เคลียร์’นำเพลง‘อีกฝั่ง’สู่หนังสั้น

หวังฉุกใจคิดสัมพันธ์ครอบครัวกับโลกโซเชี่ยล

เคลียร์’นำเพลง‘อีกฝั่ง’สู่หนังสั้น – หวังฉุกใจคิดสัมพันธ์ครอบครัวกับโลกโซเชี่ยล หลังเปิดตัวภาพยนตร์สั้นเรื่องแรก “อีกฝั่ง” ของวง KLEAR” (เคลียร์) ในคอนเซ็ปต์ เรามีหลายตัวตน จนลืมหลายคนใน “อีกฝั่ง” ซึ่งเป็นการร่วมมือของ วง KLEAR, หับโห้หิ้น บางกอก และมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ แล้ว แพทณัฐคีนัฐ สมาชิกวง KLEAR” และผู้กำกับฯ ครรชิต สพโชคชัย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแรงบันดาลใจการ นำเพลง “อีกฝั่ง” มาสู่โลกหนังสั้น

เคลียร์’นำเพลง‘อีกฝั่ง’สู่หนังสั้น

ครรชิต สพโชคชัย

โดยวง KLEAR กล่าวว่า “อีกฝั่ง เราเก็บเพลงนี้ไว้ไม่ได้โปรโมต จนมาเจอพี่ต๊อกคุณเสริมสิน สมะลาภา (นายกสภามหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์) พี่เขาชอบ เลยชวนน้องๆ ศิลปินครีเอเตอร์มาทำโปรเจ็กต์พิเศษร่วมกัน ทำเพื่อสังคม พี่ต๊อกบอกว่าชอบเพลง ‘อีกฝั่ง’ เป็นเพลงเชิงสัญลักษณ์ ไม่มีคำว่า ฉัน เธอ แต่พูดถึงนกสองตัวที่สามารถตีความได้หลากหลายรูปแบบ

เราเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 คิดไอเดียกันเป็นปีๆ มีทั้งเรื่องการเมือง การค้ามนุษย์ ยาเสพติด เด็ก ครอบครัว จนมาจบที่ประเด็นเรื่องใกล้ตัวว่าเราห่างกันไปเรื่อย เพราะอะไร เลยมาลงตัวที่การใช้โซเชี่ยลมีเดีย”

ผู้กำกับฯ กล่าวต่อว่า “เราไม่ได้แอนตี้การใช้โซเชี่ยลมีเดีย ไม่ได้แอนตี้การใช้เทคโนโลยี แต่แค่อยากจุดประกายว่า ตอนนี้เราตกเป็นเครื่องมือพวกนี้อยู่หรือเปล่า เดิมเครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ เราเริ่มตกอยู่ในโลกของมัน

เคลียร์’นำเพลง‘อีกฝั่ง’สู่หนังสั้น

เริ่มแคร์ยอดไลก์จนเริ่มไม่ใช่ตัวเอง และบางครั้งอาจหลงลืมคนใกล้ตัว หนังเรื่องนี้อยากจุดประเด็นให้คนมามองว่า แท้จริงแล้วคนที่รักเราอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่า อาจไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกโซเชี่ยล”

สิ่งที่อยากฝากถึงผู้ชม วง KLEAR กล่าวว่า “เราทั้งสี่คนไม่ได้แอนตี้การใช้โซเชี่ยลมีเดีย เรายังเล่นโซเชี่ยล เพราะเป็นช่องทางที่ดีทำให้ติดต่อกับแฟนเพลง เพียงแต่เราจะถอยมันลงมาเป็นเพียงเครื่องสื่อสาร จะไม่ให้มันมาเปลี่ยนตัวเราหรือมีอำนาจเหนือเรา เราจะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้คนอื่นมาชอบเราในแบบที่เราไม่ได้เป็น

สุดท้ายไม่ตัดสินว่าโซเชี่ยลร้าย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือสิ่งดี แต่แค่อยากให้ฉุกคิดว่า ‘เราลืมคนใกล้ตัวหรือเปล่า’ หลังดูหนังจบหวังว่าหนังสั้นเรื่องแรกของเรา ‘อีกฝั่ง’ จะช่วยดึงกลับจากอีกฝั่งที่เผลอตัวปล่อยตัวเองให้ห่างจากคนที่รัก แล้วจึงให้เรากลับมาใกล้กัน”

ผู้กำกับฯ เสริมว่า “อยากให้คนดูดูแล้วกลับไปทบทวนเวลาที่ใช้กับความสัมพันธ์ในครอบครัวกับโลกโซเชี่ยล อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าในตัวเองโดยไม่ต้องไปหวั่นไหวหรือแปลกแยก ทุกคนมีเวลาของตัวเอง คอนเทนต์มันเดินทางถึงตาเราเร็วขึ้น เราจะรู้สึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น และเร็วขึ้น ทำให้เราแข็งแรง ซึ่งอันนี้เป็นภูมิต้านทานที่สำคัญในชีวิต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน