ญาติน้ำตานอง เชิญวิญญาณแม่ค้า เหตุ ศาลาริมน้ำถล่ม จนท.เผยอุปสรรค ต้องปรับแผน คาดผู้สูญหายอีกคนอาจอยู่จุดที่ลึกที่สุดเตรียมนำเรือโป๊ะชนิดมีเครนขนาด 50 ตันมายกตัวโครงสร้างอาคาร

ศาลาริมน้ำถล่ม จากกรณี ศาลาริมน้ำแม่กลอง ใกล้วัดเพชรสมุทรวรวิหาร อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พังถล่มลงไปในแม่น้ำ ซึ่งศาลาหลังดังกล่าวมีร้านขายของ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน และยังคงสูญหายไปอีก 2 คน คือ นางสุรีย์ อุราชื่น เป็นแม่ค้าขายอาหาร และ น.ส.พรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี เป็นลูกค้าที่มาทานอาหาร เบื้องต้นพบว่าทั้ง 2 คนเสียชีวิตติดอยู่ในซากอาคารในน้ำ กระทั่งกลางดึกเจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่าง นางสุรีย์ ขึ้นมาได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 17 ก.ค. ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชั่วคราว ศาลาริมน้ำแม่กลอง ใกล้วัดเพชรสมุทร อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นายประจินต์ ธารศิริสิน รอง ผวจ.สมุทรสงคราม และรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด พร้อมด้วย นายปิยะลักษณ์ ถิ่นแก้ว หัวหน้าแผนกกู้ชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงสรุปผลการค้นหาผู้สูญหายในวันนี้

นายประจินต์ เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีการปูพรมค้นหาผู้สูญหาย 2 ยุทธวิธี คือได้สั่งให้กรมเจ้าท่าและตำรวจน้ำค้นหาตามน่านน้ำจุดรัศมีที่ไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7-8 กิโลเมตร แต่ไม่พบ จึงหันกลับมาระดมค้นหาจุดที่เกิดเหตุศาลาถล่ม เบื้องต้นจากการสอบถามคนใกล้ชิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้สูญหายอยู่ที่บริเวณด้านขวาของศาลา (หากมองเข้าไปหาทางแม่น้ำ) ซึ่งจากการตรวจสอบของนักประดาน้ำ พบว่าจุดนี้เป็นจุดที่ลึกที่สุด และยังไม่สามารถยกโครงสร้างออกได้

เนื่องจากโครงสร้างหลังคาศาลามีน้ำหนัก 20 ตัน และพื้น, เสา, คาน มีน้ำหนัก 60 ตัน ซึ่งเกินพิกัดการทำงานของรถเครนที่จะทำงานได้ในวันนี้ เพราะรถเครนมีน้ำนักเพียง 25 ตัน ประกอบกับการใช้เครนยกโครงสร้างออกมาในวันนี้ มีการสั่นสะเทือนและกระแสน้ำเชี่ยวมาก ทำให้โครงสร้างอาคารมีการลาดเอียงลงไปจากเดิม 40-45 องศา เอียงลงไปเป็น 90 องศา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าร่างน้องจะติดอยู่ในมุมที่ลึกที่สุด จึงได้มีการปรับแผน ยกตัวโครงสร้างอาคารร่วมกับรถเครน ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับทีมนักประดาน้ำที่จะเข้าไปรื้อถอนทำลายกระเบื้อง มุม หลังคา และฝ้าเพดาน เพื่อลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร

นายประจินต์ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้จะนำเรือโป๊ะชนิดมีเครนขนาด 50 ตันมายกตัวโครงสร้างอาคารร่วมกับรถเครน จะทำควบคู่ไปกับทีมนักประดาน้ำที่จะเข้าไปรื้อถอนทำลายกระเบื้อง มุม หลังคา และฝ้าเพดาน เพื่อลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร รวมไปถึงยังมีอุปสรรคจากกระแสน้ำเชี่ยวขึ้น-ลงด้วยเกิดเหตุการณ์มาเกิน 24 ชั่วโมง ร่างของผู้สูญหายหากมีการอิ่มน้ำ จะต้องลอยขึ้นมาเอง ส่วนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้เน้นเรื่องการกู้ร่างผู้สูญหายขึ้นมา และเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บก่อน เพราะตอนนี้ต้องคำนึงถึงความรู้สึกญาติและครอบครัวของผู้สูญหายมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ก่อนการแถลงข่าวทางครอบครัวของ น.ส.สุรีย์ อุระชื่น ได้เดินทางมาอันเชิญด้วยวิญญาณก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน