ลูกหลานกะเหรี่ยง ร่วมส่งร่าง “ปู่คออี้” กลับคืนใจแผ่นดิน ปิดตำนาน 107 ปี คนอยู่กับป่า

ร่วมส่งร่าง “ปู่คออี้” – เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่บ้านบางกลอยล่าง ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ชาวบ้านกะเหรี่ยง และเครือข่ายกะเหรี่ยงจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี และพี่น้องกะเหรี่ยงจากเมืองพะอัน เมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่า เข้าร่วมไว้อาลัยกว่า 200 คน ร่วมจัดพิธีศพ ปู่คออี้ หรือ คออิ มีมิ อายุ 107 ปี ผู้นำทางจิตวิญญาณของคนกะเหรี่ยง ที่เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา

โดยพิธีเริ่ม ตั้งแต่เวลา 09.00-10.00 น. ลูกหลานปู่คออี้ที่กลับมาทำพิธีร่วมกันมากมาย จุดธูปเพื่อรำลึกถึงปู่แล้ว ช่วยกันขนย้ายศพออกจากบ้านของปู่ ไปยังเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน ด้วยระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อทำพิธีเผาศพ ซึ่งเป็นพิธีเรียบง่ายตามวิถีดั้งเดิมของคนกะเหรี่ยง โดยตลอดเส้นทางที่เคลื่อนย้ายร่างของปู่คออี้ ไปยังจุดทำพิธีนั้น ชาวบ้านได้ร่วมกันขับร้องเพลงเพื่อรำลึกถึงปู่กระทั่งจบพิธี

ลูกหลานร่วมส่งร่างปู่คออี้

ลูกหลานร่วมส่งร่างปู่คออี้

นายน่อแอะ มีมิ อายุ 56 ปี ลูกชายคนสุดท้องของปู่คออี้ กล่าวถึงความรู้สึกของการสูญเสียในครั้งนี้ว่า เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะพ่อเป็นที่รักของชาวบ้านและทำงานให้กับหมู่บ้านเยอะ ไม่รู้ว่าตนจะสามารถสืบทอดต่อจากที่พ่อทำได้อย่างไร ส่วนเรื่องคดีที่ตนเองก็มีติดตัวเช่นกันนั้น ไม่อยากสู้อะไรแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะชนะได้หรือไม่ อยากอยู่แบบนี้ต่อไปเงียบๆดีกว่า

ด้าน นายสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวว่า สิ่งที่ปู่สร้างไว้ให้สังคมไทยคือ ปู่ได้บอกกับสังคมกับทุกคนว่า ปู่มีตัวตน ไม่ใช่คนต่างด้าว และมีสัญชาติไทย ปู่พิสูจน์แล้วว่าปู่รักแผ่นดินไทย

ทำพิธีเผาร่างปู่คออี้

ทำพิธีเผาร่างปู่คออี้

อย่างที่สองที่ปู่ทำคือ ปู่ออกมาต่อสู้พิสูจน์แล้วว่าชุมชนที่ปู่เกิดและอาศัยอยู่ที่บ้านใจแผ่นดินมาร่วม 100 กว่าปีคือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ซึ่งอยู่มานานก่อนมีการประกาศว่าเป็นพื้นที่ป่า ทำให้สิทธิของชาวบ้านและผู้คนที่อาศัยในป่าเริ่มเกิดขึ้น นำมาสู่การเปิดประตูให้แก่คนอีกนับล้านคนในประเทศไทยซึ่งอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ป่าและไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้

แต่ตอนนี้ปู่ทำให้ศาลต้องออกมาประกาศแล้วว่า ใช้กฎหมายได้ มีกระบวนการรองรับเรื่องนี้อยู่จริง และสิ่งสุดท้ายคือ ปู่ทำให้การอพยพขับไล่คนในพื้นที่ป่าซึ่งรุนแรงที่สุด ด้วยวิธีการเผาในครั้งนี้ให้สังคมได้รู้ ซึ่งหากครั้งนี้ปู่แพ้ ก็จะเกิดบรรทัดฐานว่า สามารถเผาบ้านชาวบ้านได้ ใครไม่ถูกต้องก็เผากันไปมา จนเกิดความวุ่นวายมหาศาล แต่กรณีปู่ที่ลุกขึ้นมาสู้ ทำให้กระบวนการที่ถูกต้องเข้ามาสู่สังคม ปู่สู้ด้วยความไม่โกรธแค้น และปรารถนาดี ความยืนยาวของปู่ไม่ใช่อายุ แต่เป็นความคิดที่อยู่กับป่ามาทั้งชีวิต

_________________________________________________

อ่านข่าวเกี่ยวกับปู่คออี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน