จ้างงาน
ไทยมีงานทำ แพลตฟอร์มช่วยเหลือ นายจ้าง-ลูกจ้าง พบปะกัน เว็บไซต์ ไทยคู่ฟ้า เผยข่าว นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ นายสมิทธิ์ พนมยงค์ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ แถลงผลการประชุม ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 1/2563 สาระสำคัญ ดังนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชนในทุกภาคส่วนทั้งด้านธุรกิจ ผู้ประกอบการและอาชีพอิสระ จึงจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ไทยยังคงมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งระดับ Micro (ระดับพื้นที่) ซึ่งมอบหมายให้รัฐมนตรีรายกระทรวง ลงไปดูแลในระดับพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น ภัยแล้ง สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับ Macro (ระดับประเทศ) นั้น ศบศ. จะเป็นศูนย์ใหญ่
ข่าวดี! มหาดไทย เตรียมจ้างงาน 3 หมื่นอัตรา กระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน เว็บไซต์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผยข่าว พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยให้หน่วยงานเสนอโครงการผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบนั้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ ภายใต้แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน ได้แก่ โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการจ้างงานเพื่อปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ระยะเวลา 12 เดือน รวม 15,548 คน อัตราเดือนละ 5,000 บาท โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 – กันยายน 2564 ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริม
เปิด 10 อันดับ อาชีพที่มีอัตราการจ้างงานสูง ในช่วงโควิด-19 ระบาด อาชีพที่มีอัตราการจ้างสูงในช่วงโควิด – เว็บไซต์ thebalancecareers ได้เผยแพร่บทความ เกี่ยวกับ 10 อาชีพที่กำลังได้รับความนิยมจ้างงาน ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีอาชีพอะไรกันบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ 1. แคชเชียร์ และ พนักงานจัดวางสินค้าบนชั้น (พนักงานสต๊อกของ) : อาชีพที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาอะไรมากมาย แต่กลับเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยประสบการณ์ในการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว โดยค่าตอบแทนของอาชีพนี้อยู่ราวๆ 10-11 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อชั่วโมง หรือถ้าจะตีเป็นเงินไทย อยู่ที่ประมาณ 300-350 บาท 2. พนักงานขับรถส่งอาหาร : อาชีพยอดฮิตที่แอดเชื่อว่า ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็อยู่ในช่วงเฟื่องฟูช่วงหนึ่ง เพราะเมื่อโควิด-19 มาเยือน ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบ ร้านอาหารก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ช่องทางสั่งออนไลน์ หรือ ดีลิเวอรี่กันมากขึ้น นายแอนดริว (Andrew Challenger,Senior VP of Challenger, Gray & Christmas, Inc.,) ได้ยกตัวอย่าง การจ้างงานพนักงานขับรถส่งอาหารของร้าน Domino ในสหราชอาณาจักร ที่มีเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 อัตรา ซึ่ง
กรมบัญชีกลาง ขยายเวลาการจ้างงาน แก้ปัญหาความเดือดร้อน จากสถานการณ์โควิด-19 จ้างงาน – เพจ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้เผยแพร่ข่าว กรมบัญชีกลางอนุมัติให้กระทรวงแรงงานขยายระยะเวลาการจ้างงาน โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ กิจกรรมจ้างงาน ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากเดิมให้จ้างคนละไม่เกิน 10 วัน ขยายเป็นคนละไม่เกิน 90 วัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาทางด้านเศรษฐกิจ ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะแรกโดยเฉลี่ยระยะเวลา 90 วัน และกระทรวงแรงงานได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาการจ้างงานในโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ กิจกรรมจ้างงาน ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้มีรายได้ ให้สามารถยังชีพได้ต่อไป กรมบัญชีกลางจึงได้อนุมัติให้กระทรวงแรงงาน เบิกจ่ายค่าตอบแทนการทำงานของโครงการดังกล่าว ในอัตราคนละไม่เกิน 300 บาทต่อวัน ปฏิบัติงานวันละ 8 ชั่วโมง โดยขยายระยะเวลาการจ้างงานให้เป็นคนละไม่เกิน 90 วัน ซึ่งจากเดิมระยะเวลาการจ้างงานคนละไม่เกิน 10 วัน เริ
60+ ไม่ไร้ค่า “โฮมโปร” เดินหน้าจ้างงาน “ผู้สูงวัย” สวัสดิการเทียบเท่า พนง. ทั่วไป จากข้อมูลของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย พบว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยมาตั้งแต่ปี 2546 โดยมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 6.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าปี 2564 ไทยจะเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึงร้อยละ 20 และในปี 2574 จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 จากอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุดังกล่าวส่งผลให้ภาครัฐ และภาคเอกชน อย่าง “โฮมโปร” ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม พร้อมสร้างคุณค่าให้กับผู้สูงอายุเหล่านี้ ด้วยการสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ ผ่านโครงการ YOUNG SMART หรือ “ยังสามารถ” เพราะเชื่อว่า ประสบการณ์ สำคัญกว่า อายุ นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไป สายสื่อสารการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร กล่าวว่า โฮมโปรไม่ได้เพียงแต่ให้โอกาสรับสมัครพนักงานรุ่นใหม่เพื่อเป็นครอบครัวของโฮมโปรเท่านั้น แต่ยังเล็งเห็นถึงศัก
เทสโก้ โลตัส รับสังคมสูงวัย พร้อมจ้างงานวัยเกษียณ ในโครงการ “60 ยังแจ๋ว” ทำงานทุกสาขาทั่วประเทศ เทสโก้ โลตัส จับมือ กระทรวงแรงงาน ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เปิดรับสมัครผู้สูงอายุ วัย 60 ปีขึ้นไป ทำงานในสาขาของ เทสโก้ โลตัส กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “60 ยังแจ๋ว” พร้อมมอบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์พนักงานที่ตอบโจทย์ผู้สูงวัย อาทิ เงินสมทบค่ารักษาพยาบาล และตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อทำงานครบตามกำหนด โดยรับพนักงานสูงอายุไม่จำกัดจำนวน คาดว่าในปีแรกจะมีผู้สูงอายุสมัครงานหลายพันคน เนื่องจากสามารถเลือกทำงานที่สาขาเทสโก้ โลตัส ใกล้บ้าน และมีตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นตามความสะดวก คุณอรกานดา อรรถวิภัชน์ ประธานกรรมการฝ่ายทรัพยากรบุคคล เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส มีนโยบายในการสร้างโอกาสให้พนักงานสามารถก้าวสู่จุดหมายของชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และความต้องการด้านอื่นๆ ในชีวิต ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ.2564 โดยคาดว่าจะมีจำนวนประชากรที่อายุมากกว่า 60 ปี เป็นจำนวนมากถึงร้อยละ 20 ข
ซีพีแลนด์ ลงขันจีนปักธงนิคมอุตสาหกรรม ‘ซีพีจีซี’ มูลค่า 9,000 ล้าน ก่อสร้างปีหน้า ดึงนักลงทุนจีนตั้งโรงงานไม่ต่ำกว่า 100 ราย คาดสร้างเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้าน ผุดนิคมฯซีพีจีซี – นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทมีแผนจะลงทุนพัฒนาในโครงการนิคมอุตสาหกรรมในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากประเทศจีน จัดตั้งบริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด ให้เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการอุตสาหกรรม และดำเนินกิจการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนิคมพัฒนา และ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 50% และบริษัทกว่างซีฯ จีน ถือ 48% ส่วนอีก 2% เป็นบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง ไทยแลนด์ ภายใต้เงินทุน 3,500 ล้านบาท แต่หากรวมที่ดินเป็นเงินลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าโครงการประมาณ 9,000 ล้านบาท มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 3,068-1-15 ไร่ โดยแบ่งเป็น เข