ชนะ คมกริช เขียดนิน (ม.ศรีปทุม) 99-0, จับล็อกน้ำหนักเกินไม่เกิน 69 ก.ก. ชาย รัชราช ยิ้มพราย(ม.ศรีปทุม) ชนะ พรรษา ราษีสวย (ม.รัตนบัณฑิต) 99-0 คะแนน, ศิลปะการต่อสู้ คู่ผสม สุภวดี แก้วสระแสน-ธรรมนูญ โปไธสง (ม.เกษมบัณฑิต) ชนะ ปวีณา รักษาชาติ-ศุภ งามพึงพิศ (ม.รัตนบัณฑิต) 42.00- 40.05 คะแนน

 

 

ยูโด ชิง 6 ทอง ประเภทต่อสู้ รุ่น 66 กก.ชาย ทอง สุรศักดิ์ พันธนาม (มรภ.ศรีสะเกษ), รุ่น 73 กก.ชาย ทอง บรรพต เลิศไธสง (สพล.), รุ่น 81 กก.ชาย ทอง สุทธิพงษ์ กันจู (ม.นอร์ทกรุงเทพ), รุ่น 52 กก.หญิง ทอง กชกร วรสีหะ (ม.นอร์ทกรุงเทพ), รุ่น 57 กก.หญิง ทอง เสาวลักษณ์ หอมกลิ่น (ม.รัตนบัณฑิต), รุ่น 63 กก.หญิง ทอง อรพินท์ เสนาธรรม (ม.กรุงเทพธนบุรี)

 

ฟุตบอล รอบรองชนะเลิศ ทีมชาย “แชมป์เก่า” ม.เกษมบัณฑิต ที่ขนผู้เล่นที่เล่นระดับไทยลีก 3 มาแข่งขัน เจอกับ ม.รัตนบัณฑิต ที่มีดาวเด่นอย่าง วีระวุฒิ กาเหย็ม, อดิศักดิ์ เส็นสมเอียด และกษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ โดยในเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมกินกันไม่ลงเสมอกัน 1-1 โดย ม.เกษมบัณฑิต ได้ประตูนำก่อนจาก ภูษิต นันใจคำ นาทีที่ 10 ก่อนที่ วทัญญู พรมโสภา จะตีเสมอให้ม.รัตนบัณฑิต ในนาทีที่ 15 ต้องดวลจุดโทษ สุดท้าย เป็นม.เกษมบัณฑิต ที่ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะไปได้ 5-4 ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ

 
หลังเกม นายวิวรรธน์ นุชอร่ามเนตร เฮดโค้ชของม.เกษมบัณฑิต กล่าวว่า ทีมชุดนี้เป็นทีมชุดเดิมจากที่คว้าแชมป์มาเมื่อ “กันเกราเกมส์” เปลี่ยนเพียงแบ๊กขวาที่เรียนจบเพียงคนเดียว ซึ่งทุกคนเล่นกันมานาน และเล่นด้วยความเข้าใจ จึงทำให้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง ส่วนรอบชิงนั้นทุกทีมเป็นทีมที่ดีทั้งหมด แต่ก็มั่นใจว่าจะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้

 

ส่วนผลอีกคู่ ม.กรุงเทพ ชนะ มรภ. เชียงราย 2-0 โดยม.กรุงเทพ ขะเข้าไปแย่งเหรียญทอง กับ ม.เกษมบัณฑิต วันที่ 2 มี.ค. ที่สนามกีฬากลาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ภาค 3 เวลา 10.00 น.

 

 

ขณะที่รอบตัดเชือก ทีมหญิง ว.บัณฑิตเอเชีย ชนะ สพล. 3-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ชนะ ม.เกษตรศาสตร์ 3-1 ในวันที่ 2 มี.ค. ที่สนามกีฬากลาง กกท. ภาค 3 เวลา 08.00 น.

 

 

เทนนิส ประเภทบุคคล ชายเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ ภาสวิชญ์ บูรพาฤทธา แชมป์เก่าจากม.ศรีปทุม หวดเอาชนะ วรุตม์ ก่อเกียรติถาวร จากม.หอการค้ 2-0 เซ็ต 6-1, 6-2 โดยจะผ่านเข้าไปตัดเชือกับจิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ จาก ม.สวนดุสิต ที่เอาชนะ ชนะ คงทรัพย์ คงคา จากม.กรุงเทพ 6-1, 6-3 ขณะที่ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล นักหวดทีมชาติไทยชุดเดวิสคัพ มือวางอันดับ 1 ของรายการจากม.กรุงเทพธนบุรี เอาชนะ ปัณณ์ โพธิทัต จากม.กรุงเทพ 6-2, 5-7, 7-5 ผ่านเข้าไปพบกับ ภูริวัจน์ ฉัตรพัชญ์เจริญ จากม.สวนดุสิต ที่ชนะ ชาลีชาญ ธนสุกาญจน์ จากจุฬาฯ 6-1, 6-3

 
ด้านประเภทหญิงเดี่ยว เพียงธาร ผลิพืช แชมป์เก่าจากม.สวนดุสิต เอาชนะ อารีพร วณิชยาพณิชย์ จากจุฬาฯ 6-0, 6-2 ผ่านเข้าไปตัดเชือกับ ธนจันทร์ มอมขุนทด (ม.กรุงเทพ) ที่ชนะ วิจิตรบรรจง ปักกาโร(ม.หอการค้าไทย) 6-1, 6-2 ส่วนพลบรุ่ง ผลิพืช (ม.กรุงเทพ) ชนะ วรรณิยา เกษรจันทร์ (ม.หอการค้าไทย) 6-0, 6-1 เข้าไปพบกับ พัชรินทร์ ชีพชาญเดช(ม.สวนดุสิต) ชนะ กมลลักษณ์ กิตติถนอม(จุฬาฯ) 6-4, 6-1

 
วันเดียวกัน ที่ รร.เวียนนาการ์เด้น รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.นครราชสีมา ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี ม.กรุงเทพธนบุรี ร่วมแถลงข่าวลงนามความตกลงร่วมมือ การพัฒนาและเพิ่มทักษะการกีฬานักเรียนระหว่าง อบจ.นครราชสีมา และ ม.กรุงเทพธนบุรี โดยมีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างผู้ฝึกสอนยกระดับความสามารถด้านกีฬาของนักเรียนและผู้ฝึกสอนในแต่ละชนิดกีฬา เบื้องต้นจะเริ่มจากกีฬาที่นักเรียนในท้องถิ่นชื่นชอบอย่าง กรีฑา, เซปักตะกร้อ และฟุตบอล ซึ่งทาง ม.กรุงเทพธนบรี จะส่งผู้บุคคลากรฝึกสอน รวมถึงนักกีฬาดาวดังทีมชาติในสังกัด ม.กรุงเทพธนบุรี มาช่วยพัฒนานักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ของ อบจ.นครราชสีมา และยังเปิดโอกาสให้นักกีฬาที่มีความสามารถได้เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ที่ ม.กรุงเทพธนบุรีอีกด้วย.

 

ส่วน รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ก.ก.ม.ท. เปิดเผยว่า “สุรนารีเกมส์” ครั้งนี้ ถือว่านักกีฬามีการพัฒนาขึ้นมาก อย่างที่เห็นได้ว่ามีนักกีฬาพังสถิติเดิมมากมายชี้ว่างการแข่งขันมีมาตรฐานที่ดี ส่วนเรื่องคำถามที่ว่าการที่กีฬามหาวิทยาลัยฯเลื่อนมาจัดในเดือนนี้ ซึ่งมีนักกีฬาติดสอบและถอนตัวไปหลายชนิดกีฬานั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ากังวล เพราะนักกีฬาที่ถอนตัวไปส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีความหวังมาคว้าเหรียญรางวัลอยู่แล้ว ส่วนนักกีฬาที่มีความหวังหรือทีมชาติก็ฟิตพร้อมกันมาแข่งขันอย่างครบถ้วน การชี้วัดขีดการพัฒนานักกีฬาจึงยังมีมาตรฐานอยู่ และยังเห็นได้ว่าสถาบันต่างๆมีการพัฒนา สามารถล้มสถาบันใหญ่ๆได้หลายชนิดกีฬาอย่างเช่นฟุตบอลชาย มรภ.เชียงราย ก็สามารถล้มทีมเต็งอย่าง ม.กรุงเทพธนบุรี ได้ นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจเข้ามาชมกีฬาเป็นจำนวนมากอย่างเรือพายก็ได้รับความนิยมสูง ส่วนกีฬาสาธิตอย่าง เพาะกาย ก็มีผู้ชมคึกคักนับพันคน ถือเป็นมิติที่ดีอย่างมาก

 
สำหรับพิธีปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 44 สุรนารีเกมส์ วันที่ 2 มี.ค. จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาสุรพลากรีฑาสถาน ม.เทคโนโลยีสุรนารี โดยมี ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นประธาน ภายในงานจะมีการแสดงทั้งหมด 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดแรก “ปีปทอง คล้องดวงใจ” ชุด 2 “สปิริต ออฟ สุรนารีเกมส์” คั่นด้วย พิธีดับไฟที่กระถางคบเพลิง และปิดท้ายที่ชุด 3 “คีตราชนิพนธ์ สถิตในใจชนตราบนิรันดร” จากนั้น ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีม.เทคโนโลยีสุรนารี จะมอบธง ก.ก.ม.ท. คืนให้กับ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธาน กกมท. ก่อนจะส่งต่อให้กับ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เจ้าภาพครั้งที่ 45 เป็นอันเสร็จพิธี

 
สรุปตารางเหรียญ (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.จุฬาฯ (49-41-54) 2.สพล. (44-46-44) 3.ม.รัตนบัณฑิต (32-17-20) 4.ม.กรุงเทพธนบุรี (31-15-8) 5.ม.เกษตรศาสตร์ (24-19-24) 6.ม.ธรรมศาสตร์ (21-14-31) 7.ม.เกษมบัณฑิต (9-14-22) 8.ม.ศรีปทุม (7-8-7) 9.ม.กรุงเทพ (6-6-17) 10.ม.ขอนแก่น (5-4-15)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน