Featured
วันที่ 29 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศใกล้เทศกาลกิเจ ประจำปี พบว่า บรรยากาศการค้าขาย ไม่เพียงร้านจำหน่ายอาหารเจตามพื้นที่ต่างๆ ที่คึกคัก แต่ยังมีพื้นที่การเกษตรริมโขง ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ที่ชาวบ้านทำอาชีพปลูกผักตลอดแนว ริมแม่น้ำโขงขาย สร้างรายได้ มีเนื้อที่นับ 10,000 ไร่ โดยในปีนี้โชคดีของชาวบ้าน ที่ระดับน้ำโขงลดเร็ว ทำให้ชาวบ้านได้เริ่มปรับพื้นที่ปลูกผักตั้งแต่ต้นปี สามารถเก็บผลผลิตได้เร็วขึ้นไปถึงช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีน ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วภาคอีสาน มาสั่งซื้อพืชผักสวนครัว เพื่อไปจำหน่ายในช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ราคาพืชผัก สวนครัวเริ่มปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ประมาณ 30 -40 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลดีต่อเกษตรกรในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง มีเงินหมุนเวียนสะพัด บวกกับในช่วงนี้เกิดปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ ทำให้พืชผักได้รับความเสียหายจนขาดตลาด ทำให้หันมาสั่งในพื้นที่ จ.นครพนม เพิ่มขึ้น ทำให้ตามตลาดสดต่างๆ มีการสั่งออเดอร์พืชผัก สวนครัว เข้ามาจำหน่ายกันคึกคัก จากการสอบถามเกษตรกร ระบุว่า สำหรับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้
ถูกกล่าวขานว่าเป็นพ่อมดน้อยทางการเงิน เพราะสามารถสร้างพันล้านได้ในเวลา 2 ปี จนได้รับฉายาว่า “มิสเตอร์พันล้าน” สำหรับ อ้วน-จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ล่าสุดเขาก็ได้เปิดบ้านให้ เอมี่ กลิ่นประทุม, บ๊วย-เชษฐวุฒิ วัชรคุณ และบอล เชิญยิ้ม จาก รายการ เดอะ เกสท์ (The Guest ) ตีสนิทคนดัง เข้าไปชมบ้านแบบทุกซอกทุกมุม ซึ่งบอกเลยว่าเว่อร์วังอลังการสุดสุดไปเลย ซึ่งเขาก็ได้เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่า “ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ แต่ผมไม่ได้ไปเกเรที่ไหนนะ ผมไปห้องซ้อมดนตรี เข้าห้องสมุด ผมชอบอ่านหนังสือแรงบันดาลใจฮาวทูของนักธุรกิจและคนที่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เด็ก ผมตั้งเป้าอย่างเดียวเลยอยากเป็นพ่อค้า อยากรวย อยากประสบความสำเร็จ ผมเลือกเรียนคณะที่เรียนง่ายจบเร็วเพื่อเอาเวลาไปขายของ ผมเริ่มด้วยการขายของตลาดนัดเลือกที่จะไม่ขอเงินพ่อแม่เลย ผมทำน้ำดื่มขาย ขายมอเตอร์ไซค์มือ 2 ตอนนี้มีบริษัทมอเตอร์ไซค์ จักรยาน ไอที โฆษณา แล้วก็เงินทุน มี 4 บริษัท ผมเขียนหนังสือสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นก็มาจากสิ่งที่ผมคิดและทำ นี่เป็นรายการแรกที่มาบ้านเลยนะผมตื่นเต้นเลยนะเนี่ย บ้านหลังนี้รวมตกแต่งก็ประมาณ 30 ล้านบาท” ว่าแล
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติและผู้สร้างวัดร่องขุ่นเปิดเผยว่าตนเองก่อสร้างวัดมาเป็นเวลา 19 ปีไม่เคยเรียกเก็บเงินจากผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวเลยแม้แต่บาทเดียวซึ่งก็มีคนบอกให้มีการเก็บมาโดยตลอดแต่ตนตั้งใจที่จะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียวในโลกที่ไม่มีการเก็บเงินแต่ภายหลังมีคณะกรรมการวัดและหลายฝ่ายเห็นฟ้องที่จะให้มีการจัดเก็บบ้างเพื่อที่จะนำเงินมาบริหารจัดการวัดครั้นที่ตนเองจะไม่ได้อยู่บริหารวัดแล้วก็จะมีเงินงบประมาณมาบริหารจัดการต่อ อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนเองหาเงินจากการขายภาพและการทำหนังสือขายเพื่อเป็นการโปรโมตวัดไปยังประเทศต่างๆ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีปีละนับล้านคนก็มาท่องเที่ยวกันเฉยๆไม่คิดจะซื้อ ตนจึงเห็นว่าการเก็บเงินแล้วเอาหนังสือแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของวัดร่องขุ่น พร้อมกระเป๋า1ใบให้ติดตัวกลับไปเผยแพร่ยังต่างประเทศ เพื่อให้คนมาเที่ยวเมืองไทย มากๆ ก็จะเป็นการดีจึงเห็นควรที่จะมีการเก็บแต่จะไม่เก็บแพง ให้เก็บเพียงคนละ50 บาทเท่านั้นโดยจะเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ยังเที่ยวชมฟรีเหมือนเดิมเพราะวัดร่องขุ้นก็เป็นว
แม่บ้านพลทหารในสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ซึ่งลาออกจากงานประจำมาดูแลลูกที่ป่วยหนัก ใช้เวลาว่างจากการดูแลลูกมาปลูกเมล่อนขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี จากการลงพื้นที่ไปที่แปลงเกษตร เศรษฐกิจพอเพียง ภายในกองพลทหารช่าง 202 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบนางเบญจมาศ สังฆมณี อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ จ.ส.อ.นิกรกิจ สังฆมณี ข้าราชการทหารในสังกัดกองพลทหารช่าง 202 พบว่าบริเวณดังกล่าวได้มีการทำเป็นโรงเรือนปิด 1 โรง ภายในมีการปลูกเมล่อนในระบบน้ำหยดซึมนับร้อยต้น ซึ่งกำลังออกลูกใกล้ถึงเวลาเก็บผลผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก จากการสอบถามนางเบญจมาศ สังฆมณี เจ้าของโรงปลูกเมล่อนแห่งนี้ ได้รับการเปิดเผยว่าก่อนหน้านั้นตนได้ลาออกจากงานประจำในโรงงาน เพื่อมาดูแลลูกสาวที่ป่วย ซึ่งทำให้ครอบครัวต้องขาดรายได้ เพราะลำพังเงินเดือนของสามีก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงใช้เวลาว่างจากการดูแลบุตรไปสมัครเข้าเรียนหนังสือที่ กศน.อำเภอเมืองนครราชสีมา ในระดับชั้นมัธยมปลาย ซึ่งทางศูนย์ กศน.ก็ได้พาไปศึกษาดูงานที่ฟาร์มของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หรือ มทส. และเกิดมีค
หมอนรองกระดูกทับเส้น เป็นที่มาของอาชีพนวด ขณะกำลังก้มหน้าก้มตาทำสวน ป้าปุ้ม หรือ คุณอาภา ปรีชากูลย์ หารู้ไม่ว่า งูพิษกำลังมุ่งตรงเข้ามาทำร้าย และจังหวะที่ป้าปุ้มเหลือบเห็นงูตัวนั้น อารามตกใจจึงผลุนผลันลุกขึ้น ทำให้เซล้มลง และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้ป้าปุ้ม แม่ค้าขายส้มตำ ต้องเข้ารับการรักษาตัว แต่ทว่าไม่ใช่เพราะถูกพิษงู แต่เพราะอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น หลังจากเข้ารับการผ่าตัด อาการก็ยังไม่ดีขึ้นนัก และระหว่างอยู่ในช่วงหัดเดิน ป้าปุ้มมองหาทางเลือกเสริมในการสร้างสุขภาพตนเองให้กลับมาแข็งแรง โดยผันตัวเองสู่การเป็นนักเรียนแพทย์แผนไทย โดยศึกษาเรียนรู้หลากหลายหลักสูตร กับกระทรวงสาธารณสุข และยังได้เรียนรู้การนวดแบบแก้อาการ จัดกระดูก กับหมอชาวจีน รวมถึงหลักสูตรนวดแบบผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง “ก่อนหน้านี้ ป้าเปิดร้านขายส้มตำ พอมาประสบอุบัติเหตุก็ทำให้อาชีพนั้นสะดุดไปด้วย เพราะมุ่งรักษาตัว จนกระทั่งไปผ่าตัด และก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรให้อาการดีขึ้น จึงไปเรียนนวดแผนไทย และเมื่อเราได้รับการดูแลโดยการนวดด้วย อาการก็ดีขึ้น จึงเริ่มศึกษาเพิ่มเติม เห็นว่าเป็นหนทางที่ดีแล้ว กระทั่งไปเรียนนวดแก
คุณเจือ พุ่มทับทิม อยู่บ้านเลขที่ 48/4 หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำขุม อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงโชคอนันต์เป็นอาชีพ แม้พื้นที่ปลูกต้องรอน้ำในช่วงฤดูฝนเพียงอย่างเดียว แต่เกษตรกรท่านนี้ก็ยังสามารถปลูกและสร้างเงินให้กับเขาได้เป็นอย่างดี คุณเจือ เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่มาทำสวนมะม่วงเหมือนเช่นทุกวันนี้ ได้เน้นการปลูกพืชจำพวก ถั่วเหลือง ฝ้าย และทำนาข้าว ด้วยผลตอบแทนที่ได้รับของการเกษตรในรูปแบบนั้น ยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก จึงมีการคิดเปลี่ยนการปลูกพืชชนิดอื่นขึ้นภายในใจ “พืชล้มลุกพวกนั้น ปีหนึ่งปลูก 2 ครั้งเอง ได้เงินมาก็ยังไม่ถึง 5,000 ต่อไร่เลย นี่ยังไม่ได้หักต้นทุนด้วยนะ ก็เริ่มคิดแล้วว่าแบบนี้ไม่ดีแน่ ต้องหาอะไรที่มันได้รายได้มากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องมีพื้นที่มากกว่าเดิม แต่รายได้ต้องมีมากกว่าเดิมที่เราทำ ก็ลองปลูกมาหลายอย่าง ช่วงนั้นโชคดีที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับมะม่วงโชคอนันต์ ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำขึ้นมาในตอนนั้นเลย” คุณเจือ เล่าถึงความเป็นมาในสมัยก่อน ซึ่งสวนมะม่วงของเขาเป็นมะม่วงแบบระยะชิด เพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่มากนัก ปลูกประมาณ 150-200 ต้น ต่อไร่ และเน้นต
วันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายสุทธิลักษณ์ หรือ “เฮียเล็ก” หรือ “เสี่ยเล็ก” เลิศวานิชย์กุล อายุ 51 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 742/1 ม.9 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อดีตเศรษฐี 100 ล้านเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ และเป็นพี่น้องกับนักการเมืองท้องถิ่นตระกูลดัง ตกอับป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวต้องเร่ร่อนขอทานและอาศัยนอนตามวัดโรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดนายโสภณ รอดชาติ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายอาคม เลิศวานิชย์กุล อายุ 53 ปี อดีต สจ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของเฮียเล็ก ได้เป็นตัวแทนญาติพี่น้องมาเข้าพบเฮียเล็ก ที่บ้านพักพิงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยภูมิ เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการช่วยเหลือเฮียเล็ก ซึ่งจากการพูดคุย เฮียเล็กมีอาการยิ้มแย้มแจ่มใสดี และมีน้ำตาคลอเบ้าตาตลอดเวลา รู้สึกดีใจอย่างมาก และรับปากสัญญาว่าจะกลับตัวกลับใจ จะพยายามเลิกดื่มสุราและเลิกเที่ยวเตร่เหมือนเก่าอีก ทั้งนี้เสี่ยเล็กยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่นำพาตนกลับคืนสู่ครอบครัวอีกครั้งด้วย ขณะที
“บิ๊กตู่” มึนแก้จราจรไทยบอกไม่รู้จะเอารถไว้ไหน เล็งทุบเกาะกลางถนนหวังเพิ่มเลนจราจร สั่งมั่นคงเร่งแก้รถติด เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการแก้ไขปัญหาการจราจรว่า ขณะนี้กรุงเทพฯ มีปัญหาเรื่องฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายในการแก้ปัญหาเพราะถือเป็นปัญหาใหญ่ของทุกเมืองในโลกคือการวางผังเมือง และไทยเป็นประเทศลุ่มต่ำหากจะระบายก็จะติดขัดเสมอ อีกทั้งระบบระบายน้ำของไทยเป็นระบบเดิมที่ยังไม่ดีพอถือเป็นปัญหาที่พันกันอยู่ สิ่งสำคัญคือเราต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดด้วยการแก้ไขปัญหาทางจราจร การสูบน้ำถ้าสูบแล้วจะนำน้ำไปไว้ที่ไหน เพราะถ้าน้ำท่วมตรงนี้ก็ไปท่วมตรงโน้นต่อ ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามทำให้เต็มที่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราก็ลดระดับน้ำได้พอสมควรแล้ว หากฝนตกมากก็อาจจะมีปัญหายาวนานมากขึ้นด้วย เราคงต้องช่วยกันเพราะถือเป็นปัญหาธรรมชาติที่แก้ยาก และเราไม่มีระบบที่ดีที่เพียงพอ “วันนี้เราต้องใช้ระบบไอทีเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาจราจรในเรื่องใบสั่งและใบอนุญาต ทั้งนี้
วันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งยังมีน้ำท่วมเป็นวงกว้างที่ อ.บางระกำ โดยเฉพาะในเขต ต.คุยม่วง ต.ชุมแสงสงคราม และ ต.ท่านางงาม น้ำจากแม่น้ำยมหลากล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ทางการเกษตรนาข้าวเสียหายนับหมื่นไร่ หลายพื้นที่ได้สร้างแนวกั้นน้ำ เช่น ที่ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ต.ท่านางงาม และ ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาท่วมนาข้าวที่อายุ 2-3 เดือน ใกล้เก็บเกี่ยว ขณะที่หลายพื้นที่น้ำท่วมสูง ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทัน แม้ชาวนาอีกหลายรายกพยายามลงแรงเกี่ยวข้าวที่จมน้ำลึก ถึง 1 เมตร เพื่อจะได้ทุนกลับคืนมาบ้าง โดยที่บ้านวังแร่ หมู่ 3 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ระดับน้ำยมไหลหลากมาจากอ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และจากคลองเมม ได้หลากมาท่วมพื้นที่นาจมมิดเป็นพื้นที่กว้าง มีชาวนาพยายามลงแรงเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำ เพียงลำพัง 2 คน เนื่องจากนาข้าวที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในไม่กี่วันข้างหน้า แต่กลับมาถูกน้ำท่วมเสียก่อน ซึ่งนายสน ด้วงต้อย และนางสมนึก ดวงต้อย อายุ 66 ปี 2 สามี-ภรรยา ได้ใช้เรือลงไปเกี่ยวข้าวในพื้นที่นาข้าวของตนเองที่ถูกน้ำท่วม ระดับคว
วันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์แห่แชร์กระทู้พันทิปจากสมาชิกชื่อ กงจื้อรอง ที่ตั้งกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีน ประเทศจีน ชื่อ “ชมภาพจิตรกรรมกำแพงเมืองจีนฝีมือคนไทย..ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก” ระบุว่า ระหว่างที่ไปดูงานที่นครเซี่ยงไฮ้-กรุงปักกิ่ง ของจีน ได้แวะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศจีน เพื่อสัมผัสกับอารยธรรมจีนอันยิ่งใหญ่ แต่แล้วเจ้าของกระทู้ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าบนกำแพงเมืองจีน มีข้อความที่นักท่องเที่ยวไทยเขียนลงบนกำแพงโบราณจำนวนมาก ทั้งชื่อ ภาษาไทยและอังกฤษ แม้กระทั่งชื่อเมืองที่นักท่องเที่ยวมา เช่น จากกรุงเทพ (Bangkok) เจ้าของกระทู้จึงถ่ายภาพร่องรอยของนักท่องเที่ยวไทยที่ไปสร้างความเสียหายบนกำแพงเมืองจีนมาบอกเล่าในเว็ปไซต์ดัง ด้านสมาชิกเว็ปไซต์พันทิป ต่างเข้ามาแสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับการที่นักท่องเที่ยวไปขีดเขียนกำแพงเมืองจีน เป็นพฤติกรรมที่ต้องแก้ไข ที่มา [CR]ชมภาพจิตรกรรมกำแพงเมืองจีนฝีมือคนไทย..ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก