ปชป.ซัดไม่แฟร์ พปชร.โวยถูกพังป้ายผู้สมัคร‘สก.’
ส.ส.ปชป.ฟันธง ‘บิ๊กตู่’ ไปคลองโอ่งอ่างช่วย ‘อัศวิน’ หาเสียงผู้ว่าฯ กทม. เตือนคนกรุงไม่ชอบอะไรที่ไม่แฟร์ อาจฉุดคะแนนวูบ ‘สุทิน’ ระบุส่อขัดจริยธรรมความเป็นผู้นำ จี้กกต.เตือน พร้อมแนะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร้องเอาผิดนายกฯ ด้านผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่คึกคัก ‘อัศวิน’ ตอกย้ำคลองสวยน้ำใส ‘ชัชชาติ’ ลุยวันเดียว 5 ตลาด ‘ดร.เอ้’ โชว์วิสัยทัศน์จัดการขยะ ‘เจ๊หน่อย’ ควง ‘ศิธา’ พบผู้ค้า อ.ต.ก. พปชร.ประชุมใหญ่วันนี้ ตั้งทีมงาน ‘บิ๊กป้อม’ เป็นกรรมการบริหารแทนตำแหน่งที่ว่าง

ส.ส.ปชป.ชี้‘ตู่’ไปโอ่งอ่างช่วย‘อัศวิน’
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อเขียนเรื่อง “บิ๊กวิน” ในเงา “บิ๊กตู่” แสดงความเห็นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถูกวิจารณ์การลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนในช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า เชื่อว่า มีคนตั้งคำถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในวันที่ 30 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แม้จะระบุว่า ไม่ได้เชียร์ใคร แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินได้อ่าน ต่างตีความว่า หมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

“ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร” คำว่า “จะทำอะไรต่อ” มันสอดรับกับสโลแกนของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ว่า “กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ” อย่างบังเอิญ

คนระแวง-ผู้นำทำลับๆ ล่อๆ
อีกวันต่อมา ช่วงเย็น 31 มี.ค. พล.อ. ประยุทธ์ ควงแขนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเป็นภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดการอีกครั้ง การลง พื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ของประเทศนี้คงไม่แปลกอะไร หากแต่การเลือกลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างในช่วงนี้ และวันเดียวกับที่มีการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันแรก ยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ กำลังช่วย พล.ต.อ.อัศวิน หาเสียงทางอ้อม แม้ไม่ได้มีประโยคไหนสื่อถึงก็ตามที

เพราะการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง จนได้รับรางวัลต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชียประจำปี ค.ศ.2020 (2020 Asian Townscape Award) จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme : UN-HABITAT) ซึ่งประกาศรางวัลไปเมื่อ วันที่ 16 ธ.ค.2563 เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวิน ใช้เป็นผลงานมาโดยตลอดและนำมาหาเสียงในครั้งนี้ด้วย

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ รับสมัครผู้ว่าฯ กทม. มันจึงสร้างความหวาด ระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จะจัดการเลือกตั้งได้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะมีการใช้กลไกฝ่ายอำนาจมาเอื้อให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ ในเมื่อผู้นำยังทำตัวสองแง่สามง่าม ลับๆ ล่อๆ

ระวังฉุดคะแนน-กลัวเงาสืบอำนาจ
การที่ผู้มีอำนาจไม่ได้วางตัวเป็นอิสระตามหน้าที่ของตัวเอง ย่อมสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบให้กับผู้สมัครคนอื่นๆ การกระทำแบบนี้ ไม่เพียงทำลายบรรยากาศการเลือกตั้งที่คนกรุงรอมา 9 ปี หรือเป็นการตัดสิทธิคนกรุงให้ได้รับสิ่งดีๆ เท่านั้น แต่ยังทำให้รู้สึกว่า มีใครพยายามที่จะรักษาอำนาจของตัวเองไว้ โดยทำทุกอย่างให้คนจากฝ่ายตัวเองชนะ

เมื่อทำกันแบบนี้ จะยิ่งตอกลิ่มให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันที่ 22 พ.ค.นี้ แบ่งเป็นสองฝ่าย และเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเผด็จการกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วย พล.ต.อ. อัศวินจะสลัดภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นคนตั้งมากับมือ ไม่ออก รวมทั้งก่อนหน้าที่ได้รับการแต่งตั้งด้วยคำสั่ง คสช. และดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.มา 5 ปีเศษ แม้จะพยายามทำตัว และลงแข่งในนามอิสระ

“ผมไม่แน่ใจว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นคะแนนให้กับ พล.ต.อ. อัศวินได้จริงหรือไม่ อาจเป็นดาบสองคม ทำลายคะแนนของ พล.ต.อ.อัศวิน เสียด้วยซ้ำ เพราะคนกรุงไม่ชอบอะไรที่มันไม่แฟร์ ระวังคนจะไม่เอา พล.ต.อ. อัศวิน เพราะกลัวจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีภาพของการสืบทอดอำนาจนะครับ” นายพนิตกล่าว

พท.ระบุส่อขัดจริยธรรม-จี้กกต.ฟัน
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หากมองใน แง่ดี พล.อ.ประยุทธ์สามารถลงพื้นที่ได้ทั่วประเทศ และทุกเวลาที่จำเป็น แต่มีเรื่องผิดปกติอยู่ว่าทำไมต้องลงพื้นที่กรุงเทพฯ ถี่ในช่วงนี้ ทำไมต้องแนะนำเรื่องการเลือกตั้งซึ่งคำพูดไปสอดคล้องกับคำโฆษณาของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.บางคนพอดี ไม่น่าเป็นเรื่องบังเอิญ สังคมได้ยินแล้วไม่สบายใจว่านายกฯ มีเจตนาอะไร

การกระทำดังกล่าวขัดจริยธรรมความเป็นผู้นำอย่างชัดเจน เอาตำแหน่งนายกฯ ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้งได้ นายกฯ ต้องอธิบายเหตุผลอย่างละเอียดเพื่อให้สังคมรับทราบ ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมี หน้าที่รักษากติกาการเลือกตั้ง ต้องมีความกล้าที่จะว่ากล่าวตักเตือนและลงโทษนายกฯ

แนะร้องเอาผิดที่เอาเปรียบ
“พล.อ.ประยุทธ์เอาตัวเองเข้ามาพัวพันได้เสียในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นแบบนี้ ชวนให้คิดต่อไปว่าแล้วการช่วงชิงอำนาจ ในการเลือกตั้งระดับชาติ มีหรือที่พล.อ. ประยุทธ์จะไม่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น แสดงให้เห็นธาตุแท้ของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าพร้อมเอาเปรียบคนอื่นเพื่อให้ได้อำนาจมา แต่เวลาที่เหลือก่อนถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อยากให้สังคมช่วยกันจับตาและให้สติดังๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์เพราะมีอำนาจให้คุณให้โทษสูงกว่าใคร ดังนั้นใครที่รู้สึกว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ไปยื่นร้องเอาผิดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตัดสินเป็นบรรทัดฐานต่อไป” นายสุทินกล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ที่ส่งสมัครผู้ว่าฯ กทม.มากน้อยแค่ไหน นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้จะส่งผลให้กินแหนงแคลงใจกันอย่างแน่นอนแม้จะเป็นการแข่งขันกันก็ตาม แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็อยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก พูดไม่ได้ อย่างไรเสียก็ต้องเกาะบารมี พล.อ.ประยุทธ์อยู่

‘อัศวิน’ตอกย้ำคลองสวยน้ำใส
เวลา 11.00 น. ที่วัดกระทุ่มเสือปลาเขตประเวศ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 6 เข้านมัสการพระครูโสภณ เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มเสือปลา สักการะศาลเจ้าพ่อเสือ และพบปะประชาชนที่มามอบดอกไม้ให้กำลังใจ โดยแม่ค้ารายหนึ่งบอกว่าอยากให้เป็นผู้ว่าฯ ต่อ เพราะทำผลงานไว้เยอะ ระหว่างทางยังมีผู้สนับสนุนตะโกนเชียร์อัศวิน เบอร์ 6 เป็นระยะๆ

จากนั้นพล.ต.อ.อัศวินลงเรือดูคลองประเวศบุรีรมย์ เพื่อตอกย้ำโครงการคลองสวยน้ำใส ระบบการจัดเก็บขยะทางเรือ และการเดินทางแบบเชื่อมต่อ “ล้อ ราง เรือ” โดยพลิกฟื้นเรือโดยสารในคลองให้กลับมาเดินเรือได้อีกครั้ง เพื่อช่วยให้ประชาชนในเขตประเวศประหยัดเวลาเดินทางไปยังรถไฟฟ้าในช่วงเวลาเร่งด่วน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วย แก้ปัญหารถติดในถนนอ่อนนุช

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า คลองประเวศบุรีรมย์เป็นพื้นที่คลองสวยน้ำใส เพราะเป็นคลองที่เชื่อมไปถึงอ่าวไทย ในสมัยก่อนมีประเพณีการแข่งเรือเล็ก เรือพาย เรือกระทะ ปัจจุบันคลองกลับมาสวยน้ำใสเหมือนเดิม สิ่งที่อยากจะทำต่อไปคือให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการสัญจรทางน้ำ ส่วนการสัญจรทางบก ก่อนหน้านี้เคยแก้ปัญหาเส้นทางตามตรอกซอกซอยให้ เช่น เทปูนในทางลูกรัง ราดยางมะตอย และติดไฟส่องสว่าง หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ อีกครั้งอยากจะกลับมาพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม จะพัฒนาความเจริญของบ้านเมืองด้วย

ช่วงบ่าย พล.ต.อ.อัศวินพบปะพี่น้องประชาชนชุมชนจัดสรรยาสูบ สุเหร่าบ้านดอน เยี่ยมชาวคลองเตย แฟลต 1-10 พูดคุยกับชุมชนด้วยเสียงตามสาย และขึ้นรถปราศรัยตามเส้นทางไปที่ชุมชน 70 ไร่

เปลี่ยนเมือง – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 8 เปิดเทศกาล ‘หมุนเวียน/เปลี่ยนเมือง’ ตอน ‘ชอบจึงหมัก รักจึงปลูก’ และร่วมเสวนาหัวข้อ ‘มุมมองขยะกรุงเทพมหานคร สู่เส้นทางการหมุนเวียน/เปลี่ยนเมือง’ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน วันที่ 2 เม.ย.

‘ชัชชาติ’ลุยหาเสียง 5 ตลาด
เมื่อเวลา 07.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนพ่อค้าแม่ค้า 5 ตลาด เริ่มจากตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร, ตลาด อ.ต.ก., เจเจมอลล์, ตลาดนัดจตุจักร และปิดท้ายเวลา 18.00 น. ที่ FLEA MARKET สวนหลวงสแควร์ โดยชูแนวคิด “ทำกรุงเทพฯ ให้ถูกลง” กทม.ต้องให้เต็มที่กับประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา และไปบรรยายพิเศษ “มุมมองขยะ กทม. สู่เส้นทางการหมุนเวียน/เปลี่ยนเมือง” ที่หอศิลป์

นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้เราหาเสียงในทุกช่องทางทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และคงมีติ๊กต็อก ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างดี อีกส่วนหนึ่งคือการลงพื้นที่ เพราะมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้เล่นออนไลน์ ฉะนั้นการลงพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของตน เพราะลงสมัครในนามอิสระไม่ได้มีหัวคะแนน มีแต่อาสาสมัครก็จะทำงานแบบงงๆ กันอยู่ ทั้งเรื่องการ ปิดป้ายหาเสียง แต่เชื่อว่าเรามาด้วยความจริงใจ พยายามเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ดังนั้นต้องลงพื้นที่ให้เยอะๆ ขึ้น

การลงสมัครแบบอิสระหรือแบบไหนมีจุดอ่อนและจุดแข็งต่างกัน แต่เชื่อว่าลงอิสระคงมีคนสงสารเรา ส่วนจุดแข็งคือเราคล่องตัว อยากทำอะไรก็ทำ นโยบายออกได้เร็ว และขอยืนยันครั้งที่ 250 ว่าเป็นอิสระจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค การเมืองไหน แต่ตนมีเพื่อนอยู่ทุกพรรคทุกกลุ่ม ในอนาคตใครจะได้รับเลือกตั้งเป็นส.ก.เราก็ต้องทำงานกับเขา และถ้าใครจะสนับสนุนตนก็ไม่ได้ไปรังเกียจ เพราะเราอิสระจะไปเล่นตัวได้อย่างไรว่าชอบหรือไม่ชอบใคร

‘ดร.เอ้’หนุนเกษตรอินทรีย์
เวลา 16.00 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 พร้อมด้วย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในเทศกาล “หมุนเวียน เปลี่ยนเมือง” ครั้งที่ 1 ตอน “ชอบจึงหมัก รักจึงปลูก” จัดโดยสมาคมเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (The NETWORK) โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า การจัดการขยะซึ่งเป็นหน้าที่ของ กทม. ยังทำได้ไม่ดี เนื่องจาก 1.เข้าไม่ถึง กทม.มีตรอกซอกซอยเยอะ แต่รถขยะมีขนาดใหญ่ จึงเสนอแนวคิดเรื่องการปรับขนาดรถขยะให้มีหลายไซซ์ เพื่อเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และเริ่มต้นใช้พลังงานสะอาด 2.เก็บ ไม่ถี่ เกิดจากเส้นทางการวิ่งของรถขยะไกลเกินไป เช่น ขยะจากตลาดราชวัตร เขตดุสิต ต้องไปทิ้งถึงสายไหม จึงจำเป็นต้องเพิ่มรถและ เพิ่มคน เพื่อให้การบริหารจัดการคล่องตัวขึ้น ดังนั้น กทม. ควรสนับสนุนคนที่อยากทำการเกษตรในเมือง ให้มีความยั่งยืน รวมทั้งเรื่องการนำขยะไปหมักทำปุ๋ย และการทำเกษตรอินทรีย์ ด้วยการให้ กทม. เป็นผู้รับซื้อสินค้าเกษตรจากผลผลิตในเมือง เพื่อส่งให้โรงเรียน ในสังกัด กทม. รวมไปถึงศูนย์เด็กเล็ก เพื่อเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชนได้ด้วย

‘ศิธา’พบผู้ค้า-ดันกองทุนคนตัวเล็ก
เวลา 14.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นำน.ต. ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พร้อมด้วย นายวิศาล กองเงิน ผู้สมัครส.ส. เขตจตุจักร พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เดินตลาดอ.ต.ก. พบปะผู้ค้า สอบถามปัญหาการค้าขาย โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด-19 พบว่าสภาพการค้ายังคงซบเซาต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนสินค้าหลายประเภทปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าเดินจับจ่ายน้อยลง ซึ่งผู้ค้าประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะสภาพการค้าจึงจะฟื้นกลับมา โดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็กที่หวังว่าจะได้รับการดูแลจากภาครัฐ เนื่องจากไม่มีทุนสำรองมากพอที่จะเสริมสภาพคล่อง

น.ต.ศิธากล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยและทีมนโยบายกทม.ของพรรคได้เตรียม “กองทุนตนตัวเล็ก” ซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อมอบ “เครดิตแก่ประชาชน” ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนในการทำมาหากินจนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนนี้จะเป็น “เครดิต” ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาทโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่างจากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ทำให้ คนตัวเล็กตั้งตัวได้ ยิ่งไปกว่านั้นเงินส่วนนี้ จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯ สามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุดอีกครั้ง

‘วิโรจน์’ย้ำพัฒนาเมืองคู่ชุมชน
เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 พร้อมด้วยกลุ่มนิสิตจุฬาฯ พิทักษ์ศาลเจ้าแม่ทับทิม ไปยังศาลเจ้าแม่น้ำทับทิม สะพานเหลือง เพื่อพูดคุยสอบถามและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนา ที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีการไล่ที่ประชาชนและพยายามย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมไปไว้ที่สถานที่ใหม่

นายวิโรจน์กล่าวว่า การพัฒนาเมืองต้องคำนึงถึงหัวใจและจิตวิญญาณของชุมชนด้วย ไม่ใช่เพียงตอบสนองผลประโยชน์ ของทุนใหญ่ การพัฒนาที่ดินต้องไม่ละทิ้งรากเหง้าและบริบทของชุมชนและพื้นที่ ตัวอย่างบทเรียนการพัฒนาเมืองที่ล้มเหลวในอดีต เช่น ป้อมมหากาฬ ที่ปลายทางของการพัฒนากลายเป็นเพียงสนามหญ้าที่แทบไม่มีการใช้งาน และไม่ได้ยึดโยงกับประวัติศาสตร์และผู้คนเลย ในอนาคตการพัฒนาเมือง ต้องคำนึงถึงผู้คน เน้นการพูดคุย และคำนึงถึงคุณค่าในอดีตที่จำเป็นต้องรักษาเอาไว้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

พปชร.โวยป้ายส.ก.ถูกทำลาย
น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ รองโฆษกศูนย์การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายเรื่องการติดป้ายหาเสียง โดยเน้นย้ำกับผู้สมัคร ส.ก. ทุกเขต ให้ใส่ใจเรื่องการติดป้ายให้เป็นไปตามระเบียบการติดป้ายหาเสียงอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย ที่สำคัญต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ซึ่งทางผู้สมัครส.ก. ทุกคน ให้ความสำคัญและใส่ใจเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยกำชับบริษัทหรือทีมงานติดป้ายไม่ให้กีดขวางคนเดินเท้าการจราจร ไม่ทำลายต้นไม้และทรัพย์สินของทางราชการ โดยการลงพื้นที่ตรวจป้ายและแก้ไขด้วยตัวเอง เมื่อพบเจอความผิดพลาดก็รีบแก้ไขอย่างทันท่วงที เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี

“ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่วันหลังรับสมัคร เลือกตั้งส.ก. ต่างเจอศึกหนัก เนื่องจากป้ายถูกทำลาย ถูกถอดแล้วนำไปโยนทิ้ง ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งที่ติดป้ายตามระเบียบการติดป้ายอย่างถูกต้องทุกประการจึงวอนขอความเห็นใจ อย่าทำลาย รื้อทิ้งกันเลย และสุดท้ายหากพี่น้องประชาชนพบป้ายของพรรคที่ถูกทำลาย ชำรุด หรือกีดขวางการสัญจร ให้รีบแจ้งเข้ามาโดยด่วน ทางพรรคจะรีบจัดการแก้ไข และหากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถส่งเข้ามาได้ทุกช่องทาง เพราะทุกเสียงของพี่น้องประชาชนคือ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญอย่างที่สุด” น.ส. บุณณดากล่าว

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธาน กทม.โซน 2 ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ก.หาเสียงในวันที่ 8 เม.ย.เป็นวันแรก พื้นที่ที่จะเข้าไปหาเสียงก่อนคือ เขตบางแคและคลองสามวา

สมัครผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.เพิ่มอีก
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพ มหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพ มหานคร แจ้งผลการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. เป็นวันที่สาม ปรากฏว่ามีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เพิ่ม 2 คน ได้แก่ หมายเลข 26 พล.ต.ท.มณฑล เงินวัฒนะ หมายเลข 27 นายภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ รวมผู้สมัคร 27 คน ส่วนส.ก. ทั้ง 50 เขต มีผู้สมัครเพิ่ม 3 เขต รวมผู้สมัคร ส.ก. 359 คน ขณะที่ยังไม่มีผู้สมัครนายกเมืองพัทยาเพิ่มเติมจากเดิม 4 คน
สำหรับการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. และนายกเมืองพัทยา จะมีไปจนถึงวันที่ 4 เม.ย.

‘บิ๊กน้อย-ธรรมนัส’ลงพื้นที่พิจิตร
วันเดียวกัน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย และคณะ ลงพื้นที่ จ.พิจิตร โดยมีนายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร เขต 1 พรรคเศรษฐกิจไทย ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนใน ต.บ้านนา ต้อนรับ เพื่อพบปะพูดคุยและรับฟังปัญหา จากผลกระทบสถานการณ์ระบาดโควิด-19 และค่าครองชีพสูงขึ้น พร้อมมอบถุงยังชีพ 300 ชุด ให้ประชาชนที่เดือดร้อน

พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ยินดีที่ได้มาพบปะกับประชาชนและรับฟังปัญหาทุกข์ร้อนต่างๆ เพื่อนำไปพิจารณาหาแนวทางประสานหน่วยงานภาครัฐในท้องที่และส่วนกลาง เพื่อแก้ไข ขอให้มั่นใจว่านโยบายของพรรค ยึดมั่นยืนเคียงข้างเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ด้าน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนและหัวหน้าพรรค เข้าใจปัญหาของชาวบ้านรากหญ้า ที่ส่วนใหญ่เกี่ยวกับความเดือดร้อนปัญหาปากท้อง การประกอบอาชีพในชีวิตประจำวันที่ยากลำบาก ซึ่งพรรคไม่นิ่งนอนใจ และจะเร่งช่วยเหลือโดยเร็ว

โดยเรื่องปัญหาราคาพืชผลการเกษตร ล่าสุดราคามะม่วงตกต่ำมากจนต้องเททิ้ง จึงมอบส.ส.เข้าไปประสานช่วยเหลือรับซื้อจำนวนมากในเบื้องต้น พร้อมติดต่ออ.ต.ก. ให้เข้ามาช่วยรับซื้อและหาช่องทางจำหน่ายสู่ตลาดส่วนกลาง

หลังจบภารกิจ พล.อ.วิชญ์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันเจ็ตสกี ชิงแชมป์ประเทศ ไทย ที่บึงสีไฟ สนามแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้มีก่อนที่คณะของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ ในวันที่ 4 เม.ย. เพื่อติดตามความคืบหน้าพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง- ปากนาย จ.อุตรดิตถ์, ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาบึงสีไฟ จ.พิจิตร และโครงการบางระกำโมเดล จ.พิษณุโลก

พปชร.ตั้งบิ๊กทหารเป็นกก.บห.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 3 เม.ย. พรรคพลังประชารัฐ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2565 ที่ชั้น 4 เทอร์มินอล ฮอลล์ เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน โดยมีวาระรับรองงบการเงินประจำปี รายงาน ผลการดำเนินการของพรรค การเสนอแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง และเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง

รายงานข่าว เปิดเผยว่า ในที่ประชุมจะมีการเสนอแต่งตั้งกก.บห.แทนตำแหน่งที่ว่าง 4 คน ได้แก่ พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ และอดีตฝ่ายเสนาธิการของพล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม, พล.อ. ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาค 2 ที่มีบทบาทเบื้องหลังทางการเมืองพื้นที่ภาคอีสาน ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา, นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคาดว่าจะรับรองนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่นายทะเบียนพรรค ตามที่พล.อ. ประวิตร ได้แต่งตั้งให้ทำหน้าที่รักษาการก่อนหน้านี้

พท.หวั่นคนละเบอร์-บัตรเสียพุ่ง
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีมติให้หมายเลขผู้สมัครส.ส. กับหมายเลขพรรคการเมืองใช้เป็นคนละหมายเลข ซึ่งเป็นการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งในปี 2550 ที่ประเทศไทยเคยมีบทเรียนมาแล้วว่าสร้างผลเสียมากมาย ประชาชนเกิดความสับสน เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนขึ้น จนอาจทำให้การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่เป็นไปเจตนารมณ์ของประชาชน และยังมีโอกาส ที่จะทำให้ประชาชนลงคะแนนเสียงผิดโดยไม่ตั้งใจ โอกาสที่จะมีบัตรเสียก็มีมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง จากการที่ส.ส. เขตจะต้องสื่อสารหาเสียงในพื้นที่ไปพร้อมกับการรณรงค์หาเสียงของพรรคซึ่งอาจทำให้ระบอบประชาธิปไตยของไทยอ่อนแอลงตามไปด้วยเช่นกัน

รู้สึกแปลกใจที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวน การจัดการระบบเลือกตั้ง ไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนในการเลือกตั้งปี 2550 ไม่นำเอาผลการวิจัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร่วมมือกับม.ธรรมศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัยเรื่องระบบการเลือกตั้ง พบว่าการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบแต่ใช้คนละเบอร์ ทำให้เกิดปัญหาและสร้างความสับสน จนในที่สุดเสียงเป็นเอกฉันท์ให้กลับไปใช้ระบบบัตรเบอร์เดียวในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2554

“การใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบคนละเบอร์ ทำให้ประชาชนเสียมากกว่าได้ประโยชน์ ทางออกเดียวที่จะช่วยให้เกิดการสับสนน้อยที่สุด และไม่ทำผิดรัฐธรรมนูญ คือข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่ให้ กกต.เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตก่อน แต่ยังไม่ประกาศหมายเลขผู้สมัคร หลังจากนั้นให้รับสมัครเลือกส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้พรรคจับเบอร์แล้วค่อยประกาศให้ใช้เบอร์เดียวกันทั้งสองแบบ จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด” น.ส.อรุณีกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน