ศิริราช
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้ทางรพ.ศิริราชได้ระดมเงินบริจาค และจากการเดิน-วิ่ง ออกกำลังกาย ภายในรพ. 1 รอบ สมทบ 10 บาท ซึ่งเป็นกิจกรรมของบุคลากรในโรงพยาบาลศิริราช และศิริราชปิยะมหาราชการุณย์ เพื่อสมทบโครงการก้าวคนละก้าว ของตูน บอดี้สแลม นำเงิน ช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาล ผลการดำเนินการงาน ได้รับเงินบริจาครวม 620,000 บาท ซึ่งในวันที่ 6 ธันวาคม ทางคณะแพทย์ศิริราชฯ เตรียมมอบเงินส่วนนี้ให้กับตูน พร้อมยกย่องการกระทำของตูน บอดี้สแลม ว่า ถือเป็นหนึ่งของผู้ที่กระทำความดี เพื่อประเทศ เป็นบุคคลที่มีเจตนาดี ในการช่วยเหลือโรงพยาบาล เพราะหลายโรงพยาบาล ล้วนแต่ขาดรายได้ ที่เพียงพอ อีกทั้งยังถือเป็นโอกาสอันดีในการสนับสนุนให้คนไทย หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ที่มา : มติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. หลังจากที่มีการโพสต์ภาพต้นศรีตรังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปลูกไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช เกิดใบร่วงยืนต้นตายนั้น ที่ตึกสยามินทร์ รพ.ศิริราช ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อดีตหัวหน้าคณะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า เรื่องต้นศรีตรัง เมื่อตอนพระองค์ท่านทรงประชวรอยู่ เสด็จออกมาแล้วรับสั่งว่า ที่ศิริราชมีต้นศรีตรังหรือยัง ตนบอกยังไม่มีพระพุทธเจ้าคะ “พระองค์ทรงตรัสให้ปลูกต้นศรีตรังต้นเล็กๆ โดยพระองค์เสด็จมาปลูกด้วยพระองค์เอง กระทั่งช่วงพระองค์ทรงประชวรหนัก ใบต้นศรีตรังได้ร่วงลงมา โดยไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ทางสำนักพระราชวังจึงเข้ามาดูแล”ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว สำหรับต้นศรีตรังต้นนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน จากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังบริเวณสนามหญ้าด้านข้างลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อทรงปลูกต้นศรีตรังจำนวน 2 ต้น เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ขอบคุณภ
เมื่อวันที่14ตุลาคม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตรรักษาราชการแทนรองผบู้ญัชาการตารวจนครบาลรับผิดชอบงาน จราจร เปิดเผยว่า กองบัญ ชาการตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมเส้นทาง การรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก ด้านการจราจร ในพิธีเคลื่อนพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จะมีการเคลื่อนพระบรมศพออก จากโรงพยาบาลศิริราช ในเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้มาประดิษฐานพระบรมศพ ณ พระที่นั่ง ดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า จะมีการเคลื่อนขบวนพระบรมศพออกจากโรงพยาบาลศิริราช ใช้เส้นทางถนนอรุณอัมรินทร์ ข้ามสะพาน พระปิ่นเกล้า เลี้ยวขวาเข้าหน้าถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหาราช เข้าทางประตูเทวาภิรมณ์ พระบรมมหาราชวัง โดยตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนผ่านนั้นจะมีการปิดการจราจรชั่วคราวในเส้นทางดังกล่าวและเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชนท่ีประสงค์มาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย และรักษาความปลอดภัย อาจพิจารณาปิดการจราจรเพิ่มเติมถัดไปอีกหน่ึงทางแยกจากเส้นทางเสด็จ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนท่ีจะเดินทางมาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จ สู่สวรรคาลั
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 13 ต.ค. บริเวณประตู 8 ทางออกเรือข้ามฟากรพ.ศิริราช – ท่าพระจันทร์ มีประชาชนจำนวนมาก ยืนรอที่จะเข้าไปยังรพ.ศิริราช เพื่อถวายความเคารพภายหลังจากทราบข่าวสำนักพระราชวังประกาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้ทำการเปิดทางให้ประชาชนที่ทยอยออกจากโรงพยาบาล และให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้าและออกไปใช้ช่องทางบริเวณประตู 1 ฝั่งด้านข้างโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ได้สั่งห้ามเข้ามาในบริเวณภายในโรงพยาบาลแล้ว โดยได้ให้ประชาชนทยอยกลับเดินออกไปยังถนนใหญ่เพื่อเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งประกาศจากทางสำนักพระราชวังผ่านเสียงตามสาย โดยจะมีพิธีเคลื่อนขบวนพระบรมศพทางด้านหน้าประตู 8 ข้ามสะพานอรุณอมรินทร์ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)ในช่วงบ่ายวันที่14ต.ค. ขอให้ประชาชนสวมชุดดำมาเฝ้าขบวนพระบรมศพตามเส้นทางในช่วงวันเวลาดังกล่าว ที่มา ข่าวสด
ผู้สื่อรายงานว่าเมื่อเวลา 18.53 น. วันที่ 13 ตุลาคม ภายหลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 39 พสกนิกรที่มาร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพรและติดตามแถลงการณ์พระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างร่วมกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้องศาลาศิริราช 100 ปี ด้านหน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยหันหน้าไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 16 ที่ประทับด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา พร้อมทั้งส่งเสียงร้องไห้ระงมไปทั่วศาลาศิริราช 100 ปี ขณะเดียวกันหลังจากมีการประกาศผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ประชาชนต่างดูการถ่ายทอดผ่านสมาร์ทโฟน และอ่านข่าวในเว็บไซต์ และตะโกนทรงพระเจริญกึกก้อง ต่างร้องไห้กันระงมลาน หลายคนตะโกนว่า “พ่อหลวงของปวงชน” “ไม่จริงใช่ไหม” “หนูรักพ่อ” “ขอพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย” “ทรงพระเจริญ” อย่างไม่ขาดสาย และต่างชูพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือหัว เวลา 19.21 น. ประชาชนต่างพากันร่ำไห้ระงมไปทั่วโรงพยาบาลศิริราช ก่อนพากันยืนร่วมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วทยอยเดินทางกลับทั้งใบหน้ามีคราบน้ำตา
ที่มา ข่าวสด
เมื่อเวลา 16.54 น. วันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้เสด็จมาถึงโรงพยาบาลศิริราช ตามลำดับ โดยประชาชนยังคงทยอยเดินทางมายังโรงพยาบาลศิริราชมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มบริเวณลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ และบริเวณทางเดินใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยทั้งหมดร่วมใจกันสวดมนต์บท “โพชฌังคปริตร” อย่างต่อเนื่อง เพื่อขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงหายจากพระอาการประชวร จากนั้นทั้งหมดได้เปล่งคำว่า “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง และร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา ที่มา ข่าวสด