FootNote : ผลสะเทือน รัฐบาล พลังประชารัฐ จากมาตรา 44 ไปยัง “รัฐธรรมนูญ”

เห็นผลการลงมติในเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญในเรื่องประ กาศ คำสั่งคสช. และรวมถึงการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ที่ออกมา 236 ต่อ 231 แล้ว
หวาดเสียวแทนรัฐบาล หวาดเสียวแทนพรรคพลังประชารัฐในเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าความมั่นใจของผู้ประสานงานครม.กับวิปรัฐบาล ไม่ว่าความมั่นใจของประธานวิปรัฐบาล ไม่ว่าความมั่นใจของพรรคพลังประชารัฐ
ที่คิดว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ต้องแหวกก้อนเมฆเข้าไปนั่งในตำแหน่งประธานอย่างค่อนข้างแน่นอน ก็อาจเกิดความไม่แน่นอนไปตามกฎแห่งอนิจจัง ไม่เที่ยงได้
อย่ามองข้ามความเขี้ยวความคมจาก “ประชาธิปัตย์” เด็ดขาด

อย่าลืมว่าต่อญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบเนื่องแต่ประกาศคำสั่งคสช.และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.มีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมด้วย
โดยมี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย จากจังหวัดตรังนำทีมอันประกอบด้วย ส.ส.อีก 5 คน
จึงได้เห็น 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โหวตเห็นชอบ
ขณะเดียวกัน ในจำนวน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 18 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมโหวต ปรากฏว่าเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน
ตัวเลขนี้มีความละเอียดอ่อนและมากด้วยความอ่อนไหว
เป็นความอ่อนไหวอันไม่เพียงแต่ทำให้ญัตติด่วนผ่านความเห็นชอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยพื้นฐาน หากเป็นปฏิกิริยา นิ่มๆไปยังรัฐบาลไปยังพรรคพลังประชารัฐ
เป็นสงคราม “สั่งสอน” เป็นสินค้า “ตัวอย่าง” ในทางการเมือง

จากนี้จึงเท่ากับเป็นการเตือนโดยปริยายไปยังรัฐบาล ไปยังพรรคพลังประชารัฐว่า ที่คิดว่าตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญในเรื่อง ศึกษาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็ยังมีสภาวะที่ “อ-เสถียร”
ต้องดูว่าในการอภิปรายรับหรือไม่รับญัตติด่วนครั้งนี้บรรยากาศจะเป็นอย่างไร
ต้องดูด้วยว่าองค์ประกอบของกรรมาธิการวิสามัญเป็นอย่างไร
เป็นการยึดกุมอย่างเบ็ดเสร็จโดยครม. โดยพรรคพลังประชารัฐหรืออาจจะมีตัวแปรอย่างอื่นเกิดขึ้นในระหว่างทาง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน