ปูพรมไล่ล่าหนุ่มโหดฆ่าเมียเก่า-แม่ยาย เช็กวงจรปิดเจอภาพเดินจูงมือเด็กชาย เผยเคยส่งไลน์-เฟซบุ๊กข่มขู่เมียเก่าต่อเนื่อง พบสัญญาณมือถือโผล่ชายแดนเมืองกาญจน์

จากกรณีคนร้ายบุกยิง นางวรีรัตน์ เจริญบูรณ์พันธุ์ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านนวดชื่อ “คุณรัตน์ นวดเพื่อสุขภาพ” บริเวณถนนสายสุวรรณศร 33 สี่แยกสามทหาร ม.8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ น.ส.ปิยนันท์ เจริญบูรณ์พันธุ์ อายุ 43 ปี ลูกสาว เสียชีวิตคาร้าน ทราบว่าก่อนหน้านี้นายทอง เขียวฉะอ้อน อายุ 51 ปี สามีคนที่ 4 ของนางปิยนันท์ที่เลิกราไปแล้ว 2 ปี มาง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ ก่อนก่อเหตุยิงอดีตภรรยาและแม่ยายเสียชีวิต และยังนำตัวลูกชายวัย 6 ขวบ ที่เป็นลูกของนางปิยนันท์ หลบหนีไปด้วย ก่อนจอดรถทิ้งหน้าวัดทับนา อ.หันคา จ.ชัยนาท และหลบหนีไป โดยมีเจ้าหน้าที่และญาติของเด็กมาพบเด็กในสภาพเสื้อเปื้อนเลือด เบื้องต้นพบว่าด.ช.วัย 6 ขวบยังไม่ทราบว่าแม่และยายเสียชีวิตแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ฆ่าเมียเก่า / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ติดตามจากกล้องวงจรปิด ที่สำนักงานของนายนพ อินทร์แก้ว อายุ 56 ปี เลขที่ 120/27 หมู่ 8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ริมถนนสายสุวรรณศร (กบินทร์บุรี-สระแก้ว) หรือสาย 33 ช่วงเวลา 21.05 น.วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา พบกล้องตัวที่ 1, 2 สามารถบันทึกภาพคนร้ายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากางเกงขายาวสีดำ เดินจูงมือเด็กเดินผ่านหน้ากล้อง หายไปทางฝั่งสี่แยกสามทหาร เบื้องต้นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน และแจกจ่ายในการใช้ติดตามคนรายดังกล่าวต่อไป

“ในเบื้องต้นทางชุดสืบสวนสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายรายนี้จะหลบหนีไปได้เร่งกดดัน และติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาคือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา, มีเครื่องกระสุนปืนและอาวุธปืน และพรากผู้เยาว์อายุต่ำากว่า 15 ปี ไปจากผู้ปกครองพร้อมเตรียมออกหมายจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป” พ.ต.อ.วันชัย กล่าวและว่า ก่อนหน้านั้นคนร้ายส่งไลน์-เฟซบุ๊กมาข่มขู่ อดีตภรรยาโดยต่อเนื่อง ก่อนที่ทางฝ่ายอดีตภรรยาจะมาลงบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนเสียชีวิตต่อมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสอบถามจากเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่อยู่ในห้องแถวเดียวกัน พบว่าในช่วงคืนที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงวันอาทิตย์ ซึ่งร้านค้าในแถบดังกล่าวต่างพากันหยุดพัก และไม่มีผู้เห็นหรือได้ยินเหตุการณ์ยกเว้นบางร้าน อาทิ ร้านเขียนโปสเตอร์ ที่อยู่ใกล้กับร้านนวดแผนไทย แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เดินทางมาถึงพื้นที่ อ.หันคา และสนธิกำลังกับตำรวจ สภ.หันคา ลงพื้นที่ปูพรมค้นหาตัวนายทองสามีโหด ตามจุดที่คาดว่าจะไปซ่อนตัว เพราะมีเบาะแสจากชาวบ้านบอกว่าลูกเขยโหดรายนี้ อาจจะหลบหนีไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ บ้านหนองอ้ายสาม ต.เด่นใหญ่ อ.หันคา ซึ่งนายทองมีพื้นเพเป็นคนบ้านหนองอ้ายสาม ก่อนอพยพครอบครัวไปอยู่ จ.สุโขทัย และเคยมีภรรยาในพื้นที่ อ.หันคา หลายคน จึงไล่ล่าปูพรมตามจุดที่คาดว่าจะไป แต่ยังไม่พบตัว

จากการติดตามการใช้งานโทรศัพท์มือถือของนายทอง การเคลื่อนที่มีแนวโน้มว่าอาจเดินทางไปตะเข็บชายแดนด้าน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยไล่ล่าและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสกัดจับแล้ว พร้อมแจ้งเตือนผู้พานายทองหลบหนีหรือให้ที่พักพิง ซ่อนตัว จะมีความผิดตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน