กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศล่าสุด พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ผลตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 พบค่าฝุ่นระหว่าง 11-156 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

กรุงเทพฯและปริมณฑล พบค่าฝุ่นระหว่าง 40-79 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานรวม 47 พื้นที่ ภาคเหนือ ระหว่าง 67-156 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานใน 17 จังหวัด รวม 32 พื้นที่ เป็นพื้นที่สีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 19 พื้นที่ โดย จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 156 มคก./ลบ.ม. สูงสุดในประเทศ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่าฝุ่นระหว่าง 49-136 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานใน 11 จังหวัด รวม 11 พื้นที่ เป็นพื้นที่สีแดง 2 พื้นที่ ภาคกลาง ระหว่าง 38-80 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 9 พื้นที่ ภาคตะวันออก ระหว่าง 30-70 มคก./ลบ.ม. มาตรฐาน 3 พื้นที่

ภาคใต้ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงคุณภาพดี เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม มีฝนตก และลมพัดหมุนเวียนอากาศทั้งพื้นที่

อย่างไรก็ตาม พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วงระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค.นี้ เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวัง เพราะมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่

ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีแนวโน้มฝุ่นละอองเพิ่มสูงทั้งตอนบนและล่าง ระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค.และวันที่ 16-18 มี.ค. และให้ติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK

ขณะนี้ ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ขณะนี้ได้ส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพและมีผู้ป่วยแล้วจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่าทั่วประเทศมีถึง 1,449,716 ราย กรุงเทพมหานครพบผู้ป่วย 31,695 ราย

โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, ปอดอักเสบ, ไข้หวัดใหญ่, คออักเสบ, จมูกอักเสบเรื้อรังและหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

น่าเสียดาย ที่รัฐบาลไม่สามารถหามาตรการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม หนำซ้ำผู้นำกลับมีท่าทีปัดความรับผิดชอบ และโทษประชาชน

นายกรัฐมนตรีอ้างว่ารัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องนี้ทุกปี แต่บางปีก็เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องไปดูว่าเพิ่มจากตรงไหนแล้วก็ไปแก้ตรงจุดนั้น พร้อมกับระบุด้วยว่าเรื่องนี้ประชาชนจำนวนมากก็เป็นปัญหาด้วย

ดังนั้นในช่วงสถานการณ์ฝุ่นควันขนาดเล็กมากทวีความรุนแรง ประชาชนจึงต้องดูแลตนเองเป็นหลัก ทำตามมาตรการและคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข งดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย N95 หรือสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น

หากมีอาการโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ตาอักเสบ หรือผิวหนังอักเสบ ก็ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาและป้องกันไม่ให้ลุกลามจนเป็นอันตราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน